สำหรับค่าย Xiaomi ใครๆก็คงนึกถึงสมาร์ตโฟนที่เทพและใช้งานโหด ลื่นไหลอย่างแน่นอน ทางแบรนด์ยังคงออกแบบพัฒนาออกมาไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นแบรนด์ที่ครบครันในเรื่องเทคโนโลยีจริงๆแอดขอบอก ในครั้งนี้เปิดตัวสมาร์ตโฟนสุดเจ๋งมาในรุ่น Xiaomi 12S Ultra ที่ต้องบอกว่าจัดหนักจัดเต็มในเรื่องของกล้องสุดขีด เทียบเท่าระดับเรือธงได้เลยนะ ความละเอียดจุกๆ ฟีเจอร์แน่นๆ พร้อมกับพัฒนาสเปกการใช้งานมาให้มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ไหลลื่นลงตัวมากยิ่งขึ้น งานออกแบบดีไซน์สวยคมเป็นเอกลักษณ์เช่นเคย ถือขึ้นมือสุดๆ เรียกได้ว่ายังคงทำออกมาได้น่าประทับใจอยู่เสมอเลยนะกับค่ายนี้ เดี๋ยวเราไปดูกันเลยว่าในรุ่นนี้มีอะไรโดดเด่นกันบ้าง เอาไว้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ แต่แอดเชื่อว่าหลายๆคนจะต้องถูกใจแบบแอดแน่นอน
Xiaomi 12S Ultra มาพร้อมกับหน้าจอ Dolby Vision® TrueColor Display ขนาด 6.73 นิ้ว (3200×1440พิกเซล) ที่มีค่ารีเฟรชเรท 120Hz สามารถแสดงความสว่างสูงสุดได้ถึง 1500nit พร้อมทั้งรองรับโหมดต่างๆมากมาย ให้สีสันที่สวยคมชัดแม่นยำสุดๆ ในรุ่นนี้ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform ที่มี RAM LPPDDR5 3200MHz 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB / 256GB, RAM LPPDDR5 3200MHz 256GB + ความจำ (UFS 3.1) 512GB มอบการใช้งานที่ไหลลื่น รวดเร็วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด รองรับการใช้งานได้อย่างลงตัว ทางด้านของกล้องมาพร้อมกับเลนส์ ultra-wide 13mm. 48MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 กล้อง Wide angle 23mm. 50.3MP (f/1.9) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX989 และกล้อง Telephoto 120mm. 48MP (f/4.1) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 ในส่วนของกล้องหน้าให้ความละเอียดมาสูงถึง 32MP RGBW Image Sensor เรียกได้ว่าเอาใจสายถ่ายภาพสุดๆ ความละเอียดโหดระดับมือโปร แบตเตอรี่ในรุ่นนี้ให้มาจุใจอยู่ที่ 4,860mAh รองรับการใช้งานได้ยาวๆตลอดทั้งวัน อีกทั้งให้ระบบเสียงโดย Harman Kardon Support Dolby Atmos ที่แน่นอนว่ามอบเสียงแบบนุ่มลึกไพเราะอย่างแน่นอน การออกแบบดีไซน์สวยหรู เป็นเอกลักษณ์ มีขนาดตัวเครื่อง 163.17x 74.92 x 9.06mm น้ำหนัก 225 กรัม พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่ายดาย สะดวกสุดๆ สเปกจัดหนักจัดเต็มมากแอดขอบอกเลย
UNBOX
- ตัวเครื่อง Xiaomi 12S Ultra
- Adaptor + สายชาร์จ
- เคสใส
- คู่มือและที่จิ้มซิม
DESIGN
การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับความเท่ ความสวยงามรวมกันไปในตัว ดูสวยแพงเรียบหรูแต่ดูมีอะไรสุดๆ ขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนแบบมีมิติมากๆ พื้นผิวเป็นผิวแบบด้าน ป้องกันรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ช่วยให้หยิบจับแบบไม่ต้องห่วงรอยเลอะได้ดีเลยทีเดียว ต้องบอกว่าการออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเยอะมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของการจัดวางกล้อง ดูสวยแปลกตาน่าใช้งานมากๆ ถือขึ้นมือสุดๆ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยมีขนาดอยู่ที่ 163.17x 74.92 x 9.06mm มีน้ำหนักเบาเพียง 225 กรัมเท่านั้น พกพาไปไหนสะดวกสบาย ประหยัดพื้นที่ การออกแบบดีไซน์ถือว่าสวยครบจบในตัวเลย
