วันนี้ไม่ต้องรีบนะครับหมายดูหลวมๆ ตอนเช้าก็เต็กไข่ แม่นายมีเวลาแต่งตัวแต่งหน้าเป็น snowwhite สบายๆ
ออกบ้านก็สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว ก็มาถึง phillip island wildlife park เป็นที่เที่ยวมาตรฐานที่นี่เค้า ประมาณมีสัตว์ เฉพาะถิ่น aus ให้ดู พูดถึงสัตว์เฉพาะถิ่นนี่ phillip island จะมีห่านเทาเต็มไปหมดทุกที่ทาง เราไม่รู้จัก ไปหาใน google มาให้พี่ๆเผื่อสนใจอ่านครับ
พอเข้ามาใน wildlife park นี่ดูเสื่อมโทรมนิดหน่อย แต่ที่แย่คือตามทางเดินจะมีอึของสารพัดสัตว์เต็มไปหมด คือสัตว์ส่วนใหญ่เค้าปล่อยอยู่เป็นอิสระใน park เลย ประกอบด้วย นกอีมู หงษ์ดำ และ highlight ก็คือจิงโจ้ มีหลากหลายสายพันธ์ุตัวเล็ก กลาง ใหญ่ สีเข้ม กลาง อ่อน จนขาว หลายสิบตัวมาก เราได้มีโอกาสเอาอาหารเม็ดไปปัอนน้องโจ้ บุคลิกหล่อนตลกมากเลย คือกะมนุษย์อย่างเราที่พยายามเอาอาหารเม็ดให้หล่อน หล่อนสุดจะแอ้คคือไม่กลัวไม่รัก ไม่สน ไม่มองหน้าเราเลยด้วยซ้ำ แม่นายบอกว่าเค้าเห็นเราเป็นจานอาหาร
อีกอันนึงที่ฮิตก็คือ โคอาล่า นี่ก็เฉยๆเหมือนกันแต่เค้าไม่ให้เราเข้าไปใกล้มากเหมือนน้องโจ้
ออกมาจาก wildlife park ก็ไป phillip island circuit ที่พวกเรารู้จักดี ตอนไม่มีแข่งนี่ร้างจริงๆ เราตั้งใจจะเข้าไปดู museum ก็เป็น museum เล็กๆและดูว่าคงไม่ได้ลงทุนอะไรมากมายนัก รถ หรือ ของที่ show ก็น่าจะขอๆเค้ามาจากทีมหรือนักแข่ง ที่จบปีแข่งแล้ว หรือไม่อยากขนกลับ แต่เราก็ชอบอยู่ดีนะครับ มีรถ 46 rossi สมัยแข่ง 125 ด้วย
จากนั้นหมายก็จะขับรถไปตามที่เที่ยวสำคัญของเกาะ พอไปถึงอันแรกคือ woolamai cape เราก็ได้สังเกตุว่ายางหลังขวาลมอ่อนมากใกล้แบบ ก็เลยสะกิดแม่นายว่าเราจะต้องรีบไปแก้ไขสถานะการนี้ก่อน ก็หาใน google นี่แหละ ว่า tire shop ไป 15 โล พี่ที่ร้านเค้าว่างทำให้พอดี เราไปส่องๆดูคืออยากรู้ว่าเป็นอิหยังวะ ก็คิอมีรูรั่วลมออกด้านข้างยางไม่เห็นสิ่งใดที่เป็นเหตุ นั่งรอสักครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ
สถานะการนี้โอเคมากนะครับ คือถ้าเราไปแบนแต๊ดแต๊ที่ไหนก็จะยุ่งกว่านี้ โดยเฉพาะหว่างเดินทาง นึกถึงคราวที่ scotland แบนแต๊ดแต๊อยู่กลางไฮเวย์นี่ิ นั่งรอในรถ 6 ชั่วโมง กว่าจะแก้ไขกลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน
จากนั้นก็แวะซื้อของ coles เป็น super ขนาดใหญ่ หาซื้อ wasabi ตั้งใจทาน salmon ต้มมาม่าทานที่บ้าน