แม่บังคับตลอด🙃🙃🙃เสียใจมากบังคับทุกอย่าง

เราเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านค่ะ แม่เราเป็นคนขี้บ่นมากๆ และชอบพูดนิสัยที่ไม่ดีของเราให้คนอื่นฟังต่อหน้าเราเลยพูดจนแบบเราอายคนมากๆ เราก็โตแล้วนะคะอายุ17 ปีแล้ว เข้าสู่วัยรุ่นแล้ว ครอบครัวเรามีบ้าน2หลัง หลังนึงอยู่ในชนบทปกติ อีกหลังหนึ่งอยู่กลางป่ากลางเขาเลยคะแต่ยังมีบ้านคนอยู่ แต่ไม่เยอะค่ะ คือเอาง่ายๆเราเป็นคนโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงค่ะ แล้วคือแม่ต้องเข้าใจเราด้วยนะว่าการบ้านเราก็เยอะอยู่แล้ว ยังจะอยากให้เราไปนอนที่อื่นอีก เราเป็นคนไม่ชอบป่าไม่ชอบเขาเลยค่ะเพราะบ้านที่ตั้งอยู่ระหว่างป่ามันเย็นมาก แล้วก็ใช้ไม้ในการสร้าง เราว่ามันไม่ปลอดภัยเลยค่ะ แต่แม่ก็ชอบชวนมาอยู่มานอนที่นี่แล้วบ้านหลังเก่าซึ่งมีความแข็งแรงมากกว่าปลอดภัยมากกว่าและเป็นบ้านที่มีความเป็นหมู่บ้านมีบ้านคนเยอะ บ้านหลังใหม่มีบ้านคนน้อยมากๆ ไม่มีบ้านญาติสักคนเลย แต่ถ้าเป็นบ้านหลังเก่าที่มีความแข็งแรงกว่ามีบ้านญาติอยู่เต็มเลย คือประเด็นคือบ้านหลังเก่าคือบ้านที่เรารักมากเพราะเราโตที่นั่นแล้วเวลาไปโรงเรียนเราก็ขึ้นทางที่นั่นแล้วอีกอย่างคือหนังสือทุกอย่างก็อยู่ที่นั่นแต่เเม่ชอบบังคับให้เรามานอนที่บ้านหลังใหม่มันทำให้เรารู้สึกไม่มีความสุขเลยค่ะ เพราะถ้ามาบ้านหลังใหม่เราทำการบ้านไม่ได้เพราะไม่มีห้องส่วนตัว เราทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีความเป็นส่วนตัว บ้านหลังเก่าเป็นบ้านที่มีห้องส่วนตัวเราเเล้วห้องส่วนตัวห้องนั้น้เป็ห้องที่เก็บทุกอย่างที่เก็บสิ่งที่เรา ของของเรา เก็บทุกอย่างที่เป็นตัวเราเลย ถ้าใครเปิดเข้าไปดูในห้องขนาดเราไม่บอกว่าห้องเป็นห้องของใครก็รู้ได้เลยว่าห้องนั้นเป็นห้องของเรา แต่พอมาที่บ้านหลังใหม่ไม่มีห้อมส่วนตัวเพราะมันมีแค่ห้องนอนห้องเดียวเราสงสัยและไม่เข้าใจเลยค่ะว่าทำไมแม่ต้องบังคับให้เรามานอนกับท่านที่นี่เพราะมาก็ไม่ได้ทำอะไร ถ้าเราอยู่บ้านหลังเก่าเรานั่งทำสิ่งที่เราชอบทำได้ เราเป็นคนไม่ติดมือถือนะคะ เวลามีการบ้านเราก็ทำจนเสร็จ เวลาว่างก็ชอบหาอะไรทำ เราชอบเล่นดนตรีมาก ถ้าเวลาว่างไม่เล่นดนตรีเราก็จะมานั่งวาดภาพเพราะมันคือความสุขของเรา เราชอบวาดภาพมาก็เช่นเดียวกับเล่นดนตรีเลยค่ะ เพราะเราคิดว่ามันคือชีวิตจิตใจของเรา ในวันเกิดของแม่เราก็วาดภาพให้เป็นของขวัญแม่ค่ะ เพราะถ้าเรามาบ้านหลังใหม่เราทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอะไรให้ทำ มันไม่มีความสุขเลยค่ะ เราอยากรู้ว่าเราจะอธิบายให้ท่านฟังยังไงคือเราอยากอธิบายให้ท่านฟังแต่เราไม่อยากพูดอะไรเพราะเรากลัว เรากลัวว่าแม่จะเสียใจถ้าเราอธิบายทุกอย่างมันออกไป เราควรทำยังไงค่ะเพื่อที่จะไม่โดนบังคับ เราอยากเป็นอิสระบ้าง เราก็ว่าเราโตพอที่จะดูแลตัวเองแล้วนะคะ เราสามารถหาเงินได้เองแล้วนะคะ แต่แม่ก็ยังไม่ปล่อยสักที ส่วนทางพ่อก็คือแทบจะเเบบไม่อยู่ในชีวิตของเราเลยค่ะ เพราะพ่อไม่สนใจเราเลย ไม่ทักไม่ถามไม่ใยดีไม่สนใจไม่เคยพูดด้วย แบบเเทบจะสนใจย่างอื่นมากกว่าลูก เรามีน้อง2คนซึ่งเป็นผู้ชายหมดพ่อเราก็คือตามใจน้องมากๆๆๆๆๆคือถ้าเรามีเรื่องทะเลาะกับน้องคนที่ผิดก็คือต้องเป็นเรา คือไม่เข้าใจคนเป็นพี่นี่ปิดตลอดเลยเหรอ ทำอะไรก็ผิดอ่ะ คนที่เป็นน้องคือถูกเสมอเลยอ่ะ ถึงเราจะรู้ว่ามันทำเราก่อนแต่ยังไงเราก็โดนตลอดอ่ะ พ่อเราเป็นคนฟังคนข้างเดียว ไม่ฟังเหตุผลไม่มีเหตุผลอีกต่างหากเป็นคนอารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย หัวร้อนสุดๆ โกรธอะไรชอบมาลงที่ลูก พยายามให้เราออกจากโรงเรียน พยามให้เราอายคนไม่เคยเข้าใจเราเลยค่ะ ส่วนทางแม่คือส่งเสียพยายามให้เราเรียนให้จบโอเครอันนี้เราเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะแต่เราไม่ชอบการบังคับของแม่นะคะ  
พ่อเป็นคนปล่อยมากแบบไม่สนใจไม่อยากให้เรียนอารมณ์ร้อน ส่วนเเม่ เป็นคนอารมณ์ดีดีบางสถานการณ์เป็นคนหัวร้อนบางครั้งแต่ขี้บ่นมากแต่ชอบบังคับ คือเราควรเลือกอะไรดีค่ะเราจะฟังพ่อหรือแม่ดีอ่ะ เราสับสนไปหมดแล้ว ถ้าเราฟังพ่อคือเราต้องเจ็บปวดมากเพราะพ่อตามใจแต่น้องเ่าเราเเทนน้องตลอดเเล้วพยายามให้ออกจากโรงเรียน ส่วนแม่ก็บังคับการทำงานของเราคือไม่ให้เราทำงานที่ตัวเองชอบเลยแม้เเต่การเล่นดนตรียังห้ามเลย เราเป็นคนที่ร้องเพลงได้ เเรพได้ เต้นได้ เรากล้าที่จะพูดนะว่าเรากล้าแสดงออกพอที่จะผลักดันตัวเองให้สามารถทำอาชีพระหว่างเรียนได้ ความสามารถอีกอย่างของเราเคือสามารถพูดภาษาได้สิ่งๆนี้เป็นจุดเด่นของเรา เราพูดได้5ภาษาค่ะ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไทย และอังกฤษ 
เราเป็นคนมีเงินเก็บจากการทำความสามารถของเราเอง ทางโรงเรียนเราเปิดให้นักเรึที่มีความสามารถทางดนตรีมาแสดงออกเพื่อที่จะส่งตัวไปแข่งชิงรางวัลทุกปีซึ่งเราคือ1ในนั้นแลัเราก็ได้เงินและรางวัลจากดารแข่งนี้มา เงินส่วนที่ได้คือเรายกให้แม่หมดเลยค่ะ แต่เราก็ไม่ได้บอกนะคะว่าเงินที่ได้มาทั้งหมดอ่ะมันคือเงินจากความสามารถของตัวเองแต่แม่ก็คิดว่าเงินทั้งหมดคือเงินที่เหลือกลับมาจากโรงเรียนท่านเลยไม่เอะใจถามอะไรเรา เพราะถ้าเราบอกไปเราก็จะโดนดูอีก เพราะเหมือนกับแม่จะไม่ชอบให้เราทำอาชีพเเบบนี้ จากที่เราเดานะแม่อาจจะคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีดราม่าเยอะละมั้งแม่เลยไม่ชอบอันนี้เราเข้าใจนะแต่ มันคือความชอบอ่ะเรารักในการทำสิ่งนี้มากๆ ชอบตั้งแต่เด็กๆเลยแต่แม่เเค่ไม่รู้เพราะเราไม่ได้บอกอะไรท่าน เราอยากบอกกับแม่มากค่ะว่าเราอยากร้องเพลง แต่ก็ไม่กล้าบอกเพราะแม่คงไม่ให้แน่ๆ เราจะทำยังไงดีคะที่จะทำให้แม่ยอมรับในสิ่งที่อยากเป็นได้ สิ่งที่เราพูดได้คือภาษาแต่สิ่งที่ทำให้เราเป็นคือเเม่และการรียนรู้ด้วยค่ะเพราะแม่เป็นคนที่ส่งเสริมเราทางด้านเราก็ดีใจนะคะแต่เราก็คิดว่าท่านจะปล่อยอาชีพที่เราจะทำเพราะเราเลือกที่จะไม่ทำอาชีพอาชีพทางข้าราชการเลยค่ะเพราะเราไม่ชอบแต่พอแม่เอ่ยบอกเท่านั้นแหละเราถึงกัลเข่าทรุดค่ะ เพราะแม่อยากให้เราเป็นครูทางภาษาเราคือทรุดเลยเพราะเราไม่อยากเป็นครูเราสอนใครไม่ได้ค่ะเพราะเราไม่มีความสามารถด้านการสอนเลย เราหวังจะทำอาชีพทางด้านดนตรีคือโดนกีดกัน พอจะทำอาชีพทางด้านเราก็กลัวจะโดนกีดกันอีกเพราะอาชีพทางด้านภาษาถ้าจะให้เอาที่เป็นตัวเราที่สุดคือนักแปลภาษาค่ะเพราะเราสามารถอ่านและแปลได้ค่ะ สิ่งที่เราอยากขอคำแนะนำคือ เราจะทำยังไงให้คนในครอบครัวยอมรับที่เราจะทำอาชีพทางด้านดนตรีดีค่ะ ใครมีข้อแนะนำบอกเราหน่อยนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่