อาจารย์เขาหวังดีมากนะ แสดงว่าอาจารย์เขาอาจจะผ่านมันมาก่อน

เราเองก็มีลูก อยากจะบอกว่าช่วง 1 ปีแรกของลูกมัน amazing มากจริงๆ มีแต่คนเขาอยากลาคลอดยาวๆ เพื่ออยู่กับลูก 1 ปีแรกมันเป็นอะไรที่แม่หลายคนพยายามมากๆ ที่จะใช้ชีวิตกับเขา เพราะมันย้อนคืนมาไม่ได้ ไม่มีโอกาสให้แก่ตัว

ในฐานะที่ทำงานมานาน สำหรับคุณในวัย 20 อาจจะมองว่า 1 ปีที่จบหลังเพื่อนมันเหมือนห่างกันมาก เสียโอกาสมาก แต่พอเวลาผ่านไป 3 ปี 5 ปี 10 ปี.... 1 ปีการศีกษาที่จบช้า ไม่มีค่าอะไรเลย มันไม่ต่างกันขนาดนั้น ยิ่งถ้าคุณเก่ง ทำงานได้ดี แค่ 1 ปีที่ต่างกันคุณก็เก่งแซงเพื่อนที่จบก่อนมาได้

อยากให้คุณลองคิดดู ย่ายายเลี้ยงหลานยังไงมันไม่เหมือนแม่เลี้ยงลูกหรอก แล้วที่จะปั๊มนมส่ง มันไม่ง่ายอย่างทีคิดนะ หลายคนคิดแบบนี้ก็เป็นอันต้องเลิกล้มกันไป

คุณตั้งใจจะเป็นแม่คนจริงเหรอ แค่นี้ยังคิดไม่ได้เลย ขนาดอาจารย์ยังหวังดีกับลูกคุณมากกว่าคุณอีก คุณบอกว่าตัวเองพร้อม บลาๆๆ เอาจริงๆ ใจคุณไม่พร้อมเป็นแม่คนเลย ยังเด็ก ยังคิดถึงแต่ตัวเอง

เธอคิดว่า ครูทำอะไรเธอไม่ได้  555  
(ทั้งที่ครูสั่งให้ Drop เทอม2/65 ช่วงท้องโตได้ (จบช้า2ปี) ..เชื่อเถอะ! มีกฎมหาลัยรองรับแน่นอน  เค้าปราณีแล้ว)

การส่งฝึกงาน  ถ้านักศึกษาไม่พร้อม,ไม่มีคุณภาพ หรือปิดบังข้อมูลสำคัญ ..  มหาลัยเสียหายแน่
ดังนั้น  มหาลัยมีสิทธิ์ไม่เขียน "ใบส่งตัว" ไป นะจ๊ะ (รวมถึง ไม่จัดหาโรงเรียนให้ และไม่เซ็นให้ผ่าน)

หรือครูจะรอ"ไม่เซ็นผ่านฝึกงาน"ให้เธอ + รร.นั้นจะไม่เซ็นผ่านการฝึกงานให้เธอ (เพราะเธอทำงานไม่ผ่านแน่นอน)  
.. เธอจะได้รู้ผลลัพธ์ว่า "เธอกร่างผิดๆ  คิดหลงตนเองว่าแน่  เธอจะเสียโอกาสทั้งเป็นแม่ และเสียเวลาเสียเซลฟ์ เป็นครูที่ไม่ผ่านงาน"
(แต่เชื่อเถอะ  เธอจะโทษคนอื่น และไม่เห็นว่า แท้จริงเธอต่างหากที่ไม่มีคุณภาพพอ ตั้งแต่เป็นนักศึกษา  ไม่ใช่ครูฝึกสอน)