หน้าจอในรุ่นนี้มีขนาดใหญ่จุใจอยู่ที่ 6.73 นิ้ว ขอบหน้าจอมีความบางเฉียบ สามารถใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่ รวมไปถึงขอบหน้าจอด้านล่างที่มีความหนากว่าด้านอื่นๆ ก็ยังคงบางแบบน่าประทับใจสุดๆ ในส่วนของกล้องหน้าในรุ่นนี้เป็นแบบเจาะฝังกล้องไว้บริเวณด้านบนตรงกลาง ไม่มีติ่งลงมาให้รบกวนสายตาเลย ขอบจอโค้งมนสวยมีมิติ น่าใช้งานมากๆ ประสิทธิภาพการแสดงผลก็ระดับเรือธง ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลเลย
ทางด้านของฝาหลังในรุ่นนี้เป็นแบบผิวด้าน เนียนๆตา ป้องกันรอยนิ้วมือได้อย่างยอดเยี่ยม ตามมาด้วยมุมเด่นๆเลย คือในส่วนของโมดูลกล้อง ที่มีความสวยแปลกตาไปจากเดิมมากๆ มาเป็นเหมือนเลนส์กล้องกลมๆ ตัดกับขอบสีเงินให้ดูหรูหรามากขึ้นกว่าเดิม ตัวฐานเป็นแบบมันวาวพร้อมกับสลักชื่อ Leica ไว้แบบเท่ๆอีกด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือการสลักชื่อค่ายด้วยอักษรสีขาวเด่นๆที่ตัดกับสีเครื่องไว้บริเวณมุมล่างซ้ายมือ
ขอบเครื่องด้านบนจะเป็นในส่วนของลำโพง ที่มีการสลักคำ Harman / kardon ไว้ประดับความปังด้วยนะ ตามมาด้วยรูไมค์ตัดเสียงที่ใส่เข้ามาให้ ในบริเวณด้านบนจะมีการเล่นสีฐานรองให้ดูไม่เรียบจนเกินไป ใช้สีเทามาตัดได้อย่างละมุนมาก ต้องบอกว่าทางแบรนด์ใส่ใจทุกรายละเอียดของจริง
ขอบเครื่องด้านล่างจะเป็นในส่วนของลำโพงเช่นเดียวกัน ตามมาด้วยพอร์ตชาร์จ USB Type C และปิดท้ายด้วยช่องใช้ซิม เรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ในส่วนของขอบเครื่องด้านล่างจะมีขีดเส้นสีเทาแบ่งในแต่ละโซนไว้อย่างชัดเจน เป็นอีกลูกเล่นน่ารักๆของเจ้าตัวนี้เลย
ขอบเครื่องด้านซ้ายจะไม่มีปุ่มสั่งการใดๆเข้ามาให้เราใช้งานเลย จะเน้นไปในทางโชว์ขอบพื้นผิวของตัวเครื่องมากกว่า
ขอบเครื่องด้านขวาจะเป็นในส่วนของปุ่มสั่งการ ลดแลเพิ่มเสียง ตามมาด้วยปุ่ม Power ตัวปุ่มนั้นกดใช้งานนุ่มมือ กดง่ายมากๆ
SPEC
- หน้าจอ Dolby Vision® TrueColor Display ขนาด 6.73 นิ้ว (3200×1440พิกเซล) 522ppi, HDR10, รีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1500nit, 10-bit color depth, P3 color gamut
- ชิปประมวลผล Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform
- RAM LPPDDR5 3200MHz 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB / 256GB, RAM LPPDDR5 3200MHz 256GB + ความจำ (UFS 3.1) 512GB
- MIUI 13 based on Android 12
- กล้อง ultra-wide 13mm. 48MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 + กล้อง Wide angle 23mm. 50.3MP (f/1.9) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX989 + กล้อง Telephoto 120mm. 48MP (f/4.1) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586
- กล้องหน้า 32MP RGBW Image Sensor
- ระบบเสียงโดย Harman Kardon Support Dolby Atmos
- ขนาดตัวเครื่อง 163.17x 74.92 x 9.06mm
- น้ำหนัก 225 กรัม
- รองรับมาตราฐาน IP68 dust and water resistance
