วันเสาร์ 12 พ.ย.65 ที่ผ่านมา ได้พาลูกชายไปเที่ยวรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในจ.ปราจีนบุรี ร่วมกับลูกๆ ของเพื่อนๆ
เพราะอยากให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น ได้เล่นกิจกรรมภายในรีสอร์ต แต่สิ่งที่ได้เจอกลับไม่เป็นดั่งใจ ขออนุญาตรีวิวดังนี้ครับ
ที่พัก :
- บ้านพักโซนB ราคาจัดโปรโมชั่น 1,9xx บาทพร้อมบัตรกิจกรรม ห้องพักค่อนข้างเก่า ที่นอนเป็นฟูก 4 ฟูกวางต่อกัน ฟูกกับหมอนถือว่าOK ไม่นิ่มไม่แข็งจนเกินไป แต่แอร์เก่าเสียงดังมาก(เสียงเหมือนไดร์เป่าผม)
- ปลั๊กทีวีเป็นแบบ3ตา อยู่ 2ช่องใช้เสียบปลั๊กทีวีและกล่องสัญญาณ นอกนั้นปลั๊กจะเป็นแบบ2ตา ใครเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เป็น 3ตามาต้องใช้เต้าไฟตรงทีวีอย่างเดียว สัญญาณ Wifi ของรีสอร์ตไม่แรงเลยหลุดบ่อยมาก สัญญาณTrueก็ไม่ค่อยแรง ดังนั้นใครคิดว่าจะเอา Notebook มาทำงานด้วย อาจจะลำบากสักหน่อย (ไม่ทราบเหมือนกันสัญญาณค่ายไหนแรงบ้าง เพราะทุกคนมาใช้เวลากับลูก มีบ้างที่ใช้สัญญาณเน็ตในการทำงานแต่ก็ลำบากพอสมควร)
- ห้องน้ำเป็นชักโครก ไม่มีโซนแห้งกับเปียก มีเพียงผ้าม่านกั้นฝักบัวอาบน้ำ ซึ่งผ้าม่านก็ไม่ได้กันน้ำได้เท่าไร อาบน้ำแล้วพื้นตรงชักโครกจะเฉอะแฉะมาก ผ้าเช็ดเท้าไม่มีให้ ส่วนนี้ไม่เป็นไร รีบใช้ รีบออกจากห้องน้ำได้
- มีผ้าขนหนู ยาสระผม สบูjเหลวให้ แต่ไม่มีไดร์เป่าผมกับหมวกคลุมผมให้ (ใครจะเป่าผม ต้องเตรียมไดร์เป่าผมมาเอง)
- รีสอร์ต งดทำอาหาร และ งดเสียงดังหลัง 4 ทุ่ม อันนี้ถือว่าดีครับ แต่ที่พักรอบๆใกล้โซนB ก็เปิดเพลงร้องคาโอเกะเสียงดังอยู่ดี555
* ในส่วนที่พักไม่ค่อยดี ถ้าเทียบกับราคา 1,9xx ควรบริการดีกว่านี้
- บรรยากาศยามค่ำคืน อากาศเย็นสบาย แต่กลางวันลมไม่ค่อยมี ร้อนอบอ้าวมากๆ
- หน้าบ้านที่พัก จะมีต้นมีก้านคล้ายๆกับสับปะรดสี มีหนามคม ต้องระวังโดนชน เกี่ยวบาดเจ็บได้ ลูกของเพื่อนโดนกิ่งอันนี้เกี่ยวที่หน้ามีแผลถลอก ต้องระวังมากๆครับ
อาหาร :
อาหารเช้ากับเย็น ตามมาตรฐานทั่วไป ไม่ดี ไม่แย่ ครัวปิดตอน 2 ทุ่ม
ที่นี่ค่อนข้างลึกและเปลี่ยว ห่างไกลจากร้านสะดวกซื้อ ดังนั้นควรเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์ของใช้มาให้ครบ มิฉะนั้นจะออกไปหาซื้อยากพอสมควร (ร้านสะดวกซื้อไม่น่าจะมาส่งให้ด้วย)
สวนน้ำ :
