สิ่งมีชีวิตต่างๆ ล้วนไม่ได้ถือกำเนิดบนโลกใบนี้ แต่เป็นเผ่าพันธ์ต่างสปีชี่ย์ ที่เดินทางมาจากดาวดวงอื่น เราวิวัฒนาการจากสิ่งมีชีวิตเซลเดียว ผ่านเวลาหลายล้านปี จนมาเป็น มนุษย์ที่มีจิตสำนึก ที่ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ
เริ่มต้น สิ่งมีชีวิตบนโลกเกิดจากการทดลอง ของ ดวงดาวในกาแล็กซี่ที่ห่างไกล ดาวที่เป็นต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ในที่นี้ขอเรียกว่า "ดาวแม่" การจะส่งสิ่งมีชีวิตไปตั้งรกรากบนดาวอื่นๆ เป็นไปได้ยาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้ ทั้งข้อจำกัดเรื่องระยะทาง และความเร็วในการเดินทาง ดาวแม่จึงใช้วิธีการส่งเป็นข้อมูลพื้นฐานของ DNA ของสิ่งมีชีวิตต่างๆ เริ่มต้นด้วยสิ่งมีชีวิตเซลเดียว หว่านกระจายไปในจักรวาล ลงไปยังดวงดาวต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั่นคือดาวโลก ที่มีโอกาสก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิต
(ดาวแม่ในจินตนาการ)
เป้าหมายของดาวแม่ เพื่อให้สิ่งมีชีวิตที่หว่านลงไปเกิดวิวัฒนาการ เพื่อให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่ "ทรงภูมิปัญญา และมีการตื่นรู้จากจิตสำนึกได้" (มนุษย์)
หนึ่งในข้อมูล DNA พื้นฐานที่ดาวแม่ส่งมายังโลก คือ
เห็ดไซโลไซบิน เป็นของขวัญจากดาวแม่ที่มอบให้แก่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ การวิวัฒนาการของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ล้วนมีความสัมพันธ์กับเห็ดราชนิดนี้
(Psilocybin mushroom)
เวลาล่วงเลยไปหลายล้านปี และแล้วเมื่อ 200,000 ปี ก่อน มนุษย์กลุ่มแรกได้ถือกำเนิดขึ้น มนุษย์สิ่งมีชีวิตที่มีสมองที่สามารถรองรับสิ่งที่เรียกว่า "จิต" ได้ การดำเนินการเฟสที่ 2 ของดาวแม่จึงเริ่มต้น . . .
ในช่วงแรกของการวิวัฒนาการของมนุษย์ เรายังไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘จิต’ เรายังใช้ชีวิตตามแบบสัตว์ชนิดอื่นๆ แค่มีความฉลาดที่มากกว่าสัตว์ทั่วไป เรายังกระทำสิ่งต่างๆ ตามสิ่งเร้าที่เกิดขึ้น ยังไม่มีการตื่นรู้ของ ‘สติ’ (consciousness) สิ่งที่ทำให้สมองของมนุษยวานรวิวัฒนาการไปอย่างมาก ในยุคโบราณ เป็นเพราะเรากิน ‘เห็ดไซโลไซบิน’ เข้าไปกระตุ้น เมื่อสมองมนุษย์ถูกกระตุ้นถึงขีดสุด สมองมนุษย์สามารถรับรู้ และเป็นที่อยู่ของจิตได้
(มนุษย์โบราณนีแอนเดอร์ทัล)
เวลาล่วงเลย ผ่านไปหลายล้านปี ดาวแม่ไม่ได้หายไปไหน ไม่ได้ทิ้งเราให้อยู่เพียงลำพัง ยังคงเฝ้าดูโลกเราอยู่ตลอด เมื่อมนุษย์กลุ่มแรกวิวัฒนาการจนมีสมองเพียงพอที่จะรองรับจิตได้ การดำเนินการเฟสที่ 2 ก็เริ่มจากจุดนี้ ดาวแม่ได้เริ่มส่งจิตของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงลงมาบนโลกมนุษย์ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเสมอ . . .
‘จิต’ ไม่มีน้ำหนัก ไม่มีมวล เป็นกลุ่มพลังงานที่ต่างจากที่เราเคยรู้จัก และเทคโนโลยีปัจจุบันของมนุษย์ยังไม่สามารถตรวจจับได้ แต่สมองของเราสามารถรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ จิตสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่าแสง ก้าวข้ามขีดจำกัดเรื่องเวลา และระยะทาง (คล้ายการเดินทางด้วยรูหนอน) จิตใช้สมองมนุษย์เป็นเพียงภารชนะ ในการกระทำสิ่งต่างๆ จิตเป็นที่เก็บรวบรวมองค์ความรู้ และความทรงจำต่างๆ ทั้งอดีต และปัจจุบันของจิตดวงนั่น รวมถึงความทรงจำของร่างกายที่อาศัยอยู่ด้วย เมื่อร่างกายมนุษย์เราตายลง จิตก็จะข้ามผ่านไปอีกมิติ ซึ่งแยกออกจากมิติปัจจุบัน และจะถูกส่งกลับมาที่กายเนื้อใหม่ที่เพิ่งปฏิสนธิได้ 8-12 สัปดาห์ เพื่อเป็นภารชนะต่อไป
ในยุคแรกนั่น มนุษย์เราไม่สามารถเข้าถึงจิตได้ 100% ว่ากันว่า เราเข้าถึงจิตได้เพียงแค่ 14% เท่านั่น ดาวแม่พยายามสื่อสารกับเรา มอบความรู้ต่างๆ ผ่านจิต ที่ส่งลงมา แต่เราไม่สามารถรับรู้ และเข้าถึงได้ มีเพียงมนุษย์บางคน เท่านั่นที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ ในการรับรู้ และดึงเอาศักยภาพ และองความรู้ของจิตมาใช้งานได้ . . . / ว่างๆ มาเขียนต่อครับ
ศาสนาความเชื่อ "เห็ดและดวงดาว"
หนึ่งในข้อมูล DNA พื้นฐานที่ดาวแม่ส่งมายังโลก คือ เห็ดไซโลไซบิน เป็นของขวัญจากดาวแม่ที่มอบให้แก่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ การวิวัฒนาการของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ล้วนมีความสัมพันธ์กับเห็ดราชนิดนี้