คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
หลังจากวันตัดรอบบิล จะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยค่ะ เช่นรายการที่รูดช่วงวันที่ 1-30 จะตัดรอบเป็นบิลวันที่ 30 แล้วกำหนดจ่ายภายในวันที่ 25 ของเดือนถัดไป ช่วงวันที่ 30 ถึง 25 ของเดือนถัดไป จะเป็นช่วงระยะปลอดดอกเบี้ย
คนทั่วไปจะจ่ายในช่วงระยะปลอดดอกเบี้ยนี้ค่ะ เพราะนี่เป็นหนึ่งในข้อดีของบัตรเครดิต คือเราซื้อของวันที่ 1 แต่จ่ายเงินจริงๆ วันที่ 25 ของเดือนถัดไป ช่วงเวลาห้าสิบกว่าวันนี้เราสามารถนำเงินไปหมุน ไปลงทุน หรือจะฝากแบงค์เฉยๆ ก็ได้ดอกเบี้ย คนส่วนใหญ่เลยจะจ่ายหลังวันตัดรอบบิลไปแล้ว
แต่ถ้าหากอนาคตอันใกล้นี้มีแผนจะเปิดบัตรเครดิตเพิ่ม หรือขอสินเชื่อเพิ่ม การจ่ายบางส่วนก่อนวันตัดรอบบิลจะเป็นผลดีต่อเครดิตสกอร์ค่ะ เช่นถ้าได้วงเงินมาสองหมื่น รูดไปหมื่นนึง ก่อนวันที่ 30 ก็จ่ายไปก่อนซัก 8000 ให้เหลืออยู่ 2000 ไปจ่ายหลังวันตัดรอบบิล เพราะเงินที่จ่ายก่อนวันตัดรอบบิลจะไม่ถูกบันทึกว่าเป็นยอดหนี้ แต่หลังวันที่ 30 ไปแล้ว ต่อให้จะไม่มีดอกเบี้ยก็ตาม เงินที่ค้างชำระอยู่จะถือว่าเป็นยอดหนี้ค่ะ การจ่ายก่อนวันตัดรอบจะทำให้อัตราส่วน ยอดหนี้/วงเงิน ดีขึ้น เครดิตสกอร์ก็จะสูงขึ้น แต่ถ้าไม่มีแผนที่จะใช้เครดิตสกอร์ก็ไม่ต้องสนใจตรงนี้ก็ได้ค่ะ
คนทั่วไปจะจ่ายในช่วงระยะปลอดดอกเบี้ยนี้ค่ะ เพราะนี่เป็นหนึ่งในข้อดีของบัตรเครดิต คือเราซื้อของวันที่ 1 แต่จ่ายเงินจริงๆ วันที่ 25 ของเดือนถัดไป ช่วงเวลาห้าสิบกว่าวันนี้เราสามารถนำเงินไปหมุน ไปลงทุน หรือจะฝากแบงค์เฉยๆ ก็ได้ดอกเบี้ย คนส่วนใหญ่เลยจะจ่ายหลังวันตัดรอบบิลไปแล้ว
แต่ถ้าหากอนาคตอันใกล้นี้มีแผนจะเปิดบัตรเครดิตเพิ่ม หรือขอสินเชื่อเพิ่ม การจ่ายบางส่วนก่อนวันตัดรอบบิลจะเป็นผลดีต่อเครดิตสกอร์ค่ะ เช่นถ้าได้วงเงินมาสองหมื่น รูดไปหมื่นนึง ก่อนวันที่ 30 ก็จ่ายไปก่อนซัก 8000 ให้เหลืออยู่ 2000 ไปจ่ายหลังวันตัดรอบบิล เพราะเงินที่จ่ายก่อนวันตัดรอบบิลจะไม่ถูกบันทึกว่าเป็นยอดหนี้ แต่หลังวันที่ 30 ไปแล้ว ต่อให้จะไม่มีดอกเบี้ยก็ตาม เงินที่ค้างชำระอยู่จะถือว่าเป็นยอดหนี้ค่ะ การจ่ายก่อนวันตัดรอบจะทำให้อัตราส่วน ยอดหนี้/วงเงิน ดีขึ้น เครดิตสกอร์ก็จะสูงขึ้น แต่ถ้าไม่มีแผนที่จะใช้เครดิตสกอร์ก็ไม่ต้องสนใจตรงนี้ก็ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
บัตรเครดิตจ่ายแบบไหนได้ประโยชน์สูงสุด รูดแล้วจ่ายเลยได้ไหม หรือควรจ่ายตามรอบบิล [มือใหม่]