สวนน้ำค่อนข้างสะอาดดีครับ แต่พ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆ ควรดูแลบุตรหลานให้ดี เตรียมชูชีพมาเองครับ (สวนน้ำมีแผ่นโฟมให้บริการ แต่เด็กเจ้าเนื้อหน่อยเกาะแล้วจะจมน้ำ) สวนน้ำจะปิดบริการตอน 18.30 น. ระหว่างเปิดบริการจะไม่มีจนท.ดูแลความปลอดภัย .... แต่พอ 18.30 น. ไฟสระจะไม่เปิด จะมี จนท.มาเดินส่องไฟฉายด้วยใบหน้ามุ่ยๆ บอกกลายๆว่าหมดเวลาให้รีบขึ้นน้ำได้แล้ว ส่วนตัวคิดว่าสวนน้ำปิดเร็วไปหน่อยครับ เพราะรีสอร์ตให้เช็คอินตอนบ่าย2 แต่กลางวัน-บ่ายๆ แดดแรงมากๆ แดดร่มก็ประมาณ 5 โมงเย็น มีเวลาเล่นน้ำได้น้อยเกินไป
*สวนน้ำไม่มีจนท.ช่วยดูแลความปลอดภัย ดังนั้นหากบุตรหลานจะเล่นสไลเดอร์สูง ผู้ปกครองต้องดูแลกันให้ดีๆ พลาดตกลงมาแขนหักไปส่งโรงพยาบาลลำบากพอสมควร
ฐานผจญภัย การเล่นกลางแจ้งต่างๆ :
หลังกินข้าวเช้าเสร็จ และถึงเวลาเริ่มกิจกรรมตามฐานต่างๆ ทางคณะเราต้องไปยืนรอ จนท.ก่อนทุกฐาน จนต้องโทรไปตามจนท.ทั้งฐานปีนหน้าผาจำลองและฐานยิงธนู จนท.มาถึงก็ไม่ได้มาตรวจสอบอุปกรณ์ก่อน มาถึงหยิบอุปกรณ์มาให้ใช้เลยเพราะจนท.มาสายนั่นละ .....ส่วนฐานปีนป่ายผจญภัย 7ฐาน ทางจนท.แจ้งว่าเด็กเล็กๆ 5-6 ขวบ ซึ่งสูงเกิน 110 ซม.ทุกคน ไม่สามารถเล่นได้ ความสูงไม่พอ ทั้งที่บางจุดก็สามารถจะเล่นได้อยู่ (แต่ในโฆษณาดันไม่บอกว่าจำกัดความสูงเด็ก หรือ บอกอายุขั้นต่ำเลย) เท่าที่สังเกตจุดปีนป่ายนี้มีจนท.คนเดียว แต่ลูกค้ามาหลายคน ทางจนท.ดูแลไม่ทัน สรุปฐานนี้ คณะเรามีเด็กอายุ 11 ขวบเล่นได้คนเดียว [ใจพ่อแม่ อยากให้ลูกๆ ทุกคนได้เล่นแท้ๆ ]
....ฐานปีนหน้าผาจำลอง อุปกรณ์เซฟตี้ถือว่าok ปลอดภัย แต่ทุกฐานของที่นี่ดูไม่สะอาด คณะหนึ่งเล่นเสร็จ ก็ให้อีกคณะมาเล่นต่อเลย ใช้งานเสร็จไม่ทำความสะอาดเลย แล้วคนที่มาเล่น หรือ จนท.ก็ไม่ใส่แมสก์กัน *_* เสี่ยงติดโควิดมากครับ (คณะเราพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์กันเอง)
และตรงจุดปีนหน้าผา ก็เหม็นซากสัตว์รุนแรงอยู่ ^_^''
สรูป ลูกๆ 5-6 ขวบของเรา 3 คน ได้เล่นน้ำ , ยิงธนู , ปีนหน้าผาจำลอง แค่นั้น (ปีนป่าย 7 ฐานไม่ได้เล่น จนท.อ้าง ความสูงเด็กไม่พอ) ไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปเลย เพราะตั้งใจจะให้ลูกๆได้มาเล่นกิจกรรมต่างๆ
