Donovan Mitchell ถูกเทรดมาอยู่ Cavaliers เมื่อเดือนก่อนในดีลเเลกตัว Lauri Markkanen, Collin Sexton เเละ trade package อื่นๆ สร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าตัวเเละเเฟนบาสเป็นอย่างมากเพราะตัดหน้า Knicks ที่อุตส่าห์เจรจามานาน 2 เดือน

ตลอด 25 ฤดูกาลหลัง Cavaliers ในปีที่ไม่มี LeBron James เข้า playoff ได้เเค่ครั้งเดียวเเละหนสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี 1988 โดยมีสถิติ 420-735 (ชนะ 35.2%) เฉลี่ยปีละ 29 wins

ส่วนปีที่มี LeBron ทีมเข้า playoff ได้ 9 ครั้งจาก 11 ฤดูกาลด้วยสถิติ 560-342 (ชนะ 62%) เฉลี่ยปีละ 51 wins เเละเข้าถึงนัดชิงทั้งหมด 5 ครั้งเเต่ได้เเชมป์มาหนเดียวในปี 2016 โดยเป็นมวยรองทุกครั้งที่เข้าชิงกับ Spurs เเละ Warriors

สถานการณ์หลัง LeBron ย้ายออกในปี 2018 คล้ายๆ กับตอนที่ Kevin Garnett หนีไปอยู่ Celtics ในปี 2007 เเละปล่อยให้ทีมหมาป่ากากยาวตั้งเเต่นั้นมา ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังผู้บริหารเลือกดราฟต์ Darius Garland กับ Evan Mobley เเละได้ตัว Jarrett Allen กับ Mitchell จากตลาดเทรดซึ่งตัวหลักทุกคนเหลือสัญญาผูกพันธ์อย่างน้อย 3 ปีโดย Mitchell ตัวสูง 6’1” เท่ากับ Garland ทําให้หลายคนเป็นห่วงว่าระบบการด์หุ่น hobbit ไม่น่ารอดเเละเขาไม่เก่งเรื่องเกมส์รับมาตั้งเเต่ไหนเเต่ไรด้วย

สมัยยังอยู่ Jazz ยามที่มี Mitchell เป็นคนตามประกบใกล้ชิดในฤดูกาลปกติ ทีมคู่เเข่งจะยิงได้ดีขึ้น 4% เเละตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 9.6% ในรอบ playoff เเสดงให้เห็นว่าเขามีเกมส์รับที่รั่วเเค่ไหน ถึงเเม้ Jazz จะมี Rudy Gobert เจ้าของรางวัล DPOY 3 สมัยอยู่ในทีมเเต่เกมส์รับไม่ใช่หน้าที่ของคนๆ เดียวเเละ Mitchell ต้องมีความพยายามมากกว่านี้

ถึงเเม้จะมีรูปร่างที่เสียเปรียบเเต่มี wingspan 6’10” เเละหนัก 215 ปอนด์เลยถือว่าไม่ได้เเย่มาก เขาออกสตาร์ท 3 เกมส์เเรกของฤดูกาลนี้ได้สวยที่ 33.3 PPG, 7 assists, 5.3 RBs (สามเเต้มลง 42.3%) Mitchell เป็นคนฉลาดเเละเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ถ้าปรับปรุงเรื่องเกมส์รับได้ก็น่าจะประสบความสําเร็จมากกว่าตอนอยู่ Jazz

Credit: Hoops Rumors