อยากเลิกนิสัยเป็นไลฟ์โค้ชเวลานั่งรถกับแฟน รู้สึกว่าตัวเองจู้จี้มากเกินไป เราควรแก้ไขตรงนี้อย่างไรดีคะ

อยากขอคำปรึกษาคะ รู้สึกรำคาญตัวเองและรู้สึกผิดที่ชอบจู้จี้แฟนเวลานั่งซ้อนหรือนั่งข้างตอนแฟนขับรถ อยากแก้นิสัยตรงนี้รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง แฟนก็ไม่พอใจเป็นอย่างมากถึงขั้นทะเลาะกันหนักว่าเราจะจู้จี้จะสั่งสอนอะไรหนักหนา

ขอบอกก่อนว่าเรากับแฟนอายุห่างกัน15ปี
ประสบการณ์ขับรถของเราจึงมากกว่าเขาทั้งรถมอเตอร์ไซท์และรถยนต์

ส่วนแฟนเท่าที่รู้มาขับมอเตอร์ไซค์มา12ปีและรถยนต์5ปี แต่พักหลังเขาไม่ได้ขับรถยนต์

เริ่มเรื่องกันเลยดีกว่านะคะ

ทุกวันนี้เวลาไปไหนมาไหนข้างนอก หรือเวลาเราไปทำงาน ในเส้นทางที่จะไปส่วนใหญ่การจราจรติดขัดกับรถยนต์เพราะสภาพท้องถนนและรถพ่วงค่อนข้างเยอะ แฟนเป็นคนอาสาไปส่งโดยการขับรถมอเตอร์ไซค์เพราะคล้องตัวและรวดเร็วกว่า

ทุกครั้งที่เราซ้อนท้ายรถแฟน เราจะคอยดูรถช่วยเขาไม่ว่ารถจะขึ้นแซงหรือออกจากซอย เราจะคอยบอกและเตือนเสมอ

แต่ในบางครั้งเราไปจู้จี้เรื่องการขับขี่ สาเหตุที่เราทำไปเราหวังดีและกลัวเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเราและคนอื่น

อย่างเมื่อเช้าไปส่งเราทำงาน รถติดเป็นแถวจังหวะนั้นแฟนเราจะขอขึ้นแซงทางขวา แต่รถสวนเลนส์มาขับเร็วและบางคันขับทับเส้นเหลืองแฟนเราตัดสินใจขอแซงซ้ายขับช้าๆไปเรื่อยๆ เราไปตำหนิแฟนว่าทำไมไม่รอแซงขวาขับตรงเส้นเหลือง แซงซ้ายเป็นจุดบอดรถยนต์เขามองไม่เห็นกลัวเฉี่ยวชน

เขาบอกมาว่า แซงได้แซงไปนานแล้วเลนส์ขวา
มีรถสักคันไหมที่เบี่ยงซ้ายให้เราขึ้นแซง

เราบอกว่าก็เปิดไฟเลี้ยวแล้วขอขึ้นยังไงมันก็หลบให้เราไปอยู่แล้วไม่มีใครกล้าชนหรอก

เขาตอบมาว่า หลบก็บ้าแล้วดูคันข้างหน้าที่ขึ้นไปก่อนหน้าเรา มันยังหมุดกับมาซ้ายเลย ถ้าคนมันมีน้ำใจเหมือนกันทุกคันก็คงไม่เกิดอุบัติเหตุหรอก แซงขวามันถูกแล้วแต่คนเห็นแก่ตัวมันจะเห็นใจคนอื่นไหมละ ก็เพราะมันเห็นเราเป็นรถเล็กไง ถ้าเป็นรถใหญ่เหมือนกันมันคงหลบไปแล้วเพราะชนมาไม่คุ้มจ่ายประกันแพงมอไซท์ชนเสร็จถ้าไม่ตายก็ค่าทำขวัญบังหน้าเล็กน้อยๆทีเหลือซ่อมเอง บลาๆๆๆ

เราก็ต้องเลยตามเลยไม่พูดต่อ ขืนพูดต่อมีปัญหาอีก
สักพักขับไปถึงทางขึ้นสะพานลอย วิ่งจากเลนส์ซ้ายเปิดไฟเลี้ยวไปเลนส์ในเพื่อขึ้นสะพาน เราบอกว่าเปิดไฟเลี้ยวแล้วชิดขวาตามรถพ่วงไป พอรถหลังโล่งก็ค่อยเปิดไฟขอทางเข้าซ้าย

