กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เรียกทูตสหราชอาณาจักร ประจำกรุงมอสโก ไปรับทราบข้อหาก่อการร้าย พร้อมแสดงหลักฐานหน่วยข่าวกรองทางทหารเชิงประจักษ์ที่อังกฤษปฏิเสธไม่ออก 3 กรณี คือ
        
กรณีแรก ใช้โดรนทะเลร่วมกับลูกพี่ใหญ่สหรัฐอเมริกา ระเบิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 และ 2 ในทะเลบัลติก จนเกิดหลุมลึกในทะเล ท่อส่งก๊าซฉีกขาด
        
โดยหลังเกิดเหตุ เดนมาร์ก ร้อนตัวจัด ส่งผู้นำบินด่วนไปสอบถามเรื่องนี้ด้วยตนเองกับอดีตนายกหญิงอังกฤษ นางลิซ ทรัสส์ ที่ตกเก้าอี้ไปแล้ว

กรณีที่สองคือ ทหารอังกฤษ ร่วมกับยูเครนวางแผนระเบิดสะพานไครเมีย จนรัสเซียอาละวาดใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้
       
กรณีที่สามคือ ทหารอังกฤษ วางแผนกับยูเครนในเมือง Nikolaev ลักลอบใช้โดรนทะเลหลายลำ ติดอุปกรณ์ GPS ของแคนาดา ส่งออกจากชายทะเลแคว้น Odessa ลักลอบใช้เส้นทางเดินเรือปลอดภัยสำหรับขนส่งธัญพืชตามข้อตกลงกับสหประชาชาติ (UN) ไปก่อการร้ายกองเรือรัสเซีย ที่ฐานทัพเรือ Sevastopol แหลมไครเมีย แต่ถูกรัสเซียทำลายโดรนทะเลนั้นได้ แล้วกู้คืน Memmory ตามรอยหลักฐานจนมาถึงต้นทางอาคารหน่วยทหารอังกฤษ รัสเซียจึงส่งโดรนแว้นกามิกาเซ่ Geran-2 พุ่งชนเข้าไปในช่องหน้าต่างอาคาร ที่ขณะนั้นทหารอังกฤษอยู่กันครบ
        
จนอาคารพังลงมาราบทั้งหลัง ทหารอังกฤษที่ร่วมวางแผนทั้งคณะต้องกลับบ้านในสภาพนอนไปในถุงซิป

ภายหลังทูตหญิงอังกฤษ เห็นหลักฐาน และโดนกระทรวงต่างประเทศรัสเซียประท้วง (ด่า) อย่างรุนแรง เธอถึงกับอึ้ง เพราะไม่คาดคิดว่ากลาโหมประเทศของเธอจะกระทำในสิ่งที่ตกต่ำถึงเพียงนี้
        
จากอดีตกองทัพเมืองผู้ดีที่เกรียงไกร บุกยึดไปทั่วโลก แต่วันนี้กลับต้องมาทำอะไรที่เข้าข่ายก่อการร้ายระหว่างประเทศอย่างเสื่อมเสียเกียรติภูมิอย่างยิ่ง แล้วจะเอาหน้าไปสู้ชาวโลกได้อย่างไร

เมื่อทูตอังกฤษรับหลักฐานและเดินออกมาจากอาคารกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแล้ว มีชาวรัสเซียชายหญิงจำนวนมากมาดักรอหน้าอาคารพร้อมส่งเสียงตะโกนรัวๆ พร้อมกันว่า "สหราชอาณาจักรเป็นประเทศผู้ก่อการร้าย" ทำให้ชาติผู้ดีอับอายแทบแทรกแผ่นดิน เพราะมีสื่อมวลชนทั่วโลกมาทำข่าวประจาน

สหราชอาณาจักร ผู้มีกองทัพอันเกรียงไกรคับโลก ยกกองทหารไปที่ไหน ราบพนาสูญที่นั่น แต่บัดนี้....ไม่กล้าสู้รัสเซียซึ่งหน้า ถึงกับลดระดับ ลดศักดิ์ศรีตัวเองเป็นแค่ "ผู้ก่อการร้าย" ร่วมกับยูเครน
        
ไม่เคยมียุคสมัยใดที่อังกฤษเสื่อมถอยจนถูกจับได้ และประจานหลักฐานเช่นนี้ ยังจะเหลือความภาคภูมิใจใดอีก ท่ามกลางปัญหาภายในประเทศที่รุมเร้า

แต่สิ่งที่ทำให้กลาโหมอังกฤษถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก เมื่อดาวเทียมทหารตรวจจับเครื่องบินจู่โจม MiG-31K ของรัสเซียติดอาวุธไฮเปอร์โซนิค Kinzhal ลูกเบ้อเริ่มยาว 7 เมตร อยู่ในสนามบิน Kaliningrad ริมทะเล Baltic
และที่สนามบิน Machulishchi ในเบลารุส ตั้งระยะพิกัดยิงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ❗️

ซึ่งพฤติกรรมก่อการร้ายผิดกฎหมายสากลระหว่างประเทศของอังกฤษทั้งหมดนี้ ถ้ารัสเซียจะบังคับใช้กฎหมายต่อต้านก่อการร้ายของตนโจมตีกลับตอบโต้เอาคืนไปยังอังกฤษ ก็ย่อมมีเหตุผลที่รับฟังได้
       
ชาติยุโรปหลายชาติเริ่มต่อสายกันวุ่น ติดต่อกลาโหมรัสเซีย และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แต่ยังไม่พบรายงานว่าผู้นำอังกฤษ เชื้อสายอินเดีย จะต่อสายเคลียร์ปมร้อนฉ่านี้ได้อย่างไร เพราะถ้านิ่งเฉย นานไปจะยิ่งมีความเสี่ยงสูงมากขึ้นเรื่อยๆ การเป็นผู้นำต้องรับผิดชอบสิ่งที่ลูกน้องกระทำลงไป เพราะดันส่งทหารอังกฤษเข้าไปในยูเครน

อนาคตยังไม่รู้ว่าทหารอังกฤษจะร่วมกับยูเครน คิดแผนก่อวีรกรรมอะไรที่แหลมไครเมีย ให้ผู้นำรัสเซียฟิวส์ขาดอีก
       
แหย่แหลมไครเมียต่อไป โดนกดปุ่มฝนเหล็กห่าใหญ่ใส่อีกแน่นอน 🚀🤭😂