.....ด้วยกิจกรรมที่เด็กน้อย เล่นได้น้อย จึงไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าแทน ก็แจ็กพอตแตกอีก เสาวอลเลย์บอล(หรือเสาตะกร้อไม่แน่ใจ) ที่นี่จะมีเสาตาข่ายอยู่ 2 จุดอยู่ตรงสนามหญ้า จะมีเสาคู่หนึ่งไม่มีตาข่าย แต่อีกจุดหนึ่งมีตาข่ายขึงไว้แต่ชำรุด สายตาข่ายเก่าและมีสายด้านล่างหลุดย้อยห้อยลงมา ถ้าไม่สังเกตดีๆก็ไม่เห็นจริงๆ ซึ่งเด็กน้อย 3 คนวิ่งเล่นในสนามหญ้ากันสนุกสนานวิ่งไปนั่งชิงช้า(ชิงช้าสกปรก มีใบไม้และขี้นกและเก่ามาก) และก็วิ่งมาอีกจุดใกล้ๆที่กินข้าวเช้า เด็กๆก็วิ่งลอดใต้ตาข่ายกันแต่มีลูกผมวิ่งแล้วโดนสายตาข่ายที่ห้อยย้อยลงมาเกี่ยวเข้าที่คอ ด้วยแรงวิ่งทำให้เกี่ยวคอจนเป็นรอยแดงรอบๆคอ ลูกเราร้องไห้หนักมาก เรารีบดึงสติไปดูลูกว่าบาดเจ็บหนักหรือป่าว? ดูหลอดลมคอปกติดีไหม? หายใจได้ไหม? รีบอุ้มลูกพาเข้าที่ร่มๆ ซึ่งเคราะห์ดีลูกไม่ได้บาดเจ็บหนัก ยังพูดได้ มีสติ ยังชี้ให้ดูว่าสายตาข่ายขาดห้อยลงมาเกี่ยวคอเค้า และโชคยังดีที่เสาตาข่ายไม่ล้มทับลงมาด้วย เพราะฐานตาข่ายที่มาดูภายหลังก็เป็นเพียงปูนเทกับยางรถยนต์เก่าเท่านั้น [ถ้าใครจะด่าว่า ทำไมพ่อแม่ไม่ดูแลลูกให้ดีๆ ไม่ดูตาข่ายให้ดีละ ทำไมปล่อยเด็กวิ่งไปโดนตาข่ายเกี่ยวคอได้ ...ต้องบอกก่อนว่าทางผมยืนดูลูกกับลูกเพื่อนๆ ทั้ง 3 คนตลอด เสาตาข่ายมันอยู่ในสนามหญ้า 2 จุด แต่จุดที่มีตาข่ายชำรุดอยู่ตรงบริเวณทาง ที่จะเข้ามาตรงเต็นท์ที่กินอาหารเช้าที่ทางแม่ๆนั่งกินข้าวอยู่ ซึ่งธรรมชาติของเด็กๆ ก็ชอบวิ่ง ชอบมุด ชอบปีน เล่นซนกันตามปกติของเด็กทั่วๆไป เราจะให้ลูกเล่นสนุกมีอิสระอยู่ในสายตา และที่ผ่านมาก็เคยพาลูกไปสนามเด็กเล่นหรือรีสอร์ต หรือ ริมทะเลที่ตาข่ายวอลเลย์บอลแบบนี้ เด็กๆก็วิ่งลอดตาข่ายกัน ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และถ้าไม่สังเกตดีๆ ดูใกล้ๆก็ดูไม่ออกหรอกว่า สายตาข่ายมันชำรุดห้อยย้อยลงมาครับ]
.....ซึ่งที่ผิดหวังมากๆ ก็คือ การบริการของรีสอร์ตแห่งนี้ ผมไปแจ้งจนท.รีสอร์ต ว่าลูกเราโดนสายตาข่ายเกี่ยวคอ ทางจนท.ไม่ได้สนใจอะไรใดๆ ไม่แม้แต่จะขอโทษ หรือ ถามอาการน้องซักคำ ไม่ช่วยหายามาปฐมพยาบาลให้ ต้องเป็นทางเราต้องขอน้ำแข็งและหาผ้าสะอาดชุบน้ำมาทำความสะอาดเองหมด **ถ้าเกิดอุบัติเหตุหนักๆ ตกจากที่สูงแขนขาหัก หรือโดนงูกัด คงลำบากมากๆ ทางเข้ารีสอร์ตก็ค่อนข้างลึก ขรุขระ ไกลจากโรงพยาบาลพอสมควร สถานที่กว้าง หาจนท.รีสอร์ตก็ยาก แถมไม่มีหัวใจด้านบริการอีก (หน้าบึ้งทุกคน)
