คำเตือน : เนื้อหาในกระทู้อาจจะมีการเปิดเผยภาพหรือเนื้อหาจากในภาพยนตร์เป็นบางส่วน หากใครยังไม่ได้ดูเรื่องดังต่อไปนี้ สามารถปัดผ่านกระทู้นี้ได้เลย
สวัสดีสมาชิกพันทิปทุกคนด้วยค่ะ กลับมาเจอกันอีกแล้วและแอบมารีวิวช้าเหมือนเดิม แต่ทางเราได้ดูเรื่องนี้ตั้งแต่เข้า Netflix แล้ว เราเป็นคนหนึ่งที่รอคอยเรื่องนี้มากๆตั้งแต่มีการประกาศว่าจะถ่ายทำภาค 2 ขึ้น นั่นก็คือเรื่อง เอโนลา โฮล์มส์ 2 ได้เข้าฉายใน Netflix วันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จุดน่าสนใจของภาคนี้คือ การนำเค้าโครงเรื่องจริงมานำเสนอในภาพยนตร์ด้วย กระทู้นี้จึงจะมารีวิวและให้ข้อมูลถึงโครงเรื่องจริงที่ในภาพยนตร์ได้นำเสนอออกมาค่ะ
- เค้าโครงเรื่องจริงในภาพยนตร์
คำเตือน : เนื้อหาต่อไปนี้อาจจะมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในภาพยนตร์บางส่วน หากใครยังไม่ได้ดูระวังเรื่องการโดน สปอยล์ด้วยนะคะ
ถ้าใครรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว เราลองมาทำความรู้จักกับ ซาราห์ แชปแมน ตัวละครสำคัญของเรื่อง เอโนลา โฮล์มส์ 2 กับการลุกขึ้นต่อต้านด้านอุตสาหกรรมครั้งแรกที่ผู้หญิงประท้วงเพื่อผู้หญิงด้วยกัน
ซาราห์ แชปแมน หรือ ซาราห์ เดียร์แมน (31 October 1862 – 27 November 1945)
ซาราห์ แชปแมน ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็น
ซาราห์ เดียร์แมน เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2405 เป็นลูกคนที่ 5 จากพี่น้องทั้งหมด 7 คน ช่วงวัยเด็กของเธอใช้ชีวิตอยู่ที่ไมล์เอนด์ จนเธออายุได้ 19 ปี เธออยู่กับแม่และพี่สาวของเธอ ต่อมาซาราห์ก็ได้รับว่าจ้างให้เป็นสาวโรงงานไม้ขีดไฟที่โรงงานไบรอันท์แอนด์เมย์ (Bryant & May)
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2431 ในการประชุมของสมาคมเฟเบียน เหล่าสมาชิกได้ตกลงให้มีการคว่ำบาตรโรงงานไบรอันท์แอนด์เมย์ เหตุเพราะสภาพโรงงานที่ย่ำแย่และการปฏิบัติต่อคนงานอย่างทารุณ ต่อมา
แอนนี่ บีแซนต์ ได้พบกับเหล่าคนงานผู้หญิงนอกโรงงานโดยบังเอิญซึ่งเธอก็ได้ทำการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อจะตีพิมพ์บทความของตน จนวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2431 ไบรอันท์และเมย์ได้บังคับให้เหล่าสาวโรงงานทำการปฏิเสธข้อเรียกร้องต่างๆ ซึ่งเหล่าสาวโรงงานก็เมินเฉยที่จะทำตามคำสั่งของไบรอันท์และเมย์ และเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2431 ทั้งเด็กผู้หญิงและสุภาพสตรีประมาณ 1,400 คนได้ทำการหยุดงานเพื่อการประท้วงกันเกิดขึ้น
แอนนี่ บีแซนต์ เป็นนักสังคมนิยมชาวอังกฤษ นักปรัชญา นักเสรีนิยมและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรี
วันรุ่งขึ้น เหล่าสาวโรงงานทั้งหมด 200 คน เดินไปที่ถนนบูเวอรีเพื่อขอความช่วยเหลือจาก แอนนี่ บีแซนต์ โดย แชปแมน เป็นหนึ่งในผู้หญิงสามคนที่สามารถเจอกับ แอนนี่ บีแซนต์ และได้รับความช่วยเหลือในการต่อต้านโรงงานอุตสาหกรรม ได้มีการจัดตั้งประชุมสาธารณะในเรื่องการหยุดทำงานเพื่อทำการประท้วง เกิดเป็นข่าวที่ได้รับความเห็นอกเห็นใจ และสามารถขอความช่วยเหลือจากเหล่าสมาชิกสภาฯ และหลังจากนั้นก็มีการพูดคุยกับไบรอันท์และเมย์เพื่อเจรจาให้มีการปฏิบัติต่อข้อเรียกร้องของสาวไม้ขีดไฟ