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 5G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax 8 x / MU-MIMO, Bluetooth 5.2
- แบตเตอรี่ความจุ 4,860mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 67W wired turbo charging, ชาร์จไร้สาย 50W wireless turbo charging, reverse charging แบบไร้สาย 10W
PERFORMANCE
ทางด้านของประสิทธิภาพการใช้งานในรุ่นนี้นั้นต้องบอกว่าปังขึ้นกว่าเดิม เพราะมาพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็ว ลื่นไหลมากขึ้นกว่าเดิม ไม่อืดไม่ค้างให้หงุดหงิดใจเลย อีกทั้งยังมาพร้อมกับ RAM LPPDDR5 3200MHz 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB / 256GB, RAM LPPDDR5 3200MHz 256GB + ความจำ (UFS 3.1) 512GB ที่ให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน คะแนนทดสอบต่างๆทำได้ดี คะแนนออกมาน่าประทับใจ จากการที่แอดได้ใช้งานจริงๆแล้วนั้นตัวเครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่นะ ไม่มีอะไรน่าห่วงเลย
BATTERY
ทางด้านของแบตเตอรี่ในรุ่นนี้ต้องบอกว่าให้ความจุมาได้จุกๆโดนใจสุดๆ โดยให้ความจุมาอยู่ที่ 4,860mAh ที่รองรับการชาร์จเร็วสูงถึง 67W wired turbo charging ชาร์จไร้สาย 50W wireless turbo charging และ reverse charging ชาร์จแบบไร้สาย 10W เป็นความจุที่ค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยนะ ให้มาได้เพียงพอต่อการใช้งานมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ถือว่าพัฒนาออกมาได้ดี แต่ในส่วนของความทนทานของแบตยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก แบตแอบไหลเร็วแต่ก็ไม่มากนัก ยังไม่ส่งผลต่อการใช้งานสักเท่าไหร่ แต่ก็ทดแทนได้ด้วยความประทับใจใหม่ที่สามารถรองรับการชาร์จไวที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยนะ
CAMERA
ทางด้านของกล้องในรุ่นนี้ให้กล้องหลังมาด้วยกันทั้งหมด 3 เลนส์ด้วยความละเอียดแบบจุใจ โดยให้เลนส์ ultra-wide 13mm. ความละเอียดอยู่ที่ 48MP (f/2.2) ที่ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 ตามมากับเลนส์ Wide angle 23mm. ความละเอียดอยู่ที่ 50.3MP (f/1.9) ที่ใช้เซนเซอร์ SONY IMX989 และปิดท้ายกับเลนส์ Telephoto 120mm. ความละเอียดที่ 48MP (f/4.1) ที่ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 สเปกกล้องนั้นถือว่าโหดสุดๆ ความละเอียดจุกโดนใจจัดหนักจัดเต็มกว่ารุ่นก่อนๆ เป็นส่วนที่โดดเด่นของเจ้าตัวนี้เลยก็ว่าได้ ตอบโจทย์สาวกถ่ายภาพได้อย่างแน่นอน ภาพสวยคมชัดจบหลังกล้องได้อย่างสบายๆ อีกทั้งในส่วนของกล้องหน้าให้ความละเอียดมาสูงถึง 32MP RGBW Image Sensor เซลฟีได้สบาย สวยครบจบทุกมุมในเครื่องเดียว ฟีเจอร์ปรับแต่งให้มาครบครันเช่นเดิม ในส่วนของกล้องแอดประทับใจมาก ทางค่ายมีการปรับพัฒนาให้สามารถรองรับการใช้งานอย่างมีคุณภาพมากขึ้น ต้องบอกเลยว่าสายถ่ายภาพห้ามพลาดเลยแหละ เราไปดูรูปตัวอย่างกันเลยว่าจะสวยโดนใจมากขนาดไหน เก็บรายละเอียดได้สวยคมขนาดไหน ไปดูกันเลย
[SR] รีวิว Xiaomi 12S Ultra ที่มาพร้อมกล้อง co-engineered with Leica มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลงตัว !!