....ทางผมได้แจ้งปัญหาของเราไปใน inbox ของทางรีสอร์ต ให้ปรับปรุงตาข่ายด่วน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับคนอื่นๆอีก ซึ่งแอดมินผู้หญิงก็ขอโทษดีอยู่นะครับ(ชื่นชมที่ใช้คำว่า นะคะ ได้ถูกต้องอยู่ในใจ) พอกลับถึงกรุงเทพฯ คอลูกเริ่มแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทางเรากลัวการอักเสบ จึงพาลูกไปรักษาที่ รพ.นครธน แผนกฉุกเฉินตอน2 ทุ่ม(กว่าจะเสร็จก็ 3 ทุ่มกว่า) ซึ่งคุณหมอมาตรวจดูแล้วไม่อันตราย หลอดลมคอปกติ ไม่มีอาการเจ็บกระดูกคอ คุณหมอยังบอกว่าโชคดีมากที่สายตาข่ายไม่โดนตรงกลางคอตรงๆ มิฉะนั้นหลอดลมคออาจจะแตก กระดูกคออาจเคลื่อนบาดเจ็บได้ และถ้าตาข่ายเป็นขดลวดคงบาดเจ็บหนักแน่นอน คุณหมอทำแผลและให้ยามาทาแก้อักเสบ ไม่ได้นัด follow up ต่อ ค่ารักษาพยาบาลประมาณ 1,3xx บาท
....ทางเราเบาใจที่ลูกไม่บาดเจ็บหนัก แต่อุบัติเหตุเกิดจากอุปกรณ์ของรีสอร์ตเก่าและชำรุด และจนท.รีสอร์ตก็ไม่ใส่ใจดูแลให้ดี ทางผมไม่คิดจะมา Post รีวิวแบบนี้แต่อย่างใด ค่ารักษาลูกก็จ่ายไปก่อนไปเบิกประกันของโรงเรียนลูกได้ภายหลัง
แต่ก็อยากให้รีสอร์ตได้รับผิดชอบบ้าง จะได้ปรับปรุงอุปกรณ์และการบริการให้ดีขึ้น ระมัดระวังมากขึ้น จะได้ไม่เกิดเหตุกับเด็กคนอื่นๆอีก
....ดังนั้นผมจึงส่งบิลค่ารักษาไปใน inbox ของทางรีสอร์ต เพื่อให้ทางรีสอร์ตช่วยรับผิดชอบเยียวยาค่ารักษาพยาบาลให้ ...โดยเราไม่ได้เรียกร้องเงินชดเชยอื่นๆเลย ไม่ได้เรียกค่าทำขวัญอะไร ขอค่ารักษาที่จ่ายไปตามจริงเท่านั้น แต่แอดมินเพจตอบกลับมาแบบห้วนๆ
"ขอเลข บช." ....อึ้งรอบแรก
หลังจากส่งเอกสารหลักฐานการเข้าพัก เลขบัญชีธนาคารของเรา ทางรีสอร์ตก็โอนเงินค่ารักษาพยาบาลมาให้เร็ว
ทางเราก็รู้สึก OK นะ ยังมีความรับผิดชอบ จบด้วยดี อยากจะพิมพ์ ขอบคุณ แต่ๆ......
กลับ
โดนเพจ Block ซะงั้น
...อึ้งรอบสอง
....รู้สึกได้เลยว่าทางรีสอร์ตนี้ไม่มีความจริงใจ และคงไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดแต่อย่างใด โอนเงินค่ารักษาให้จบๆไป แบบขอไปที (ถ้าคิดว่าทางเราหน้าเงิน ก็คงไม่ขอแค่รักษา 1,3xx บาทหรอกครับ คงเรียกค่าทำขวัญมากกว่านี้ไปแล้วละ เราต้องเดินทางพาลูกมาโรงพยาบาล ต้องเห็นลูกร้องไห้เพราะแสบแผลที่คอ ลูกเจ็บตัวแบบนี้ได้เท่าไรก็ไม่คุ้มครับ )
...พาลูกเที่ยวมาหลายที่ แต่ไม่เคยเจอรีสอร์ตบริการแย่ๆ แบบนี้มาก่อนในชีวิต เราและคณะรู้สึกแย่กับที่พักที่เก่า ไม่สะอาด และการบริการแย่ๆ มาก
แล้ว ยังต้องเจอแอดมิน,เจ้าของรีสอร์ตแบบนี้อีก ....ไม่แปลกใจที่พนักงานจะหน้ามุ่ย ไม่ต้อนรับแขก
... สำหรับที่นี่ไปครั้งเดียวก็เกินพอจริงๆ เด็กได้ผจญภัยจริงๆ
ภัยพิบัติ
ปล.ควรทำประกันอุบัติเหตุก่อนไปเที่ยวที่นี่ครับ
คะแนนที่พัก การบริการ : ติดลบครับ
