การใช้มุมเกณฑ์ในการอ่านดวง
เรือน 1-4-7-10 คือแกนหลักชีวิต (Kendra) แกนนี้สำคัญที่สุด
เรือน 2-5-8-11 หรือ ปะนะผะระ (Panaphara) หรือแกนทรัพย์ เพราะอะไรลองคิดดู
เรือน 3-6-9-12 หรือ อโปกะลิมะ (Apoklima) เป็นแกนสังคมและชื่อเสียง

การใช้มุมโกณในการทำนาย
เรือน 1-5-9 คือ ตรีโกณบุคลิกภาพและตัวตนเจ้าชะตา
เรือน 2-6-10 คือ ตรีโกณอาชีพ ซึ่งรวมถึงบริวาร
เรือน 3-7-11 คือ ตรีโกณสัมพันธภาพและสังคม
เรือน 4-8-12 คือ ตรีโกณพลัดพราก หรือการเดินทาง

ทั้งหมดข้างบนต้องเอาไปไตร่ตรองดูถึงที่มาที่ไป ทั้งมุมสัมพันธ์และความหมายเรือน
แรงกระทำจากดาวจะกระทบกันเหมือนลูกบิลเลียดบนโต๊ะสนุ๊ก
จะเห็นว่าเราต้องอ่านดวงแบบเป็นชุดดาวและชุดเรือน เป็น Combination ของดาวกระทบดาว
เราจึงต้องผูกดวงหาลัคนาให้ถูกต้องก่อน และต้องอ่านดาวให้ครบ เพื่อให้ได้ข้อมูลครบ
หาดาวสนับสนุนและดาวหักล้าง คู่มิตร คู่ศัตรู ทั้งดาวเดิมและดาวจร แล้วจึงแปลความหมายในเรื่องที่ถาม

การทำนายจึงไม่ใช่แค่เอาความหมายดาว หรือเอานิสัยดาวไปแปะในเรือนนั้น
เช่น คุณมีศุกร์กุมลัคน์ คุณชอบแต่งตัว รักสวยรักงาม แล้วไงต่อ ต้องตอบได้ว่าชีวิตเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป?
หรือมีอังคาในภพปัตนิ แฟนคุณใจร้อน หรือเป็นคนในเครื่องแบบ แล้วไงต่อ จะมีเมื่อไหร่ มีคู่ได้ไหม?
เห็นไหมผมใช้ดาวดวงเดียวก็ทายได้ ใครบอกไม่ได้? เหอะๆ แบบนั้นเข้าGoogleเป็นก็ทายเองได้ ไม่ต้องหาหมอดู
บางคนทายแบบกำปั้นทุบดิน "ถ้าขยันก็สอบได้ ถ้าไม่ขยันก็สอบไม่ได้ อยู่ที่คุณเอง คุณเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตคุณเอง"
มาหาหมอดูคิดว่าจะได้คำตอบ แต่ตอบอ้อมไปอ้อมมา ตอบยังไงก็ไม่ผิด! แต่คนถามไม่ได้คำตอบที่ต้องการ