เขาบอกรู้แล้วไม่ต้องสั่งหรอกเห็นอยู่ว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วชิดขวาตามมันไปคิดว่าแซงพ้นหรอ
แทนที่จะวิ่งตามรถเก๋งคันหน้าไปแล้วเปิดไฟขอทางเข้าซ้าย ทีเดียวไม่ต้องอยู่ขวาขอมาซ้ายกว่าจะข้ามเลนมาได้ รถก็วิ่งตามตูดอย่างเร็ว ขืนไปแล้วตามหลังเบรกไม่อยู่ทำไง เท่ากับว่าเราตัดหน้าเขาอีก (ยอมรับจังหวะนั้นรถวิ่งตามหลังเร็วมาก) 

เราเลยบอกไปว่า มันต้องผ่อนรถให้เราไปบ้างแหละจะมีใครเห็นรถแล้วไม่เบรก

เขาเลยบอกว่า มีถมไปก็เคสพวกรถยนต์ชนมอไซค์ส่วนใหญ่เกิดจากมอไซค์ชะลอขอเปลี่ยนเลนแล้วรถยนต์ขับไวหักไม่ทันถึงชน หรือไม่ก็ไปปาดหน้าเขาจริงๆ

แล้วก่อนจะถึงบริษัทถึงทางยูเทิร์นด้วยความวิ่งซ้ายก็ต้องเปิดไฟเลี้ยวขอเข้าขวา จังหวะจะถึงเลนส์ยูเทิร์นมีรถขับมาเร็วไม่ชะลอให้เข้าเพราะตรงนั้นเข้าไปกก็ยูเทิร์นได้ เราเห็นรถมาไกลเลยให้แฟนข้ามไป แฟนเราบอกหยุดก่อนค่อยไปเราถามทำไมไม่ไป เราก็อธิบายให้เขาฟังมันเป็นแบบนี้ บลาๆไป

เขาคงหงุดหงิดแล้วหันมาถามเราว่า

*ขับเองไหมจะได้พอใจกับที่ใจนึก เลิกทำตัวเป็นไลฟ์โค้ชซะทีเถอะรำคาญ จะอะไรกันหนักกันหนา ทำเหมือนเขาเป็นพวกขับรถเป็นเมื่อวานแล้วซ่าออกถนนใหญ่ ช่วยดูรถก็พอแล้วไม่ต้องถึงขั้นมากำกับการขับรถ มันอึดอัดและหน้าเบื่อ
คนมีสติแล้วรู้ควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ใบขับขี่ไม่ได้แจกฟรีสอบมาได้เพราะความรู้ ขับรถหัดประเมินลบไว้บ้าง จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุอย่าคาดการอะไรล่วงหน้า มุมมองคนนั้งกับคนขับมันต่างกันเราคิดกันคนละแบบแต่ไม่ต้องถึงกับกำกับมาชี้นิ้วสั่งก็ได้ ทุกวันนี้ที่ขับรถแล้วเธอชวนคุย เราพูดด้วยก็เพราะรำคาญพฤติกรรมแบบนี้ ขอคุยเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจังก็หาว่าเราไม่พอใจแถมมาประชดใส่จะเอาอย่างไรกันแน่ มาขับเองเลยไม่ขับยิ้มแล้ว

เราจำประโยคนี้ขึ้นใจด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเรารู้สึกผิดที่ทำเขาอึดอัดมาโดยตลอด ขอโทษแล้วไม่หายโกรธ ปกติส่งเราเสร็จจะมีการบ๊ายบายบอกลากัน พอวันนี้เกิดเรื่องตรงนี้เราลงรถเขาวนมอไซค์ออกไปอย่างไวและส่งข้อความไลน์มาหาเราว่า

ประสบการณ์ขับรถนั้นส่วนนึงในความชำนาญหรือไม่ชำนาญแต่เราขับรถทุกวันเจอคนใหม่ๆทุกวัน เราจะรู้ได้ไงว่าคนพวกนั้นขับรถชำนาญมากน้อยแค่ไหน มีสติหรือขาดสติ เมาหรือยังมึนขี้ตา มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เขาเจอทุกวัน เจอจนมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะฉนั้นจำไว้ขับรถมีสติและหัดประเมินลบไว้บ้างมุมมองเราต่างกัน ช่วยดูรถไม่เคยว่าแต่อย่ามาจู้จี้หรือกำกับการขับรถเยอะ ถ้าไม่มั่นใจกันขนาดนั้น วันหลังเอารถมาเอง ขอบคุณสำหรับความหวังดีแต่ควรให้ความหวังดีแต่พอดี สุดท้ายมันจะกลายเป็นยาพิษทำลายความสัมพันธ์ในไม่ช้า
 
เราอ่านจบเราเข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อออกมาและรู้สึกผิดที่ทำให้เขาระเบิดอารมณ์ออกมา