[CR] รีวิวรีสอร์ต ผ. แคมป์ฯ สะพานหิน จ.ปราจีนบุรี ไปครั้งเดียวก็เกินพอ คอลูกเกือบแตก [พ่อแม่ควรระวัง]
เพราะอยากให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น ได้เล่นกิจกรรมภายในรีสอร์ต แต่สิ่งที่ได้เจอกลับไม่เป็นดั่งใจ ขออนุญาตรีวิวดังนี้ครับ
ที่พัก :
- บ้านพักโซนB ราคาจัดโปรโมชั่น 1,9xx บาทพร้อมบัตรกิจกรรม ห้องพักค่อนข้างเก่า ที่นอนเป็นฟูก 4 ฟูกวางต่อกัน ฟูกกับหมอนถือว่าOK ไม่นิ่มไม่แข็งจนเกินไป แต่แอร์เก่าเสียงดังมาก(เสียงเหมือนไดร์เป่าผม)
- ปลั๊กทีวีเป็นแบบ3ตา อยู่ 2ช่องใช้เสียบปลั๊กทีวีและกล่องสัญญาณ นอกนั้นปลั๊กจะเป็นแบบ2ตา ใครเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เป็น 3ตามาต้องใช้เต้าไฟตรงทีวีอย่างเดียว สัญญาณ Wifi ของรีสอร์ตไม่แรงเลยหลุดบ่อยมาก สัญญาณTrueก็ไม่ค่อยแรง ดังนั้นใครคิดว่าจะเอา Notebook มาทำงานด้วย อาจจะลำบากสักหน่อย (ไม่ทราบเหมือนกันสัญญาณค่ายไหนแรงบ้าง เพราะทุกคนมาใช้เวลากับลูก มีบ้างที่ใช้สัญญาณเน็ตในการทำงานแต่ก็ลำบากพอสมควร)
- ห้องน้ำเป็นชักโครก ไม่มีโซนแห้งกับเปียก มีเพียงผ้าม่านกั้นฝักบัวอาบน้ำ ซึ่งผ้าม่านก็ไม่ได้กันน้ำได้เท่าไร อาบน้ำแล้วพื้นตรงชักโครกจะเฉอะแฉะมาก ผ้าเช็ดเท้าไม่มีให้ ส่วนนี้ไม่เป็นไร รีบใช้ รีบออกจากห้องน้ำได้
- มีผ้าขนหนู ยาสระผม สบูjเหลวให้ แต่ไม่มีไดร์เป่าผมกับหมวกคลุมผมให้ (ใครจะเป่าผม ต้องเตรียมไดร์เป่าผมมาเอง)
- รีสอร์ต งดทำอาหาร และ งดเสียงดังหลัง 4 ทุ่ม อันนี้ถือว่าดีครับ แต่ที่พักรอบๆใกล้โซนB ก็เปิดเพลงร้องคาโอเกะเสียงดังอยู่ดี555
* ในส่วนที่พักไม่ค่อยดี ถ้าเทียบกับราคา 1,9xx ควรบริการดีกว่านี้
- บรรยากาศยามค่ำคืน อากาศเย็นสบาย แต่กลางวันลมไม่ค่อยมี ร้อนอบอ้าวมากๆ
- หน้าบ้านที่พัก จะมีต้นมีก้านคล้ายๆกับสับปะรดสี มีหนามคม ต้องระวังโดนชน เกี่ยวบาดเจ็บได้ ลูกของเพื่อนโดนกิ่งอันนี้เกี่ยวที่หน้ามีแผลถลอก ต้องระวังมากๆครับ
อาหาร :
อาหารเช้ากับเย็น ตามมาตรฐานทั่วไป ไม่ดี ไม่แย่ ครัวปิดตอน 2 ทุ่ม
ที่นี่ค่อนข้างลึกและเปลี่ยว ห่างไกลจากร้านสะดวกซื้อ ดังนั้นควรเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์ของใช้มาให้ครบ มิฉะนั้นจะออกไปหาซื้อยากพอสมควร (ร้านสะดวกซื้อไม่น่าจะมาส่งให้ด้วย)
สวนน้ำ :
