สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
แต่ละกระทู้ที่ตั้งนี่แบบบว่า
รู้สึกแฟนจขกท.มีความอดทนสูงมากที่ยังคบกับจขกท.อยู่
เราว่าจขกท.มีนิสัยชอบดูถูกคนค่ะ คิดว่าตัวเองเก่งกว่าดีกว่าคนอื่น
ยิ่งพอได้แฟนเด็กกว่าก็ยิ่งคิดว่าตัวเองต้องเก่งกว่าแฟนแน่ๆ
สิ่งที่จขกท.ขาดคือการให้เกียรติคนอื่น
คุณถึงได้พูดจาข่มแฟนอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้สึกตัว
เพราะคุณไม่มีจิตสำนึกในเรื่องการให้เกียรติแฟนอยู่เลยซักนิด
เป็นไปไม่ได้เลยที่คนสองคนจะมีการตัดสินใจที่เหมือนกันตลอดเวลา
เมื่อมอบหมายหน้าที่ให้คนหนึ่งเป็นคนขับรถ ก็ควรปล่อยให้เค้าสามารถตัดสินใจได้อย่างเต็มที่
การที่เค้าสามารถพาคุณไปสู่จุดหมายได้อย่างปลอดภัยและทันเวลา ก็เป็นสิ่งพิสูจน์แล้วว่าการตัดสินใจของแฟนนั้นไม่ได้ผิดอะไร
แค่มันไม่ถูกใจคุณเท่านั้นเอง คุณต้องปล่อยวางตรงนี้ให้ได้
ไม่งั้นถ้ามีลูก ลูกคุณจะน่าสงสารมากที่ต้องทำตัวอยู่ในกรอบของแม่ตลอดเวลา
อ้อ จากที่คุณบรรยายมานั้น เรายินดีที่จะให้แฟนคุณเป็นคนขับรถให้
แต่เราไม่กล้านั่งรถที่คุณขับค่ะ กลัวตาย
มีอย่างที่ไหน คิดจะพุ่งออกไปโดยหวังว่าคนอื่นจะหลบให้ เกิดโดนชนตายขึ้นมามันคุ้มกันมั้ย
และที่ไปบอกให้เค้าพุ่งออกไปเลยทั้งที่เค้ารอจังหวะอยู่นั้น น่ากลัวมากค่ะ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางสุดๆ
เราเจอแบบนี้ก็คงบอกให้มาขับเองเหมือนกัน
กระทู้นี้เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า คนอายุมากกว่าไม่ได้แปลว่าจะมีวุฒิภาวะที่ดีกว่าเสมอไป
จขกท.อายุ 40 แต่วุฒิภาวะสู้แฟนที่เพิ่งอายุ 20 กว่าไม่ได้เลยซักนิด
ลดอีโก้ลงบ้างแล้วปล่อยให้แฟนเป็นผู้นำ ชีวิตคุณคงจะดีกว่านี้
ดีกว่าให้คุณเป็นผู้นำแล้วพากันลงเหวทั้งคู่
รู้สึกแฟนจขกท.มีความอดทนสูงมากที่ยังคบกับจขกท.อยู่
เราว่าจขกท.มีนิสัยชอบดูถูกคนค่ะ คิดว่าตัวเองเก่งกว่าดีกว่าคนอื่น
ยิ่งพอได้แฟนเด็กกว่าก็ยิ่งคิดว่าตัวเองต้องเก่งกว่าแฟนแน่ๆ
สิ่งที่จขกท.ขาดคือการให้เกียรติคนอื่น
คุณถึงได้พูดจาข่มแฟนอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้สึกตัว
เพราะคุณไม่มีจิตสำนึกในเรื่องการให้เกียรติแฟนอยู่เลยซักนิด
เป็นไปไม่ได้เลยที่คนสองคนจะมีการตัดสินใจที่เหมือนกันตลอดเวลา
เมื่อมอบหมายหน้าที่ให้คนหนึ่งเป็นคนขับรถ ก็ควรปล่อยให้เค้าสามารถตัดสินใจได้อย่างเต็มที่
การที่เค้าสามารถพาคุณไปสู่จุดหมายได้อย่างปลอดภัยและทันเวลา ก็เป็นสิ่งพิสูจน์แล้วว่าการตัดสินใจของแฟนนั้นไม่ได้ผิดอะไร
แค่มันไม่ถูกใจคุณเท่านั้นเอง คุณต้องปล่อยวางตรงนี้ให้ได้
ไม่งั้นถ้ามีลูก ลูกคุณจะน่าสงสารมากที่ต้องทำตัวอยู่ในกรอบของแม่ตลอดเวลา
อ้อ จากที่คุณบรรยายมานั้น เรายินดีที่จะให้แฟนคุณเป็นคนขับรถให้
แต่เราไม่กล้านั่งรถที่คุณขับค่ะ กลัวตาย
มีอย่างที่ไหน คิดจะพุ่งออกไปโดยหวังว่าคนอื่นจะหลบให้ เกิดโดนชนตายขึ้นมามันคุ้มกันมั้ย