ต่อมาเหล่าสาวโรงงานก็ได้มีการจัดตั้งสหภาพแรงงาน (Union of Women Match Makers) ซาราห์ แชปแมน ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนคนแรกในสภาสหภาพแรงงาน (TUC) และเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมการประชุมสหภาพการค้าระหว่างประเทศในลอนดอนอีกด้วย
คณะกรรมการหยุดงานเพื่อประท้วงของเหล่าสาวโรงงานไม้ขีดไฟ นำโดย ซาราห์ แชปแมน (แถวหลังที่ 2 จากซ้าย)
- การปรากฏตัวในภาพยนตร์
เป็นที่รู้กันดีว่าเรื่อง Enola Holmes 2 ได้มีการนำเค้าโครงเรื่องจริงมานำเสนอในภาพยนตร์ ซึ่งการปรากฏตัวต่อตัวละครสำคัญอย่าง ซาราห์ แชปแมน โดยนักแสดงที่มาสวมบทบาทเป็นเธอก็คือ แฮนน่า ด็อด (Hannah Francesca Katie Dodd) นั่นเอง
แฮนน่า ด็อด รับบทเป็น ซาราห์ แชปแมน สาวโรงงานไม้ขีดไฟที่ลุกขึ้นเพื่อต่อต้านอุตสาหกรรมที่กดขี่ผู้หญิง
- เรื่องย่อ
หลังจากที่เอโนลาได้เจอกับแม่และยืนหยัดที่จะสู้ด้วยลำแข้งของตัวเอง เธอจึงตัดสินใจที่จะเปิดสำนักงานเพื่อการสืบไขคดีจริงๆเหมือนกับพี่ชายของเธอ 'เชอร์ล็อก โฮล์มส์' แต่ชีวิตก็ไม่ได้สวยหรูตามที่เธอคาดหวัง เพราะคนอื่นมักจะมองว่าเธอยังเด็กเกินไป อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงอีก แต่แล้วก็มีเด็กสาวจากโรงงานไม้ขีดไฟมาขอให้เอโนลาช่วยทำคดีตามหาพี่สาวของเธอ และนี่ก็คือคดีแรกและคดีจริงๆที่เอโนลาจะได้เผชิญกับตัวเอง
การพบเจอกันระหว่าง เชอร์ล็อก โฮล์มส์ กับ เอโนลา โฮล์มส์
มิลลี บ็อบบี้บราวน์ รับบทเป็น เอโนลา โฮล์มส์
- หลังชมตัวอย่างแรกของเอโนลา โฮล์มส์ 2
หลังจากที่เอโนลา โฮล์มส์ ภาคแรกได้รับวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ดี ซึ่งเราก็มีความชื่นชอบมาตั้งแต่ภาคก่อนหน้านี้อยู่แล้ว กับการเล่าเรื่องในมุมมองของน้องสาวคนเล็กของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ที่ไม่ได้ปฏิบัติตัวเป็นกุลสตรีอย่างที่ควรจะเป็นและยังชื่นชอบในการสืบสวนคดี เมื่อคลิปตัวอย่างภาคที่ 2 ถูกปล่อยออกมา บอกเลยว่าเราแอบตื่นเต้นมาก เพราะด้วยเนื้อเรื่องในภาคนี้เอโนลาจะได้ทำการไขคดีจริงๆครั้งแรกจากที่ภาคที่แล้วมีแต่การตามหาแม่และเรื่องปัญหาระหว่างตระกูลทิวส์เบอร์รี่ แต่ในความน่าสนใจของภาคนี้ก็คือเรื่องที่ทั้งพี่และน้องดันมีคดีที่เชื่อมโยงกัน จึงคิดว่าอาจจะมีการร่วมมือกันเกิดขึ้น เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเรารู้สึกรอคอยและคาดหวังกับเรื่องนี้มากๆ
- การดำเนินเรื่อง
ในภาพยนตร์ก็ยังคงมีการนำเสนอเรื่องสิทธิสตรีเหมือนกับภาคแรก โดยบอกเล่ามุมมองของการถูกกดขี่ในโรงงานไม้ขีดไฟ คนงานล้วนเป็นผู้หญิงทั้งหมด ต้องมาทำงานกับไม้ขีดไฟที่ผสมกับฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ทางโรงงานจึงโบ้ยความผิดทั้งหมดไปที่โรคระบาดแทนเพื่อปกปิดความผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ ทำให้เห็นว่าคนงานเหล่านี้ก็ไม่ต่างกับหนูทดลองที่จะต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อผลกำไร หรือจะเรื่องที่สังคมในยุควิกตอเรีย ผู้หญิงเป็นได้แค่สิ่งบันเทิงของเหล่าชายผู้เป็นใหญ่ นอกจากนั้นการดำเนินเรื่องมันมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน พลิกแล้วพลิกอีก พลิกหลายตลบจนคนดูอย่างเราตามไม่ทัน ต้องขอนั่งสมาธิตั้งสติก่อนถึงจะร้อง อ๋อ เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง ซึ่งทั้งหมดในเรื่องนี้มาครบทุกอารมณ์ เช่น ปริศนา , แอคชั่น , ความรัก