สวนน้ำค่อนข้างสะอาดดีครับ แต่พ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆ ควรดูแลบุตรหลานให้ดี เตรียมชูชีพมาเองครับ (สวนน้ำมีแผ่นโฟมให้บริการ แต่เด็กเจ้าเนื้อหน่อยเกาะแล้วจะจมน้ำ) สวนน้ำจะปิดบริการตอน 18.30 น. ระหว่างเปิดบริการจะไม่มีจนท.ดูแลความปลอดภัย .... แต่พอ 18.30 น. ไฟสระจะไม่เปิด จะมี จนท.มาเดินส่องไฟฉายด้วยใบหน้ามุ่ยๆ บอกกลายๆว่าหมดเวลาให้รีบขึ้นน้ำได้แล้ว ส่วนตัวคิดว่าสวนน้ำปิดเร็วไปหน่อยครับ เพราะรีสอร์ตให้เช็คอินตอนบ่าย2 แต่กลางวัน-บ่ายๆ แดดแรงมากๆ แดดร่มก็ประมาณ 5 โมงเย็น มีเวลาเล่นน้ำได้น้อยเกินไป
*สวนน้ำไม่มีจนท.ช่วยดูแลความปลอดภัย ดังนั้นหากบุตรหลานจะเล่นสไลเดอร์สูง ผู้ปกครองต้องดูแลกันให้ดีๆ พลาดตกลงมาแขนหักไปส่งโรงพยาบาลลำบากพอสมควร
ฐานผจญภัย การเล่นกลางแจ้งต่างๆ :
หลังกินข้าวเช้าเสร็จ และถึงเวลาเริ่มกิจกรรมตามฐานต่างๆ ทางคณะเราต้องไปยืนรอ จนท.ก่อนทุกฐาน จนต้องโทรไปตามจนท.ทั้งฐานปีนหน้าผาจำลองและฐานยิงธนู จนท.มาถึงก็ไม่ได้มาตรวจสอบอุปกรณ์ก่อน มาถึงหยิบอุปกรณ์มาให้ใช้เลยเพราะจนท.มาสายนั่นละ .....ส่วนฐานปีนป่ายผจญภัย 7ฐาน ทางจนท.แจ้งว่าเด็กเล็กๆ 5-6 ขวบ ซึ่งสูงเกิน 110 ซม.ทุกคน ไม่สามารถเล่นได้ ความสูงไม่พอ ทั้งที่บางจุดก็สามารถจะเล่นได้อยู่ (แต่ในโฆษณาดันไม่บอกว่าจำกัดความสูงเด็ก หรือ บอกอายุขั้นต่ำเลย) เท่าที่สังเกตจุดปีนป่ายนี้มีจนท.คนเดียว แต่ลูกค้ามาหลายคน ทางจนท.ดูแลไม่ทัน สรุปฐานนี้ คณะเรามีเด็กอายุ 11 ขวบเล่นได้คนเดียว [ใจพ่อแม่ อยากให้ลูกๆ ทุกคนได้เล่นแท้ๆ ]
....ฐานปีนหน้าผาจำลอง อุปกรณ์เซฟตี้ถือว่าok ปลอดภัย แต่ทุกฐานของที่นี่ดูไม่สะอาด คณะหนึ่งเล่นเสร็จ ก็ให้อีกคณะมาเล่นต่อเลย ใช้งานเสร็จไม่ทำความสะอาดเลย แล้วคนที่มาเล่น หรือ จนท.ก็ไม่ใส่แมสก์กัน *_* เสี่ยงติดโควิดมากครับ (คณะเราพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์กันเอง)
และตรงจุดปีนหน้าผา ก็เหม็นซากสัตว์รุนแรงอยู่ ^_^''
สรูป ลูกๆ 5-6 ขวบของเรา 3 คน ได้เล่นน้ำ , ยิงธนู , ปีนหน้าผาจำลอง แค่นั้น (ปีนป่าย 7 ฐานไม่ได้เล่น จนท.อ้าง ความสูงเด็กไม่พอ) ไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปเลย เพราะตั้งใจจะให้ลูกๆได้มาเล่นกิจกรรมต่างๆ