และที่ไปบอกให้เค้าพุ่งออกไปเลยทั้งที่เค้ารอจังหวะอยู่นั้น น่ากลัวมากค่ะ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางสุดๆ
เราเจอแบบนี้ก็คงบอกให้มาขับเองเหมือนกัน
กระทู้นี้เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า คนอายุมากกว่าไม่ได้แปลว่าจะมีวุฒิภาวะที่ดีกว่าเสมอไป
จขกท.อายุ 40 แต่วุฒิภาวะสู้แฟนที่เพิ่งอายุ 20 กว่าไม่ได้เลยซักนิด
ลดอีโก้ลงบ้างแล้วปล่อยให้แฟนเป็นผู้นำ ชีวิตคุณคงจะดีกว่านี้
ดีกว่าให้คุณเป็นผู้นำแล้วพากันลงเหวทั้งคู่
แสดงความคิดเห็น
อยากเลิกนิสัยเป็นไลฟ์โค้ชเวลานั่งรถกับแฟน รู้สึกว่าตัวเองจู้จี้มากเกินไป เราควรแก้ไขตรงนี้อย่างไรดีคะ
ขอบอกก่อนว่าเรากับแฟนอายุห่างกัน15ปี
ประสบการณ์ขับรถของเราจึงมากกว่าเขาทั้งรถมอเตอร์ไซท์และรถยนต์
ส่วนแฟนเท่าที่รู้มาขับมอเตอร์ไซค์มา12ปีและรถยนต์5ปี แต่พักหลังเขาไม่ได้ขับรถยนต์
เริ่มเรื่องกันเลยดีกว่านะคะ
ทุกวันนี้เวลาไปไหนมาไหนข้างนอก หรือเวลาเราไปทำงาน ในเส้นทางที่จะไปส่วนใหญ่การจราจรติดขัดกับรถยนต์เพราะสภาพท้องถนนและรถพ่วงค่อนข้างเยอะ แฟนเป็นคนอาสาไปส่งโดยการขับรถมอเตอร์ไซค์เพราะคล้องตัวและรวดเร็วกว่า
ทุกครั้งที่เราซ้อนท้ายรถแฟน เราจะคอยดูรถช่วยเขาไม่ว่ารถจะขึ้นแซงหรือออกจากซอย เราจะคอยบอกและเตือนเสมอ
แต่ในบางครั้งเราไปจู้จี้เรื่องการขับขี่ สาเหตุที่เราทำไปเราหวังดีและกลัวเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเราและคนอื่น
อย่างเมื่อเช้าไปส่งเราทำงาน รถติดเป็นแถวจังหวะนั้นแฟนเราจะขอขึ้นแซงทางขวา แต่รถสวนเลนส์มาขับเร็วและบางคันขับทับเส้นเหลืองแฟนเราตัดสินใจขอแซงซ้ายขับช้าๆไปเรื่อยๆ เราไปตำหนิแฟนว่าทำไมไม่รอแซงขวาขับตรงเส้นเหลือง แซงซ้ายเป็นจุดบอดรถยนต์เขามองไม่เห็นกลัวเฉี่ยวชน
เขาบอกมาว่า แซงได้แซงไปนานแล้วเลนส์ขวา
มีรถสักคันไหมที่เบี่ยงซ้ายให้เราขึ้นแซง
เราบอกว่าก็เปิดไฟเลี้ยวแล้วขอขึ้นยังไงมันก็หลบให้เราไปอยู่แล้วไม่มีใครกล้าชนหรอก
เขาตอบมาว่า หลบก็บ้าแล้วดูคันข้างหน้าที่ขึ้นไปก่อนหน้าเรา มันยังหมุดกับมาซ้ายเลย ถ้าคนมันมีน้ำใจเหมือนกันทุกคันก็คงไม่เกิดอุบัติเหตุหรอก แซงขวามันถูกแล้วแต่คนเห็นแก่ตัวมันจะเห็นใจคนอื่นไหมละ ก็เพราะมันเห็นเราเป็นรถเล็กไง ถ้าเป็นรถใหญ่เหมือนกันมันคงหลบไปแล้วเพราะชนมาไม่คุ้มจ่ายประกันแพงมอไซท์ชนเสร็จถ้าไม่ตายก็ค่าทำขวัญบังหน้าเล็กน้อยๆทีเหลือซ่อมเอง บลาๆๆๆ
เราก็ต้องเลยตามเลยไม่พูดต่อ ขืนพูดต่อมีปัญหาอีก
สักพักขับไปถึงทางขึ้นสะพานลอย วิ่งจากเลนส์ซ้ายเปิดไฟเลี้ยวไปเลนส์ในเพื่อขึ้นสะพาน เราบอกว่าเปิดไฟเลี้ยวแล้วชิดขวาตามรถพ่วงไป พอรถหลังโล่งก็ค่อยเปิดไฟขอทางเข้าซ้าย
เขาบอกรู้แล้วไม่ต้องสั่งหรอกเห็นอยู่ว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วชิดขวาตามมันไปคิดว่าแซงพ้นหรอ
แทนที่จะวิ่งตามรถเก๋งคันหน้าไปแล้วเปิดไฟขอทางเข้าซ้าย ทีเดียวไม่ต้องอยู่ขวาขอมาซ้ายกว่าจะข้ามเลนมาได้ รถก็วิ่งตามตูดอย่างเร็ว ขืนไปแล้วตามหลังเบรกไม่อยู่ทำไง เท่ากับว่าเราตัดหน้าเขาอีก (ยอมรับจังหวะนั้นรถวิ่งตามหลังเร็วมาก)