ฉากความสัมพันธ์ระหว่าง เอโนลา กับ เคาน์ทิวส์เบอร์รี่
- Breaking the Fourth Wall
อีกจุดเด่นของภาพยนตร์นี้คือตัวละครใช้หลักการ Breaking the Fourth Wall หรือ การพูดคุย สื่ออารมณ์ถึงผู้ชมที่ดูอยู่ ณ ตอนนั้น จะมาในรูปแบบของการอธิบายเรื่องราว บอกเล่าความรู้สึกของตัวเอง ภาพยนตร์ เอโนลา โฮล์มส์ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ใช้หลักการนี้ เหมือนกับว่าเราได้ผจญภัยไปพร้อมๆกับตัวละคร หรือเข้าใจความรู้สึกของตัวละครมากขึ้นว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ หลักการนี้จะมีแค่ตัวละครหลักเท่านั้นที่สามารถสื่อสารกับคนดูได้ โดยตัวละครอื่นจะไม่เห็นหรือไม่รู้ว่าตัวละครหลักนั้นพูดคุยกับเราอยู่
- การไขคดีในเนื้อเรื่อง
อย่างที่ได้บอกเอาไว้ว่านี่คือคดีแรกของเอโนลา อีกทั้งคดีดันไปเชื่อมกับของพี่ชายตัวเองอีก การไขคดีจึงแปลกใหม่มากสำหรับ 'เชอร์ล็อก โฮล์มส์' อย่างที่เรารู้กันดีว่าตัวละคร 'เชอร์ล็อก โฮล์มส์' เป็นนักสืบที่มักจะลุยเดี่ยว ไม่ค่อยร่วมงานกับใคร จึงเป็นครั้งแรกที่เขาจะมาสืบคดีพร้อมกับน้องสาวและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อสันนิษฐาน การตอบโต้แบบนักสืบมืออาชีพ เพียงเพราะว่าเขาดันตกหลุมพรางของคนร้ายเข้า และรูปแบบคดีที่มีความซับซ้อนแล้วซับซ้อนอีก ตลบแล้วตลบอีก ถือว่าน่าตื่นเต้นมากสำหรับภาคนี้
ฉากเอโนลา โฮล์มส์ ใช้หลักการ Breaking the Fourth Wall แสดงสีหน้าให้เราได้เห็น
- เปรียบเทียบกับภาคแรก
พูดถึงการเปรียบเทียบกับภาคแรกของภาพยนตร์เอโนลา โฮล์มส์ ส่วนตัวเรามีความชื่นชอบภาคที่ 2 มากกว่า อาจจเพราะว่ารูปแบบคดีมีความซับซ้อนมากกว่าภาคแรก การนำเค้าโครงเรื่องจริงเกี่ยวกับมุมมองการถูกกดขี่ของสาวโรงงานที่หลายคนมักจะเมินเฉยว่าเป็นเรื่องไกลตัว ก็ยกมานำเสนอและรับรู้ได้ถึงพลังหญิงของผู้หญิงได้อย่างชัดเจน ผิดกับภาคแรกจะเป็นการนำประเด็นเรื่องการสิทธิ์การออกเสียงของสตรีเท่านั้น ถึงแม้ภาคแรกจะมีการประท้วงด้วยเหมือนกัน แต่สำหรับเรามองว่าภาค 2 มันดูสร้างอารมณ์ให้กับเรามากกว่า (ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าภาคแรกมันไม่ดีนะคะ)
- สรุปและรีวิว
เป็นอีกเรื่องที่ใครชอบแนวสืบสวน ไขดคีหรือชื่นชอบนักสืบอย่าง เชอร์ล็อก โฮล์มส์ เรียกได้ว่า ตัวละครอย่างน้องสาวก็มีความสามารถพอๆกับพี่ชายเลย แถมตัว เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ก็มีฉากที่ไขคดีด้วยตัวเองให้คนดูอย่างเราได้ดูด้วย ทางเราอาจจะไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ของเอโนลากับทิวส์เบอร์รี่ เพราะคิดว่าหลายๆคนคงจะเดาออกตั้งแต่ภาคแรกแล้ว แต่ในเนื้อเรื่องจะมีการพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์อย่างแน่นอนค่ะ คือความยาวเกือบ 2 ชั่วโมงบอกได้ว่าไม่น่าเบื่อแน่นอน แนะนำว่าต้องดูให้ครบทุกภาคนะคะ เพราะว่าเนื้อเรื่องคือต่อเนื่องกันเลย เราจะเห็นถึงการเติบโตของตัวละครที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดมาก ถ้าถามว่ามีข้อติสำหรับเรื่องนี้มั้ย คือเราอาจจะแอบหลุดขำบางฉากที่ CG ดูลอยๆไปนิด แต่ก็ไม่ได้ลดความสนุกเลยสักนิดค่ะ