.....ด้วยกิจกรรมที่เด็กน้อย เล่นได้น้อย จึงไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าแทน ก็แจ็กพอตแตกอีก เสาวอลเลย์บอล(หรือเสาตะกร้อไม่แน่ใจ) ที่นี่จะมีเสาตาข่ายอยู่ 2 จุดอยู่ตรงสนามหญ้า จะมีเสาคู่หนึ่งไม่มีตาข่าย แต่อีกจุดหนึ่งมีตาข่ายขึงไว้แต่ชำรุด สายตาข่ายเก่าและมีสายด้านล่างหลุดย้อยห้อยลงมา ถ้าไม่สังเกตดีๆก็ไม่เห็นจริงๆ ซึ่งเด็กน้อย 3 คนวิ่งเล่นในสนามหญ้ากันสนุกสนานวิ่งไปนั่งชิงช้า(ชิงช้าสกปรก มีใบไม้และขี้นกและเก่ามาก) และก็วิ่งมาอีกจุดใกล้ๆที่กินข้าวเช้า เด็กๆก็วิ่งลอดใต้ตาข่ายกันแต่มีลูกผมวิ่งแล้วโดนสายตาข่ายที่ห้อยย้อยลงมาเกี่ยวเข้าที่คอ ด้วยแรงวิ่งทำให้เกี่ยวคอจนเป็นรอยแดงรอบๆคอ ลูกเราร้องไห้หนักมาก เรารีบดึงสติไปดูลูกว่าบาดเจ็บหนักหรือป่าว? ดูหลอดลมคอปกติดีไหม? หายใจได้ไหม? รีบอุ้มลูกพาเข้าที่ร่มๆ ซึ่งเคราะห์ดีลูกไม่ได้บาดเจ็บหนัก ยังพูดได้ มีสติ ยังชี้ให้ดูว่าสายตาข่ายขาดห้อยลงมาเกี่ยวคอเค้า และโชคยังดีที่เสาตาข่ายไม่ล้มทับลงมาด้วย เพราะฐานตาข่ายที่มาดูภายหลังก็เป็นเพียงปูนเทกับยางรถยนต์เก่าเท่านั้น [ถ้าใครจะด่าว่า ทำไมพ่อแม่ไม่ดูแลลูกให้ดีๆ ไม่ดูตาข่ายให้ดีละ ทำไมปล่อยเด็กวิ่งไปโดนตาข่ายเกี่ยวคอได้ ...ต้องบอกก่อนว่าทางผมยืนดูลูกกับลูกเพื่อนๆ ทั้ง 3 คนตลอด เสาตาข่ายมันอยู่ในสนามหญ้า 2 จุด แต่จุดที่มีตาข่ายชำรุดอยู่ตรงบริเวณทาง ที่จะเข้ามาตรงเต็นท์ที่กินอาหารเช้าที่ทางแม่ๆนั่งกินข้าวอยู่ ซึ่งธรรมชาติของเด็กๆ ก็ชอบวิ่ง ชอบมุด ชอบปีน เล่นซนกันตามปกติของเด็กทั่วๆไป เราจะให้ลูกเล่นสนุกมีอิสระอยู่ในสายตา และที่ผ่านมาก็เคยพาลูกไปสนามเด็กเล่นหรือรีสอร์ต หรือ ริมทะเลที่ตาข่ายวอลเลย์บอลแบบนี้ เด็กๆก็วิ่งลอดตาข่ายกัน ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และถ้าไม่สังเกตดีๆ ดูใกล้ๆก็ดูไม่ออกหรอกว่า สายตาข่ายมันชำรุดห้อยย้อยลงมาครับ]
.....ซึ่งที่ผิดหวังมากๆ ก็คือ การบริการของรีสอร์ตแห่งนี้ ผมไปแจ้งจนท.รีสอร์ต ว่าลูกเราโดนสายตาข่ายเกี่ยวคอ ทางจนท.ไม่ได้สนใจอะไรใดๆ ไม่แม้แต่จะขอโทษ หรือ ถามอาการน้องซักคำ ไม่ช่วยหายามาปฐมพยาบาลให้ ต้องเป็นทางเราต้องขอน้ำแข็งและหาผ้าสะอาดชุบน้ำมาทำความสะอาดเองหมด **ถ้าเกิดอุบัติเหตุหนักๆ ตกจากที่สูงแขนขาหัก หรือโดนงูกัด คงลำบากมากๆ ทางเข้ารีสอร์ตก็ค่อนข้างลึก ขรุขระ ไกลจากโรงพยาบาลพอสมควร สถานที่กว้าง หาจนท.รีสอร์ตก็ยาก แถมไม่มีหัวใจด้านบริการอีก (หน้าบึ้งทุกคน)
