เรื่องมีอยู่ว่าเรากะบเพื่อนคนนี้สนิทกันมากเราไม่มีความลับอะไรกับเพื่อนเลยแม่แต่รหัสบัตรATM ของเราเราก็บอกเพื่อนเราไม่คิดเลยว่าเพื่อนจะกล้าทำแบบนี้กับเราเอาไลน์เราไปคุยกับคนที่มีครอบครัวอยู่แล้ว แล้วคนที่เพื่อนเราคุยด้วยเขาก็ให้เงินเพื่อนเราแต่ดันโอนเข้าบัญชีเรา เราเป็นคนมีหลายบัญชีส่วนบัญชีที่เราให้เพื่อนรู้รหัสคือบัตรที่ไม่ค่อยได้ใช้เราไใ่คิดว่าเพื่อนเราจะให้คนนั้นโอนเข้าบัญชีเรามันก็เป็นความผิดของเราด้วยแหละที่ไม่เช็คไม่อะไร เพราะมีวันนึงเพื่อนยืมไปกดตังบอกบัตรมันหายตอนนั้นยังไม่มีกดเงินแบบไม่มีบัตรเนาะ เราก็ให้ไปตกอีกวันนึงเพื่อนบอกกูทำบัตรหายเมื่อคืนดูไปเที่ยวมาเราก็บอกเออไม่เป็นไรบัตรนี้กูไม่ค่อยได้ใช้อยู่ละเดี๋ยวปล่อยให้มันตัดไปเอง(ไม่รอบครอบ) พออยู่มาวันนึงภรรยาเขาดันจบได้ขึ้นมาว่าสามีนั้นคุยอยู่กับใครยังไงแล้วไปเจอสลิปโอนเงินเป็นชื่อเรา เพื่อนของเพื่อนก็ทักมาถามว่าได้คุยกับคนนี้มั้ย ตอนนี้ภรรยาเขาจับได้แล้วนะว่าสามีเขาคุยกับคนชื่อนี้ โอนเงินให้กันเท่าไหร่บราๆ เราก็ตกใจห้ะ! อะไรยังไงยังไม่เข้าใจอีกพอเพื่อนมาเล่าให้ใังถึงกับบางอ้อ🤯🤯🤯🤯 อยากจะฆ่าเพื่อนที่ไว้ใจคนนั้นทิ้งไม่คิดว่าจะทำแบบนี้กับเราได้เพราะเรากินอยู่ด้วยกันทุกวัน ตอนนี้หลักฐานก็มัดตัวเราครั้งแรกว่าจะเออยอมรับผิดเองเพราะหลักฐานมันก็ชัดอยู่ละว่าเป็นชื่อบัญชีเรา แต่ไปๆมาๆรับแรงกดดันสังคมไม่ไหวยอมพูดความจริงว่าเราไม่รู้เรื่องเงินที่โอนเขามาบัญชีนี้เราไม่ได้ใช้แล้วเพื่อนเราเอาไปใช้ครั้งสุดท้ายแล้วบอกหายเราเลยไม่สนใจเลยปล่อยไม่ได้แจ้งความเพราะคิดว่าหายแค่บัตรเงินในนั้นก็ไม่มีเลยเฉยๆ แต่หยั่งว่าเรายิ่งพูดเหมือนเรายิ่งแก้ตัวป่ะเพราะหลักฐานมันเป็นชื่อเราอ่ะเราเลยไม่อยากจะพูด ไม่ใช่ไม่อยากจะพูดแต่พูดไม่ออกเพราะหลักฐานชัดมากแม่🥺 เครียดนะไม่กินข้าวมา2-3วันแล้ว กลัวเขาจะเอาเราไปพูดแต่ใจนึงก็ทำใจไว้แล้วว่าเขาต้องเอาเราไปพูดแต่เอาเข้าจริงรับไม่ได้ ภาพลักษณ์ที่กูเคยมีมาเสื่อมหายไปหมดเลย #แบบนี้เราควรจัดการกับความรู้สึกและสภาพแวดล้อมยังไงดีคะ #ตอนนี้ไม่รู้คิดไปเองมั้ยว่าเรามองหน้าใครไม่สนิทเหมือนเมื่อก่อนเลย #กลัวโดนรังเกียจ #บราๆ