สามารถรับชมภาพยนตร์ เอโนลา โฮล์มส์ 2 ได้ทาง Netflix มีพากย์ไทยด้วยนะ ใครดูแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างคะ ชอบภาคไหนมากกว่ากัน มาพูดคุย/แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ
[CR] Enola Holmes 2 การไขคดีและประวัติศาสตร์หญิงสาวแห่งโรงงานไม้ขีดไฟ
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2431 ในการประชุมของสมาคมเฟเบียน เหล่าสมาชิกได้ตกลงให้มีการคว่ำบาตรโรงงานไบรอันท์แอนด์เมย์ เหตุเพราะสภาพโรงงานที่ย่ำแย่และการปฏิบัติต่อคนงานอย่างทารุณ ต่อมา แอนนี่ บีแซนต์ ได้พบกับเหล่าคนงานผู้หญิงนอกโรงงานโดยบังเอิญซึ่งเธอก็ได้ทำการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อจะตีพิมพ์บทความของตน จนวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2431 ไบรอันท์และเมย์ได้บังคับให้เหล่าสาวโรงงานทำการปฏิเสธข้อเรียกร้องต่างๆ ซึ่งเหล่าสาวโรงงานก็เมินเฉยที่จะทำตามคำสั่งของไบรอันท์และเมย์ และเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2431 ทั้งเด็กผู้หญิงและสุภาพสตรีประมาณ 1,400 คนได้ทำการหยุดงานเพื่อการประท้วงกันเกิดขึ้น
ต่อมาเหล่าสาวโรงงานก็ได้มีการจัดตั้งสหภาพแรงงาน (Union of Women Match Makers) ซาราห์ แชปแมน ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนคนแรกในสภาสหภาพแรงงาน (TUC) และเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมการประชุมสหภาพการค้าระหว่างประเทศในลอนดอนอีกด้วย
- สรุปและรีวิว
เป็นอีกเรื่องที่ใครชอบแนวสืบสวน ไขดคีหรือชื่นชอบนักสืบอย่าง เชอร์ล็อก โฮล์มส์ เรียกได้ว่า ตัวละครอย่างน้องสาวก็มีความสามารถพอๆกับพี่ชายเลย แถมตัว เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ก็มีฉากที่ไขคดีด้วยตัวเองให้คนดูอย่างเราได้ดูด้วย ทางเราอาจจะไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ของเอโนลากับทิวส์เบอร์รี่ เพราะคิดว่าหลายๆคนคงจะเดาออกตั้งแต่ภาคแรกแล้ว แต่ในเนื้อเรื่องจะมีการพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์อย่างแน่นอนค่ะ คือความยาวเกือบ 2 ชั่วโมงบอกได้ว่าไม่น่าเบื่อแน่นอน แนะนำว่าต้องดูให้ครบทุกภาคนะคะ เพราะว่าเนื้อเรื่องคือต่อเนื่องกันเลย เราจะเห็นถึงการเติบโตของตัวละครที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดมาก ถ้าถามว่ามีข้อติสำหรับเรื่องนี้มั้ย คือเราอาจจะแอบหลุดขำบางฉากที่ CG ดูลอยๆไปนิด แต่ก็ไม่ได้ลดความสนุกเลยสักนิดค่ะ
สามารถรับชมภาพยนตร์ เอโนลา โฮล์มส์ 2 ได้ทาง Netflix มีพากย์ไทยด้วยนะ ใครดูแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างคะ ชอบภาคไหนมากกว่ากัน มาพูดคุย/แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้