สำหรับค่าย Xiaomi ใครๆก็คงนึกถึงสมาร์ตโฟนที่เทพและใช้งานโหด ลื่นไหลอย่างแน่นอน ทางแบรนด์ยังคงออกแบบพัฒนาออกมาไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นแบรนด์ที่ครบครันในเรื่องเทคโนโลยีจริงๆแอดขอบอก ในครั้งนี้เปิดตัวสมาร์ตโฟนสุดเจ๋งมาในรุ่น Xiaomi 12S Ultra ที่ต้องบอกว่าจัดหนักจัดเต็มในเรื่องของกล้องสุดขีด เทียบเท่าระดับเรือธงได้เลยนะ ความละเอียดจุกๆ ฟีเจอร์แน่นๆ พร้อมกับพัฒนาสเปกการใช้งานมาให้มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ไหลลื่นลงตัวมากยิ่งขึ้น งานออกแบบดีไซน์สวยคมเป็นเอกลักษณ์เช่นเคย ถือขึ้นมือสุดๆ เรียกได้ว่ายังคงทำออกมาได้น่าประทับใจอยู่เสมอเลยนะกับค่ายนี้ เดี๋ยวเราไปดูกันเลยว่าในรุ่นนี้มีอะไรโดดเด่นกันบ้าง เอาไว้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ แต่แอดเชื่อว่าหลายๆคนจะต้องถูกใจแบบแอดแน่นอน
Xiaomi 12S Ultra มาพร้อมกับหน้าจอ Dolby Vision® TrueColor Display ขนาด 6.73 นิ้ว (3200×1440พิกเซล) ที่มีค่ารีเฟรชเรท 120Hz สามารถแสดงความสว่างสูงสุดได้ถึง 1500nit พร้อมทั้งรองรับโหมดต่างๆมากมาย ให้สีสันที่สวยคมชัดแม่นยำสุดๆ ในรุ่นนี้ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform ที่มี RAM LPPDDR5 3200MHz 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB / 256GB, RAM LPPDDR5 3200MHz 256GB + ความจำ (UFS 3.1) 512GB มอบการใช้งานที่ไหลลื่น รวดเร็วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด รองรับการใช้งานได้อย่างลงตัว ทางด้านของกล้องมาพร้อมกับเลนส์ ultra-wide 13mm. 48MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 กล้อง Wide angle 23mm. 50.3MP (f/1.9) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX989 และกล้อง Telephoto 120mm. 48MP (f/4.1) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 ในส่วนของกล้องหน้าให้ความละเอียดมาสูงถึง 32MP RGBW Image Sensor เรียกได้ว่าเอาใจสายถ่ายภาพสุดๆ ความละเอียดโหดระดับมือโปร แบตเตอรี่ในรุ่นนี้ให้มาจุใจอยู่ที่ 4,860mAh รองรับการใช้งานได้ยาวๆตลอดทั้งวัน อีกทั้งให้ระบบเสียงโดย Harman Kardon Support Dolby Atmos ที่แน่นอนว่ามอบเสียงแบบนุ่มลึกไพเราะอย่างแน่นอน การออกแบบดีไซน์สวยหรู เป็นเอกลักษณ์ มีขนาดตัวเครื่อง 163.17x 74.92 x 9.06mm น้ำหนัก 225 กรัม พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่ายดาย สะดวกสุดๆ สเปกจัดหนักจัดเต็มมากแอดขอบอกเลย
UNBOX
- ตัวเครื่อง Xiaomi 12S Ultra
- Adaptor + สายชาร์จ
- เคสใส
- คู่มือและที่จิ้มซิม
DESIGN
การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับความเท่ ความสวยงามรวมกันไปในตัว ดูสวยแพงเรียบหรูแต่ดูมีอะไรสุดๆ ขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนแบบมีมิติมากๆ พื้นผิวเป็นผิวแบบด้าน ป้องกันรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ช่วยให้หยิบจับแบบไม่ต้องห่วงรอยเลอะได้ดีเลยทีเดียว ต้องบอกว่าการออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเยอะมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของการจัดวางกล้อง ดูสวยแปลกตาน่าใช้งานมากๆ ถือขึ้นมือสุดๆ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยมีขนาดอยู่ที่ 163.17x 74.92 x 9.06mm มีน้ำหนักเบาเพียง 225 กรัมเท่านั้น พกพาไปไหนสะดวกสบาย ประหยัดพื้นที่ การออกแบบดีไซน์ถือว่าสวยครบจบในตัวเลย
