เมื่อเช้า อาแปะเห็นกระทู้เรื่อง"ดวงชะตากับสังคมไทย" ขึ้นมาแว๊บๆ ว่าจะตอบละ พอดีรีบไปวัดหลังคาเรือนไทยเลยยังไม่ได้ว่างตอบเมื่อตอนเช้า กะว่าจะมาตอบทู้สายๆตอนนั่งหม่ำข้าว ...
เปิดบอร์ดมาดูอีกครั้ง...อ้าววว กระทู้ที่ว่าหายไปแล้ว.. อาแปะแปลกใจจริงๆ กระทู้ที่น่าจะคุยกันเชิงวิชาการได้แบบนั้น หายไปได้ง่ายๆเลยอ่ะ..
อาแปะมานึกเสียดาย หากอาแปะตอบไปเมื่อเช้าถึงแม้กระทู้จะหาย อย่างน้อยอาแปะก็ได้ระบายความคิดของตนออกมา ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เผยแผ่ก็ยังดี....เนอะ..
เสียดายกระทู้สังเคราะห์สังคมแบบนี้จัง..
พอหมดฤดูฝนอาแปะก็จะงานยุ่งหนะฮับ โดยเฉพาะช่วงเช้าจะเป็นการทำงานที่มีความสุขมาก เพราะแดดยังไม่ออก อากาศกำลังเย็นสบาย..
โปรเจคต่อไปของอาแปะคือเปลี่ยนหลังคาเรือนไทยจากกระเบื้องเป็นเมทัลชีทฮับ ด้วยว่าแผ่นกระเบื้องผุกรอบแตกร้าวหลายแผ่นเพราะที่นี่ความชื้นเยอะ ฤดูฝนพอฝนตกลงมารั่วเปียกจนพื้นไม้โก่ง พอหมดฝนต้องรีบเปลี่ยน ก่อนที่พายุฤดูร้อนจะมาในช่วงต้นปีหน้า..
ทีแรกก็จะจ้างช่างเปลี่ยนให้หนะฮับ ช่างรายแรกมาดูงาน แล้วหายเงียบไปเลย ช่างรายที่สองดูงานแล้วตีราคาเฉพาะค่าแรงตารางเมตรละห้าร้อย ...
อุ๊ต๊ะพ่อเจ้าประคุณ คิดค่าแรงแพงเหลือเกิน อาแปะประเมิณคร่าวๆค่าแรงรื้อกระเบื้องเก่าให้ตารางเมตรละ 50 บาท ค่าแรงมุงเมทัลชีทใหม่ให้ 250 บาท..
ช่างแกเรียกอาแปะมาซะตาราเมตรละห้าร้อย อาแปะไม่สู้ราคาหนะฮับ...แหมงานง่ายๆ ปั้นลมก็ไม่ต้องใส่ กันสาดด้านข้างก็ไม่ต้องทำ แค่มุงหลังคาด้านบนเฉยๆแบบเรียบง่ายมากๆคิดค่าแรงมาห้าร้อยต่อตารางเมตร ราคาเวอร์มาก... สุดท้ายอาแปะก็เลยคิดว่าต้องเปลี่ยนเอง.. เมื่อเช้าวัดขนาดเสร็จละ ขั้นตอนต่อไปก็ไปสั่งแผ่นเมทัลชีทมาเตรียม...
จะว่าไปแล้วการมีสมบัติพัสถานนี่มันเป็นภาระมากนะครับ ต้องคอยดูแลรักษาให้คงสภาพอยู่เสมอ..
อย่างเรือนไทยนี่เป็นสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่อาแปะชอบมาก จะเสื่อมจะโทรมอย่างไรก็ต้องคอยรักษาไว้เท่าที่จะสามารถทำได้ แต่มันก็ไม่มีสิ่งใดอยู่เป็นนิจจังดอกเนอะ... อาแปะก็ไม่ใช่คนยึดมั่นถือมั่นที่จะไม่ยอมเปลี่ยนจากกระเบื้องมาเป็นแผ่นเมทัล... ซึ่งเวลามองดูแล้วอาจจะไม่เข้าบุคคลิกของบ้านเรือนไทย อาแปะเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด ก็แค่นั้นแหละครับ หลายเรื่องเราก็ต้องยอมปรับยอมเปลี่ยนเพื่อให้สิ่งนั้นๆคงอยู่ต่อไปอีก..
เพราะหากเราไปยอมปรับเปลี่ยน ยังยึดมั่นถือมั่นในขนบเดิมๆเราก็จะเจอปัญหาแบบเดิมๆ..
เพียงแต่เราเข้าใจว่าถึงเวลาไหนควรเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงอย่างไรให้เหมาะสม สิ่งนั้นๆก็จะมีสถานะอยู่ได้นานขึ้น ไม่สูญสลายไปด้วยผู้ย่อยสลาย...
..แค่นั้นเอง..
