สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เรารู้จักและเห็นกรณี ชายหญิงแต่งงานกัน แล้วพากันไปสร้างบ้านใหม่ บนที่ดินของอีกฝ่าย
ที่ดินที่จะสร้างเรือนหอนั่น ถ้าไม่แบ่งโฉนดให้ถูกต้อง
คนที่เอาเงินมาร่วมสร้างบ้านใหม่ เท่ากับเอาเงินมาทิ้งลงน้ำจริงๆค่ะ
ถ้าที่ดิน ยังไม่แยกโฉนด และโฉนดยังไม่มีชื่อคุณ ยังไม่ควรออกเงินอะไรไปทั้งนั้นค่ะ
จบไม่สวยสักรายเลยค่ะ
การคบกัน 7 ปี แบบทางไกลด้วย 3 ปี
แต่ไม่ได้แปลว่ารู้จักกันดี นะคะ
รุ่นน้องที่จะตามมาอยู่บ้านเค้าด้วย ก็แปลกๆ แฟนคุณก็ทำตัวแปลกๆ
อะไรๆในเรื่องนี้มันแปลกไปหมด ไม่น่าไว้วางใจสักอย่าง
ให้เราคิดลบที่สุด เราว่ารุ่นน้องเป็นแฟนลับของเค้า ส่วนคุณก็จะเป็นเมียแต่ง ให้มาสร้างบ้านช่วยเค้า สร้างเสร็จแล้ว ก็แต่งกันได้ลูกสัก1-2คน ค่อยเลิกกัน คุณก็ต้องออกจากบ้านไป ลูกก็แบ่งกันเลี้ยง แล้วเขาก็เปิดตัวว่าเป็นเกย์ ช่วยกันเลี้ยงดูลูกที่คุณคลอดออกมา ครอบครัวแสนสุข
หรือ เรื่องนี้มันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ได้
คิดบวกสุดๆ โลกสวยๆเลยนะ เค้ากับรุ่นน้องคนนี้ ร่วมทุกข์สุขกันมา ช่วยเหลือกันมาจนเค้าคิดว่านับถือเป็นพี่น้องแท้ๆกันแล้ว เลยชวนกันมาอยู่บ้านเดียวกัน
อยากเป็นครอบครัวแสนสุขและแสนอบอุ่น ที่มี พ่อแม่ คุณ+แฟน และ รุ่นน้อง และลูกๆที่จะเกิดในอนาคต
เราว่าคุณเลือกจะเชื่อทางไหนก็ได้นะ เพราะไม่มีใครบอกให้คุณเลือกเชื่ออะไรได้หรอก
ก็เลือกที่คุณชอบและสบายใจได้เลย
แต่เราบอกจริงๆนะ ผู้หญิงเรา ถ้ามีงาน มีเงิน เรามีทางเลือกให้ชีวิตเราเสมอ
ต่อให้คบแฟนคนนี้มา 10ปี 20ปี จะมีลูกด้วยกัน 4-5 คนก็เถอะ
ถ้าคบกัน อยู่ด้วยกันแล้วชีวิตเรามันแย่ จิตใจตกต่ำ หดหู่ สงสัย ระแวงตลอดเวลา
มันไม่ใช่ความสุข มันทรมาน คุณก็มีสิทธิจะเลือกทางอื่นได้นะ ทำไมต้องทน
ที่ดินที่จะสร้างเรือนหอนั่น ถ้าไม่แบ่งโฉนดให้ถูกต้อง
คนที่เอาเงินมาร่วมสร้างบ้านใหม่ เท่ากับเอาเงินมาทิ้งลงน้ำจริงๆค่ะ
ถ้าที่ดิน ยังไม่แยกโฉนด และโฉนดยังไม่มีชื่อคุณ ยังไม่ควรออกเงินอะไรไปทั้งนั้นค่ะ
จบไม่สวยสักรายเลยค่ะ
การคบกัน 7 ปี แบบทางไกลด้วย 3 ปี
แต่ไม่ได้แปลว่ารู้จักกันดี นะคะ
รุ่นน้องที่จะตามมาอยู่บ้านเค้าด้วย ก็แปลกๆ แฟนคุณก็ทำตัวแปลกๆ
อะไรๆในเรื่องนี้มันแปลกไปหมด ไม่น่าไว้วางใจสักอย่าง
ให้เราคิดลบที่สุด เราว่ารุ่นน้องเป็นแฟนลับของเค้า ส่วนคุณก็จะเป็นเมียแต่ง ให้มาสร้างบ้านช่วยเค้า สร้างเสร็จแล้ว ก็แต่งกันได้ลูกสัก1-2คน ค่อยเลิกกัน คุณก็ต้องออกจากบ้านไป ลูกก็แบ่งกันเลี้ยง แล้วเขาก็เปิดตัวว่าเป็นเกย์ ช่วยกันเลี้ยงดูลูกที่คุณคลอดออกมา ครอบครัวแสนสุข
หรือ เรื่องนี้มันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ได้
คิดบวกสุดๆ โลกสวยๆเลยนะ เค้ากับรุ่นน้องคนนี้ ร่วมทุกข์สุขกันมา ช่วยเหลือกันมาจนเค้าคิดว่านับถือเป็นพี่น้องแท้ๆกันแล้ว เลยชวนกันมาอยู่บ้านเดียวกัน