-------------------
ด้วยจิตสำนึกบิดเบี้ยว  "ห เป็นของชั้น  ชั้นคลอดแล้วให้พ่อแม่เลี้ยงที่ตจว.คือรับผิดชอบแล้ว  
แล้วจะกลับไปหาลูกเสาร์อาทิตย์ (กลับจริงเหรอ??) ..  งานครูเหนื่อยนะ  ทั้งสอนทั้งเตรียมสอน
ความไม่พร้อมของชั้น อาจละเลยทั้งงานสอนและงานแม่ . แต่นั่นมัน"สิทธิ์" ของฉันที่จะทำ"หน้าที่"ไม่เต็มที่  
.. โลกต้องเข้าใจชั้น เพราะชั้นใหญ่คับโลก ..
วันนั้น ถ้าชั้นจะทำงานไม่เต็มที่ จะปั้มนม(ให้ทั้งโรงเรียนรู้)  จะอ้างสิทธิ์สารพัดในฐานะเพิ่งคลอดก็ต้องได้
เด็กทั้งโรงเรียนจะเห็นเป็นเยี่ยงอย่าง (ครูมีลูกเมื่อไรก็ได้ ซึ่งครูก็เป็นวัยเรียน ..  แล้วรร.จะปรามเด็กอย่างไร)  
ครูจะใช้เป็นข้ออ้างที่จะ "ไม่ทำหน้าที่"บ้าง  (แล้ว รร.จะคุมเจ้าหน้าที่อย่างไร)
... มันเป็นเรื่องที่โลกต้องหมุนรอบตัวชั้น  ชั้นไม่เห็นหัวคนอื่น และครูของชั้นหรอก ..

เพราะลำพัง"หน้าที่นักศึกษา" ก็ยังไม่สามารถทำได้ครบ .. (จิตสำนึกก็ด่าครูตัวเอง)  จะไปเป็น"ครู"  อิอิ
... จะไปเป็น "ผู้ดูแลนักเรียนให้อยู่ในระบบ"   ทั้งที่ตนเองไม่ยอมรับ"ระบบ"ที่สถาบันศึกษาจัดขึ้นเพื่อให้สังคมอยู่ในสติ
.. คิดว่า ตนเองทำอะไรก็ได้  ตนเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล  ตนเองรับผิดชอบได้  ..  ทั้งที่ตนเองยังไม่ได้ทำอะไรได้ดีๆให้โลกเลย

ปล. มีลูกไม่พร้อม   ไม่ใช่แค่เรื่องของคุณ   เพราะท้ายที่สุด มันเป็นปัญหาสังคม
ไอ้พวกขี้ยา ล้วนมาจากเด็กที่พ่อแม่กากๆ เอา"หลาน"ไปทิ้งให้ตายาย .. ซึ่งตายายเองก็พิสูจน์แล้วว่า เลี้ยง"ลูก"ออกมาเป็นอย่างไร  .. คุณภาพของคนกลุ่มนี้  จึงสืบทอด  (แย่ที่มันมาเดือดร้อนคนที่พยายามมีชีวิตที่ดี)

สงสารตายายกับครู มีครูฝึกสอนแบบนี้ฉันไม่อยากเรียนด้วยแหล่ะ

อันที่จริงในเมื่อไม่มีกฎหมายบังคับให้ดรอปเรียนหรือมีเราก็ไม่ทราบ เพราะเราไม่เคยท้องในวัยเรียน แต่ถ้าคุณมีคำตอบในใจแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมาหาพวกให้เห็นด้วยและต่อว่าอาจารย์ เราไม่ได้บอกว่าอาจารย์ถูก

แต่ถ้าในมุมของผปค. เราก็ยังไม่อยากให้ลูกหลานเราเรียนกับครูฝึกสอนที่เพิ่งไปคลอดลูกมา (คหสต) เราไม่ได้สงสารลูกคุณ แต่ช่วยไม่ได้ที่เราสงสารเด็กๆนักเรียนที่ต้องมาได้เรียนกับคุณอย่างเสียไม่ได้ ถ้าเลือกได้ก็จะเรียนกับครูที่พร้อมกว่านี้ ครูคนที่รู้จักและบทบาทและหน้าที่ของตัวเองซึ่งคนๆหนึ่งมีบทบาทหน้าที่มากกว่า1อย่าง