หน้าจอในรุ่นนี้มีขนาดใหญ่จุใจอยู่ที่ 6.73 นิ้ว ขอบหน้าจอมีความบางเฉียบ สามารถใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่ รวมไปถึงขอบหน้าจอด้านล่างที่มีความหนากว่าด้านอื่นๆ ก็ยังคงบางแบบน่าประทับใจสุดๆ ในส่วนของกล้องหน้าในรุ่นนี้เป็นแบบเจาะฝังกล้องไว้บริเวณด้านบนตรงกลาง ไม่มีติ่งลงมาให้รบกวนสายตาเลย ขอบจอโค้งมนสวยมีมิติ น่าใช้งานมากๆ ประสิทธิภาพการแสดงผลก็ระดับเรือธง ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลเลย
ทางด้านของฝาหลังในรุ่นนี้เป็นแบบผิวด้าน เนียนๆตา ป้องกันรอยนิ้วมือได้อย่างยอดเยี่ยม ตามมาด้วยมุมเด่นๆเลย คือในส่วนของโมดูลกล้อง ที่มีความสวยแปลกตาไปจากเดิมมากๆ มาเป็นเหมือนเลนส์กล้องกลมๆ ตัดกับขอบสีเงินให้ดูหรูหรามากขึ้นกว่าเดิม ตัวฐานเป็นแบบมันวาวพร้อมกับสลักชื่อ Leica ไว้แบบเท่ๆอีกด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือการสลักชื่อค่ายด้วยอักษรสีขาวเด่นๆที่ตัดกับสีเครื่องไว้บริเวณมุมล่างซ้ายมือ
ขอบเครื่องด้านบนจะเป็นในส่วนของลำโพง ที่มีการสลักคำ Harman / kardon ไว้ประดับความปังด้วยนะ ตามมาด้วยรูไมค์ตัดเสียงที่ใส่เข้ามาให้ ในบริเวณด้านบนจะมีการเล่นสีฐานรองให้ดูไม่เรียบจนเกินไป ใช้สีเทามาตัดได้อย่างละมุนมาก ต้องบอกว่าทางแบรนด์ใส่ใจทุกรายละเอียดของจริง
ขอบเครื่องด้านล่างจะเป็นในส่วนของลำโพงเช่นเดียวกัน ตามมาด้วยพอร์ตชาร์จ USB Type C และปิดท้ายด้วยช่องใช้ซิม เรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ในส่วนของขอบเครื่องด้านล่างจะมีขีดเส้นสีเทาแบ่งในแต่ละโซนไว้อย่างชัดเจน เป็นอีกลูกเล่นน่ารักๆของเจ้าตัวนี้เลย
ขอบเครื่องด้านซ้ายจะไม่มีปุ่มสั่งการใดๆเข้ามาให้เราใช้งานเลย จะเน้นไปในทางโชว์ขอบพื้นผิวของตัวเครื่องมากกว่า
ขอบเครื่องด้านขวาจะเป็นในส่วนของปุ่มสั่งการ ลดแลเพิ่มเสียง ตามมาด้วยปุ่ม Power ตัวปุ่มนั้นกดใช้งานนุ่มมือ กดง่ายมากๆ
SPEC
- หน้าจอ Dolby Vision® TrueColor Display ขนาด 6.73 นิ้ว (3200×1440พิกเซล) 522ppi, HDR10, รีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1500nit, 10-bit color depth, P3 color gamut
- ชิปประมวลผล Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform
- RAM LPPDDR5 3200MHz 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB / 256GB, RAM LPPDDR5 3200MHz 256GB + ความจำ (UFS 3.1) 512GB
- MIUI 13 based on Android 12
- กล้อง ultra-wide 13mm. 48MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 + กล้อง Wide angle 23mm. 50.3MP (f/1.9) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX989 + กล้อง Telephoto 120mm. 48MP (f/4.1) ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586
- กล้องหน้า 32MP RGBW Image Sensor
- ระบบเสียงโดย Harman Kardon Support Dolby Atmos