อยากเป็นครอบครัวแสนสุขและแสนอบอุ่น ที่มี พ่อแม่ คุณ+แฟน และ รุ่นน้อง และลูกๆที่จะเกิดในอนาคต
เราว่าคุณเลือกจะเชื่อทางไหนก็ได้นะ เพราะไม่มีใครบอกให้คุณเลือกเชื่ออะไรได้หรอก
ก็เลือกที่คุณชอบและสบายใจได้เลย
แต่เราบอกจริงๆนะ ผู้หญิงเรา ถ้ามีงาน มีเงิน เรามีทางเลือกให้ชีวิตเราเสมอ
ต่อให้คบแฟนคนนี้มา 10ปี 20ปี จะมีลูกด้วยกัน 4-5 คนก็เถอะ
ถ้าคบกัน อยู่ด้วยกันแล้วชีวิตเรามันแย่ จิตใจตกต่ำ หดหู่ สงสัย ระแวงตลอดเวลา
มันไม่ใช่ความสุข มันทรมาน คุณก็มีสิทธิจะเลือกทางอื่นได้นะ ทำไมต้องทน
ความคิดเห็นที่ 32
โอ้ย สงสาร จขกท จัง ตั้งกระทู้
สงสัยว่าแฟนเป็นเกย์ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว แต่ยังคบกันจนจะแต่งงาน
เลิกค่ะ เลิก เป็นแน่นอนแล้ว
https://ppantip.com/topic/36828889
สงสัยว่าแฟนเป็นเกย์ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว แต่ยังคบกันจนจะแต่งงาน
เลิกค่ะ เลิก เป็นแน่นอนแล้ว
https://ppantip.com/topic/36828889
ความคิดเห็นที่ 42
จขกท บอกว่า
*** เค้าบอกว่าไปคุยกับรุ่นน้องเพิ่มมา ว่าให้มาอยู่แค่ 1 ปี ช่วงที่รุ่นน้องยังไม่ชินกับต่างจังหวัดค่ะ เพราะบ้านน้องเค้าอยู่ภาคใต้สุด อันนี้ย้ายมาทำงานเหนือสุด ***
คุณคะ เราขึ้นเครื่องครั้งแรกในชีวิต ก็ไปต่างประเทศเลย
ไปคนเดียว เรียนคนเดียว หาที่พักเอง จัดการชีวิตเองคนเดียว
ตอนนั้นก็อายุ 20 ต้น ๆ อาจจะเด็กกว่า น้องผู้ชายคนสนิทของแฟนคุณด้วยซ้ำ
เข้าใจได้อยู่ว่าแต่ละคนสกิลต่างกัน เราทำได้ บางคนอาจจะทำไม่ได้
แต่เรื่องของคุณนี่ อ่านแล้วมันต้อง แหมมมมมมมม ยาว ๆ อะ
เป็นผู้ชายอยู่จังหวัดใต้สุด จะมาทำงานอยู่จังหวัดเหนือสุด เลยพึ่งตัวเองไม่ได้
แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
คุณคะ พูดจาก็ภาษาไทยเหมือนกัน มันจะยากอะไรถึงต้องมาอยู่บ้านคนอื่นเป็นปี ๆ
*** เค้าบอกว่าไปคุยกับรุ่นน้องเพิ่มมา ว่าให้มาอยู่แค่ 1 ปี ช่วงที่รุ่นน้องยังไม่ชินกับต่างจังหวัดค่ะ เพราะบ้านน้องเค้าอยู่ภาคใต้สุด อันนี้ย้ายมาทำงานเหนือสุด ***
คุณคะ เราขึ้นเครื่องครั้งแรกในชีวิต ก็ไปต่างประเทศเลย
ไปคนเดียว เรียนคนเดียว หาที่พักเอง จัดการชีวิตเองคนเดียว
ตอนนั้นก็อายุ 20 ต้น ๆ อาจจะเด็กกว่า น้องผู้ชายคนสนิทของแฟนคุณด้วยซ้ำ
เข้าใจได้อยู่ว่าแต่ละคนสกิลต่างกัน เราทำได้ บางคนอาจจะทำไม่ได้
แต่เรื่องของคุณนี่ อ่านแล้วมันต้อง แหมมมมมมมม ยาว ๆ อะ
เป็นผู้ชายอยู่จังหวัดใต้สุด จะมาทำงานอยู่จังหวัดเหนือสุด เลยพึ่งตัวเองไม่ได้
แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
คุณคะ พูดจาก็ภาษาไทยเหมือนกัน มันจะยากอะไรถึงต้องมาอยู่บ้านคนอื่นเป็นปี ๆ
แสดงความคิดเห็น
ในสถานการณ์แบบนี้กับแฟน เราควรวางตัวและจัดการตัวเองยังไงดีคะ