เราจึงมาขอคำปรึกษาหน่อยมีใครเคยเป็นแบบเราไหม แล้วแก้ไขหายไหม ขอคำแนะนำด้วยนะ

ปล.แฟนเราเป็นไรเดอร์ส่งอาหารเจออุบัติเหตุทุกวันเจอคนขับรถเฮียๆทุกวัน เขาถึงอยากพูดในมุมมองของคนใช้รถมอเตอร์ไซค์ทุกวัน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
แค่อ่านยังรำคาญแทนเลย คนขับต้องการสมาธิ มีเสียงสั่งนั่นนี่อยู่ข้างหู เป็นเราจะบอกว่าหลับไปเลยไป ถ้าพูดมากคราวหน้าก็ต่างคนต่างมา
ความคิดเห็นที่ 17
แต่ละกระทู้ที่ตั้งนี่แบบบว่า
รู้สึกแฟนจขกท.มีความอดทนสูงมากที่ยังคบกับจขกท.อยู่
เราว่าจขกท.มีนิสัยชอบดูถูกคนค่ะ คิดว่าตัวเองเก่งกว่าดีกว่าคนอื่น
ยิ่งพอได้แฟนเด็กกว่าก็ยิ่งคิดว่าตัวเองต้องเก่งกว่าแฟนแน่ๆ
สิ่งที่จขกท.ขาดคือการให้เกียรติคนอื่น
คุณถึงได้พูดจาข่มแฟนอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้สึกตัว
เพราะคุณไม่มีจิตสำนึกในเรื่องการให้เกียรติแฟนอยู่เลยซักนิด
เป็นไปไม่ได้เลยที่คนสองคนจะมีการตัดสินใจที่เหมือนกันตลอดเวลา
เมื่อมอบหมายหน้าที่ให้คนหนึ่งเป็นคนขับรถ ก็ควรปล่อยให้เค้าสามารถตัดสินใจได้อย่างเต็มที่
การที่เค้าสามารถพาคุณไปสู่จุดหมายได้อย่างปลอดภัยและทันเวลา ก็เป็นสิ่งพิสูจน์แล้วว่าการตัดสินใจของแฟนนั้นไม่ได้ผิดอะไร
แค่มันไม่ถูกใจคุณเท่านั้นเอง คุณต้องปล่อยวางตรงนี้ให้ได้
ไม่งั้นถ้ามีลูก ลูกคุณจะน่าสงสารมากที่ต้องทำตัวอยู่ในกรอบของแม่ตลอดเวลา

อ้อ จากที่คุณบรรยายมานั้น เรายินดีที่จะให้แฟนคุณเป็นคนขับรถให้
แต่เราไม่กล้านั่งรถที่คุณขับค่ะ กลัวตาย
มีอย่างที่ไหน คิดจะพุ่งออกไปโดยหวังว่าคนอื่นจะหลบให้ เกิดโดนชนตายขึ้นมามันคุ้มกันมั้ย
และที่ไปบอกให้เค้าพุ่งออกไปเลยทั้งที่เค้ารอจังหวะอยู่นั้น น่ากลัวมากค่ะ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางสุดๆ
เราเจอแบบนี้ก็คงบอกให้มาขับเองเหมือนกัน

กระทู้นี้เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า คนอายุมากกว่าไม่ได้แปลว่าจะมีวุฒิภาวะที่ดีกว่าเสมอไป
จขกท.อายุ 40 แต่วุฒิภาวะสู้แฟนที่เพิ่งอายุ 20 กว่าไม่ได้เลยซักนิด
ลดอีโก้ลงบ้างแล้วปล่อยให้แฟนเป็นผู้นำ ชีวิตคุณคงจะดีกว่านี้
ดีกว่าให้คุณเป็นผู้นำแล้วพากันลงเหวทั้งคู่
ความคิดเห็นที่ 8
พูดตรงๆนะ ถ้าให้คุณขับผมก็ไม่กล้านั่งอ่ะ
แสดงความเห็นแต่ละอย่างโคตรอันตราย
ความคิดเห็นที่ 7
เราว่าคุณเยอะ ทุกกระทู้ที่คุณตั้งก็เห็นถึงความเยอะ แต่เข้าใจแหล่ะคุณอายุ 40 แฟนอายุ 24 อย่าทำตัวเป็นแม่ค่ะ ทำตัวเป็นแฟนพอ ก่อนผู้ชายเขารำคาญจะไปหาแฟนใหม่
ความคิดเห็นที่ 36
นอกจากคุณควรปรับนิสัยและคำพูดกับแฟนแล้ว เราว่าคุณควรระวังเรื่องการขับรถมากๆ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ เพราะเท่าที่อ่านมา ความคิดในการขับของคุณมันอันตรายมาก ทั้งๆ ที่รถขวาเร็วก็ยังบอกให้แซงออกมาและหวังว่ารถคันหลังจะชะลอให้ นี่เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบนถนนเลยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่