....ทางผมได้แจ้งปัญหาของเราไปใน inbox ของทางรีสอร์ต ให้ปรับปรุงตาข่ายด่วน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับคนอื่นๆอีก ซึ่งแอดมินผู้หญิงก็ขอโทษดีอยู่นะครับ(ชื่นชมที่ใช้คำว่า นะคะ ได้ถูกต้องอยู่ในใจ) พอกลับถึงกรุงเทพฯ คอลูกเริ่มแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทางเรากลัวการอักเสบ จึงพาลูกไปรักษาที่ รพ.นครธน แผนกฉุกเฉินตอน2 ทุ่ม(กว่าจะเสร็จก็ 3 ทุ่มกว่า) ซึ่งคุณหมอมาตรวจดูแล้วไม่อันตราย หลอดลมคอปกติ ไม่มีอาการเจ็บกระดูกคอ คุณหมอยังบอกว่าโชคดีมากที่สายตาข่ายไม่โดนตรงกลางคอตรงๆ มิฉะนั้นหลอดลมคออาจจะแตก กระดูกคออาจเคลื่อนบาดเจ็บได้ และถ้าตาข่ายเป็นขดลวดคงบาดเจ็บหนักแน่นอน คุณหมอทำแผลและให้ยามาทาแก้อักเสบ ไม่ได้นัด follow up ต่อ ค่ารักษาพยาบาลประมาณ 1,3xx บาท
....ทางเราเบาใจที่ลูกไม่บาดเจ็บหนัก แต่อุบัติเหตุเกิดจากอุปกรณ์ของรีสอร์ตเก่าและชำรุด และจนท.รีสอร์ตก็ไม่ใส่ใจดูแลให้ดี ทางผมไม่คิดจะมา Post รีวิวแบบนี้แต่อย่างใด ค่ารักษาลูกก็จ่ายไปก่อนไปเบิกประกันของโรงเรียนลูกได้ภายหลัง แต่ก็อยากให้รีสอร์ตได้รับผิดชอบบ้าง จะได้ปรับปรุงอุปกรณ์และการบริการให้ดีขึ้น ระมัดระวังมากขึ้น จะได้ไม่เกิดเหตุกับเด็กคนอื่นๆอีก
....ดังนั้นผมจึงส่งบิลค่ารักษาไปใน inbox ของทางรีสอร์ต เพื่อให้ทางรีสอร์ตช่วยรับผิดชอบเยียวยาค่ารักษาพยาบาลให้ ...โดยเราไม่ได้เรียกร้องเงินชดเชยอื่นๆเลย ไม่ได้เรียกค่าทำขวัญอะไร ขอค่ารักษาที่จ่ายไปตามจริงเท่านั้น แต่แอดมินเพจตอบกลับมาแบบห้วนๆ
"ขอเลข บช." ....อึ้งรอบแรก
หลังจากส่งเอกสารหลักฐานการเข้าพัก เลขบัญชีธนาคารของเรา ทางรีสอร์ตก็โอนเงินค่ารักษาพยาบาลมาให้เร็ว
ทางเราก็รู้สึก OK นะ ยังมีความรับผิดชอบ จบด้วยดี อยากจะพิมพ์ ขอบคุณ แต่ๆ......
กลับโดนเพจ Block ซะงั้น...อึ้งรอบสอง
....รู้สึกได้เลยว่าทางรีสอร์ตนี้ไม่มีความจริงใจ และคงไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดแต่อย่างใด โอนเงินค่ารักษาให้จบๆไป แบบขอไปที (ถ้าคิดว่าทางเราหน้าเงิน ก็คงไม่ขอแค่รักษา 1,3xx บาทหรอกครับ คงเรียกค่าทำขวัญมากกว่านี้ไปแล้วละ เราต้องเดินทางพาลูกมาโรงพยาบาล ต้องเห็นลูกร้องไห้เพราะแสบแผลที่คอ ลูกเจ็บตัวแบบนี้ได้เท่าไรก็ไม่คุ้มครับ )
...พาลูกเที่ยวมาหลายที่ แต่ไม่เคยเจอรีสอร์ตบริการแย่ๆ แบบนี้มาก่อนในชีวิต เราและคณะรู้สึกแย่กับที่พักที่เก่า ไม่สะอาด และการบริการแย่ๆ มาก
แล้ว ยังต้องเจอแอดมิน,เจ้าของรีสอร์ตแบบนี้อีก ....ไม่แปลกใจที่พนักงานจะหน้ามุ่ย ไม่ต้อนรับแขก
... สำหรับที่นี่ไปครั้งเดียวก็เกินพอจริงๆ เด็กได้ผจญภัยจริงๆ ภัยพิบัติ
ปล.ควรทำประกันอุบัติเหตุก่อนไปเที่ยวที่นี่ครับ
คะแนนที่พัก การบริการ : ติดลบครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้