อาแปะมาโม้เรื่องเรือนไทยที่เสื่อมโทรมนะฮับ อย่าคิดมาก...
อมิตพุทธ..
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ตั้งทู้เรื่อยไปให้ลูกหลานอ่านเล่น... ว่าด้วยกระทู้ที่อาแปะอยากตอบแต่หายไปแล้ว..
เปิดบอร์ดมาดูอีกครั้ง...อ้าววว กระทู้ที่ว่าหายไปแล้ว.. อาแปะแปลกใจจริงๆ กระทู้ที่น่าจะคุยกันเชิงวิชาการได้แบบนั้น หายไปได้ง่ายๆเลยอ่ะ..
อาแปะมานึกเสียดาย หากอาแปะตอบไปเมื่อเช้าถึงแม้กระทู้จะหาย อย่างน้อยอาแปะก็ได้ระบายความคิดของตนออกมา ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เผยแผ่ก็ยังดี....เนอะ..
เสียดายกระทู้สังเคราะห์สังคมแบบนี้จัง..
พอหมดฤดูฝนอาแปะก็จะงานยุ่งหนะฮับ โดยเฉพาะช่วงเช้าจะเป็นการทำงานที่มีความสุขมาก เพราะแดดยังไม่ออก อากาศกำลังเย็นสบาย..
โปรเจคต่อไปของอาแปะคือเปลี่ยนหลังคาเรือนไทยจากกระเบื้องเป็นเมทัลชีทฮับ ด้วยว่าแผ่นกระเบื้องผุกรอบแตกร้าวหลายแผ่นเพราะที่นี่ความชื้นเยอะ ฤดูฝนพอฝนตกลงมารั่วเปียกจนพื้นไม้โก่ง พอหมดฝนต้องรีบเปลี่ยน ก่อนที่พายุฤดูร้อนจะมาในช่วงต้นปีหน้า..
ทีแรกก็จะจ้างช่างเปลี่ยนให้หนะฮับ ช่างรายแรกมาดูงาน แล้วหายเงียบไปเลย ช่างรายที่สองดูงานแล้วตีราคาเฉพาะค่าแรงตารางเมตรละห้าร้อย ...
อุ๊ต๊ะพ่อเจ้าประคุณ คิดค่าแรงแพงเหลือเกิน อาแปะประเมิณคร่าวๆค่าแรงรื้อกระเบื้องเก่าให้ตารางเมตรละ 50 บาท ค่าแรงมุงเมทัลชีทใหม่ให้ 250 บาท..
ช่างแกเรียกอาแปะมาซะตาราเมตรละห้าร้อย อาแปะไม่สู้ราคาหนะฮับ...แหมงานง่ายๆ ปั้นลมก็ไม่ต้องใส่ กันสาดด้านข้างก็ไม่ต้องทำ แค่มุงหลังคาด้านบนเฉยๆแบบเรียบง่ายมากๆคิดค่าแรงมาห้าร้อยต่อตารางเมตร ราคาเวอร์มาก... สุดท้ายอาแปะก็เลยคิดว่าต้องเปลี่ยนเอง.. เมื่อเช้าวัดขนาดเสร็จละ ขั้นตอนต่อไปก็ไปสั่งแผ่นเมทัลชีทมาเตรียม...
จะว่าไปแล้วการมีสมบัติพัสถานนี่มันเป็นภาระมากนะครับ ต้องคอยดูแลรักษาให้คงสภาพอยู่เสมอ..
อย่างเรือนไทยนี่เป็นสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่อาแปะชอบมาก จะเสื่อมจะโทรมอย่างไรก็ต้องคอยรักษาไว้เท่าที่จะสามารถทำได้ แต่มันก็ไม่มีสิ่งใดอยู่เป็นนิจจังดอกเนอะ... อาแปะก็ไม่ใช่คนยึดมั่นถือมั่นที่จะไม่ยอมเปลี่ยนจากกระเบื้องมาเป็นแผ่นเมทัล... ซึ่งเวลามองดูแล้วอาจจะไม่เข้าบุคคลิกของบ้านเรือนไทย อาแปะเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด ก็แค่นั้นแหละครับ หลายเรื่องเราก็ต้องยอมปรับยอมเปลี่ยนเพื่อให้สิ่งนั้นๆคงอยู่ต่อไปอีก..
เพราะหากเราไปยอมปรับเปลี่ยน ยังยึดมั่นถือมั่นในขนบเดิมๆเราก็จะเจอปัญหาแบบเดิมๆ..
เพียงแต่เราเข้าใจว่าถึงเวลาไหนควรเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงอย่างไรให้เหมาะสม สิ่งนั้นๆก็จะมีสถานะอยู่ได้นานขึ้น ไม่สูญสลายไปด้วยผู้ย่อยสลาย...
..แค่นั้นเอง..
อาแปะมาโม้เรื่องเรือนไทยที่เสื่อมโทรมนะฮับ อย่าคิดมาก...
อมิตพุทธ..