เรา อายุ 30 แฟน 32 ปี
เป็นรักทางไกล 3 ปี
ปีหน้าแฟนจะกลับมาทำงานที่จังหวัดเดียวกันแล้ว ก่อนหน้านี้ เคยคุยกันว่ามีแพลน จะแต่งงาน อีกประมาน 3 ปี เราเลยกำลังเก็บเงินรอแฟนอยู่ค่ะ
แต่ช่วงเดือนก่อน แฟนโทรมาเล่าให้ฟังว่า มีรุ่นน้องผู้ชาย จะกลับมาทำงานที่จังหวัดเดียวกันด้วย
แต่เนื่องจากรุ่นน้องเป็นคนต่างจังหวัด แฟนเลยจะให้รุ่นน้องมาอยู่ที่บ้านแฟนด้วย
แล้วพอรุ่นน้องจะมายู่ด้วย เลยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากเดิม ที่เราคิดว่าจะเก็บเงินแต่งงาน + ทำบ้านเรือนหอกัน
ที่บ้านแฟน มีพ่อแม่แฟนอยู่ ข้างๆบ้านมีที่ว่างอยู่ค่ะ เคยคุยกันไว้ว่าจะปลูกบ้านกันตรงที่นั้นอีก ประมาน 3 ปี
เราไม่เคยเจอรุ่นน้องคนนั้นมาก่อนค่ะ ตอนนี้กลายเป็นเราอคติ ไม่ชอบรุ่นน้องคนนั้นไปแล้ว พ่อแฟนตอนแรกที่รู้มาก็ไม่โอเคเท่าไหร่
ส่วนแม่แฟนยังไม่รู้เรื่องนี้ค่ะ
แฟนเลยมาคุยว่า จะขอปรับปรุงห้องในบ้าน ส่วนหนึ่งปรับปรุงห้องในบ้านเอง และส่วนหนึ่งปรับปรุงห้องให้รุ่นน้องที่จะมาอยู่
ซึ่งเราดูๆแล้ว เป็นค่าซื้อแอร์เฟอรนิเจอ แอร์ โต๊ะ ทีวี อีกหลายหมื่น
ส่วนที่จะปรับปรุงบ้าน เราไม่ว่าอะไร แต่ส่วนของรุ่นน้องคนนั้น เราเลยไม่โอเคเท่าไหร่ เพราะแฟนก็มีหนี้ ที่ต้องผ่อนรถอยู่ และต้องมาเสียเงินส่วนนี้อีก ทำให้เราคิดว่าจะเก็บเงินได้ช้าไปอีก เราเลยนอย ไม่โอเคกับเหตุการณ์นี้เลย
1.เราไม่โอเคว่าทำไมตอนชวนรุ่นน้องคนนั้นมาอยู่ด้วย ถึงแม้เป็นบ้านของตัวแฟนเอง เรายังไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน
แต่มีแพลนแต่งงานกับเราแล้ว ทำไมไม่มาปรึกษากันก่อน ทีนี้พอชวนไปแล้ว จะมากลับคำพูดก็ยาก เราโกรธตรงส่วนนี้มากค่ะ
คนอื่นๆ ก็มักจะพูดว่าทำบุญไป แต่สำหรับเราไม่ชอบให้มีคนอื่นมาอาศัยอยู่ในบ้านด้วย
2.กลายเป็นว่าเราจะใจแคบรึเปล่าคะ เราผิดรึเปล่าที่โกรธแฟนตรงส่วนนี้ ปกติมีเรื่องอะไรจะซื้ออะไร เราก็คุยกันก่อนตลอดนะคะ
แต่พอมามีเรื่องนี้ เราไม่โอเคเลย คิดว่าถ้ารุ่นน้องมาอยู่ที่บ้านแฟนด้วย เราคงจะไม่สะดวกไปบ้านแฟนอีกค่ะ
ขอปรึกษาว่าใครเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้บ้างคะ แล้วควรทำยังไงดี จัดการกับความคิดตัวเอง หรือต้องทำยังไงดี
เราไม่กล้าปรึกษาที่บ้านเราเลย กลัวที่บ้านเราจะไม่โอเคด้วย แล้วปัญหาจะยิ่งบานปลาย เราไม่รู้จะไปปรึกษาใครด้วยค่ะ
เพื่อนส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ประมานนี้
*** ขอลงรายละเอียดเพิ่มเติม เราไปคุยกับแฟนเพิ่มมา บอกว่าเราไม่สบายใจ
เค้าบอกว่าไปคุยกับรุ่นน้องเพิ่มมา ว่าให้มาอยู่แค่ 1 ปี ช่วงที่รุ่นน้องยังไม่ชินกับต่างจังหวัดค่ะ เพราะบ้านน้องเค้าอยู่ภาคใต้สุด อันนี้ย้ายมาทำงานเหนือสุด เนื่องจากเป็นเรื่องการบรรจุราชการค่ะ
ตอนนี้เราก็เลย นอยๆต่อ กำลังคิดทบทวนกับตัวเองอยู่ค่ะ
ขอบคุณทุกความเห็นมากๆค่ะ