เราเลยบอกไปว่า มันต้องผ่อนรถให้เราไปบ้างแหละจะมีใครเห็นรถแล้วไม่เบรก
เขาเลยบอกว่า มีถมไปก็เคสพวกรถยนต์ชนมอไซค์ส่วนใหญ่เกิดจากมอไซค์ชะลอขอเปลี่ยนเลนแล้วรถยนต์ขับไวหักไม่ทันถึงชน หรือไม่ก็ไปปาดหน้าเขาจริงๆ
แล้วก่อนจะถึงบริษัทถึงทางยูเทิร์นด้วยความวิ่งซ้ายก็ต้องเปิดไฟเลี้ยวขอเข้าขวา จังหวะจะถึงเลนส์ยูเทิร์นมีรถขับมาเร็วไม่ชะลอให้เข้าเพราะตรงนั้นเข้าไปกก็ยูเทิร์นได้ เราเห็นรถมาไกลเลยให้แฟนข้ามไป แฟนเราบอกหยุดก่อนค่อยไปเราถามทำไมไม่ไป เราก็อธิบายให้เขาฟังมันเป็นแบบนี้ บลาๆไป
เขาคงหงุดหงิดแล้วหันมาถามเราว่า
*ขับเองไหมจะได้พอใจกับที่ใจนึก เลิกทำตัวเป็นไลฟ์โค้ชซะทีเถอะรำคาญ จะอะไรกันหนักกันหนา ทำเหมือนเขาเป็นพวกขับรถเป็นเมื่อวานแล้วซ่าออกถนนใหญ่ ช่วยดูรถก็พอแล้วไม่ต้องถึงขั้นมากำกับการขับรถ มันอึดอัดและหน้าเบื่อ
คนมีสติแล้วรู้ควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ใบขับขี่ไม่ได้แจกฟรีสอบมาได้เพราะความรู้ ขับรถหัดประเมินลบไว้บ้าง จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุอย่าคาดการอะไรล่วงหน้า มุมมองคนนั้งกับคนขับมันต่างกันเราคิดกันคนละแบบแต่ไม่ต้องถึงกับกำกับมาชี้นิ้วสั่งก็ได้ ทุกวันนี้ที่ขับรถแล้วเธอชวนคุย เราพูดด้วยก็เพราะรำคาญพฤติกรรมแบบนี้ ขอคุยเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจังก็หาว่าเราไม่พอใจแถมมาประชดใส่จะเอาอย่างไรกันแน่ มาขับเองเลยไม่ขับแล้ว
เราจำประโยคนี้ขึ้นใจด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเรารู้สึกผิดที่ทำเขาอึดอัดมาโดยตลอด ขอโทษแล้วไม่หายโกรธ ปกติส่งเราเสร็จจะมีการบ๊ายบายบอกลากัน พอวันนี้เกิดเรื่องตรงนี้เราลงรถเขาวนมอไซค์ออกไปอย่างไวและส่งข้อความไลน์มาหาเราว่า
ประสบการณ์ขับรถนั้นส่วนนึงในความชำนาญหรือไม่ชำนาญแต่เราขับรถทุกวันเจอคนใหม่ๆทุกวัน เราจะรู้ได้ไงว่าคนพวกนั้นขับรถชำนาญมากน้อยแค่ไหน มีสติหรือขาดสติ เมาหรือยังมึนขี้ตา มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เขาเจอทุกวัน เจอจนมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะฉนั้นจำไว้ขับรถมีสติและหัดประเมินลบไว้บ้างมุมมองเราต่างกัน ช่วยดูรถไม่เคยว่าแต่อย่ามาจู้จี้หรือกำกับการขับรถเยอะ ถ้าไม่มั่นใจกันขนาดนั้น วันหลังเอารถมาเอง ขอบคุณสำหรับความหวังดีแต่ควรให้ความหวังดีแต่พอดี สุดท้ายมันจะกลายเป็นยาพิษทำลายความสัมพันธ์ในไม่ช้า
เราอ่านจบเราเข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อออกมาและรู้สึกผิดที่ทำให้เขาระเบิดอารมณ์ออกมา
เราจึงมาขอคำปรึกษาหน่อยมีใครเคยเป็นแบบเราไหม แล้วแก้ไขหายไหม ขอคำแนะนำด้วยนะ
ปล.แฟนเราเป็นไรเดอร์ส่งอาหารเจออุบัติเหตุทุกวันเจอคนขับรถเฮียๆทุกวัน เขาถึงอยากพูดในมุมมองของคนใช้รถมอเตอร์ไซค์ทุกวัน