- ขนาดตัวเครื่อง 163.17x 74.92 x 9.06mm
- น้ำหนัก 225 กรัม
- รองรับมาตราฐาน IP68 dust and water resistance
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 5G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax 8 x / MU-MIMO, Bluetooth 5.2
- แบตเตอรี่ความจุ 4,860mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 67W wired turbo charging, ชาร์จไร้สาย 50W wireless turbo charging, reverse charging แบบไร้สาย 10W
PERFORMANCE
ทางด้านของประสิทธิภาพการใช้งานในรุ่นนี้นั้นต้องบอกว่าปังขึ้นกว่าเดิม เพราะมาพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็ว ลื่นไหลมากขึ้นกว่าเดิม ไม่อืดไม่ค้างให้หงุดหงิดใจเลย อีกทั้งยังมาพร้อมกับ RAM LPPDDR5 3200MHz 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB / 256GB, RAM LPPDDR5 3200MHz 256GB + ความจำ (UFS 3.1) 512GB ที่ให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน คะแนนทดสอบต่างๆทำได้ดี คะแนนออกมาน่าประทับใจ จากการที่แอดได้ใช้งานจริงๆแล้วนั้นตัวเครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่นะ ไม่มีอะไรน่าห่วงเลย
BATTERY
ทางด้านของแบตเตอรี่ในรุ่นนี้ต้องบอกว่าให้ความจุมาได้จุกๆโดนใจสุดๆ โดยให้ความจุมาอยู่ที่ 4,860mAh ที่รองรับการชาร์จเร็วสูงถึง 67W wired turbo charging ชาร์จไร้สาย 50W wireless turbo charging และ reverse charging ชาร์จแบบไร้สาย 10W เป็นความจุที่ค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยนะ ให้มาได้เพียงพอต่อการใช้งานมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ถือว่าพัฒนาออกมาได้ดี แต่ในส่วนของความทนทานของแบตยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก แบตแอบไหลเร็วแต่ก็ไม่มากนัก ยังไม่ส่งผลต่อการใช้งานสักเท่าไหร่ แต่ก็ทดแทนได้ด้วยความประทับใจใหม่ที่สามารถรองรับการชาร์จไวที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยนะ
CAMERA
ทางด้านของกล้องในรุ่นนี้ให้กล้องหลังมาด้วยกันทั้งหมด 3 เลนส์ด้วยความละเอียดแบบจุใจ โดยให้เลนส์ ultra-wide 13mm. ความละเอียดอยู่ที่ 48MP (f/2.2) ที่ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 ตามมากับเลนส์ Wide angle 23mm. ความละเอียดอยู่ที่ 50.3MP (f/1.9) ที่ใช้เซนเซอร์ SONY IMX989 และปิดท้ายกับเลนส์ Telephoto 120mm. ความละเอียดที่ 48MP (f/4.1) ที่ใช้เซนเซอร์ SONY IMX586 สเปกกล้องนั้นถือว่าโหดสุดๆ ความละเอียดจุกโดนใจจัดหนักจัดเต็มกว่ารุ่นก่อนๆ เป็นส่วนที่โดดเด่นของเจ้าตัวนี้เลยก็ว่าได้ ตอบโจทย์สาวกถ่ายภาพได้อย่างแน่นอน ภาพสวยคมชัดจบหลังกล้องได้อย่างสบายๆ อีกทั้งในส่วนของกล้องหน้าให้ความละเอียดมาสูงถึง 32MP RGBW Image Sensor เซลฟีได้สบาย สวยครบจบทุกมุมในเครื่องเดียว ฟีเจอร์ปรับแต่งให้มาครบครันเช่นเดิม ในส่วนของกล้องแอดประทับใจมาก ทางค่ายมีการปรับพัฒนาให้สามารถรองรับการใช้งานอย่างมีคุณภาพมากขึ้น ต้องบอกเลยว่าสายถ่ายภาพห้ามพลาดเลยแหละ เราไปดูรูปตัวอย่างกันเลยว่าจะสวยโดนใจมากขนาดไหน เก็บรายละเอียดได้สวยคมขนาดไหน ไปดูกันเลย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้