อาแปะขอเกริ่นก่อนว่า...."มาคุย" ..หมายถึงมาโม้ มาฝอย ..ไรงี้ ซึ่งไม่ใช่มาชวนคุย ไม่ใช่มาชวนสนทนา...นะครัช
อาแปะเริ่มรู้ตัวว่าเป็นนักอ่านเมื่อครั้งสมัยซิ่งมอไซด์ไปอัดกับรถสิบล้อ เละครัช...ขาเดี้ยงด้วย ต้องนอนติดเตียงเกือบปี...
ช่วงที่นอนติดเตียงนี้ พี่สาวอาแปะแกเปิดร้านเย็บผ้า นางก็จะรับนิตยสาร วารสารต่างๆไว้ให้ลูกค้าอ่าน นางกลัวอาแปะเรียนไม่ทันเพื่อน ก็เอาหนังสือนั่นนี่มาให้อาแปะอ่าน เช่น ขวัญเรือนงี้,กุลสตรีงี้,บางกอกงี้,อสท.งี้,ชัยพฤกษ์งี้ .... อาแปะก็อ่านทุกวัน อ่านทุกเล่ม พออ่านหนังสือพวกนี้เบื่อ นางก็ไปขุดหนังสือสารพัดจากในตู้หนังสือมาให้อ่าน เช่น นิทานเวตาลงี้,สามก๊กงี้, โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับธรรมมะพี่ชายคนกลางสะสมไว้เยอะมาก นางก็ไปขุดหนังสือธรรมมะมาให้อ่าน เรียกว่าอาแปะนอนติดเตียงอยู่เป็นปี ได้อ่านหนังสือหมดบ้านเลย..
จะว่าไปแล้วก็อ่านไปตามประสาเด็กแปดขวบ ไม่เข้าใจเนื้อหาอะไร ... แต่ที่พอเข้าใจและชอบมากคือนิยายจากหนังสือบางกอกเรื่อง"เสือป่า" ตัวพระเอกชื่อ.."เสือ กลิ่นสัก" เป็นนิยายเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้พิทักษ์ป่า...เรื่องนี้ชอบมาก เรียกว่าจุดประกายความรักธรรมชาติในตัวอาแปะให้ลุกโชนขึ้นมา ทำให้มีความฝันว่าอยากมีชีวิตอยู่ป่าอยู่ดง... สุดท้ายอาแปะก็ทำได้ตามที่ฝัน ทุกวันนี้มีความสุขมากๆกับชีวิตคนป่าคนดง...
พออาแปะเริ่มเรียนมัธยม ก็เริ่มขอตังส์แม่ซื้อหนังสืออ่านเอง..เช่น ชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์,CBA MODEL,มิติที่สี่,ทักษะ ฯลฯ ช่วงเรียนมัธยมนี่ซื้อหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ล้วนๆ.. พอเข้าวัยทำงานเริ่มสะสมหนังสือธรรมมะ ช่วงนั้นมีเก็บไว้หลายตู้ พอมาอยู่ป่าหนังสือต่างๆ ที่ยังพอมีประโยชน์ก็บริจาคให้ห้องสมุดบ้าง หนังสือที่ดูแล้วเก่าเกินไปก็ชั่งกิโลขายบ้าง... แต่ก็ยังมีหนังสือธรรมมะเหลืออยู่ไม่กี่เล่มที่ลูกสาวเก็บไว้อ่านมั๊ง..
ทั้งๆที่เป็นคนบ้าธรรมมะแต่หนังสือเล่มสุดท้ายที่อาแปะซื้อ และเอาติดตัวมาด้วยคือหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ..
เล่มนี้จำได้เลาๆว่าซื้อตอนอายุสี่สิบต้นๆมั๊ง... ไปเห็นหน้าปกทีแรกยังติว่า ..เฮ้ย...นี่หนังสือคนแก่นี่หว่า(เรายังไม่แก่เฟร้ย) ทีแรกว่าจะไม่ซื้อ แต่พอเปิดดูเนื้อหา โอ้โห ความรู้เรื่องสมุนไพรทั้งนั้นเลย ก็ควักตังส์ซื้อมาโดยไม่เสียดายเลย ...เป็นหนังสือที่มีคุณค่ามากในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพของตนให้แข็งแรง อาแปะใช้ประกอบการศึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมาจนถึงทุกวันนี้...
สุดท้าย... ก็ไม่รู้จะสรุปว่าอะไรนะ เรื่องราวของหนังสือก็คล้ายๆเรื่องราวของชีวิต มีเกิดมีดับ เมื่อโลกออนไลน์แพร่หลายขึ้น ตลาดหนังสือเล่มก็ดูแคบลง..
ก็ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้า จะเหลือผู้ผลิตอยู่กี่รายกันนะ... อย่างไรก็ช่วยๆกันอุดหนุนหนังสือเล่มบ้างนะ...
แม้ไม่อุดหนุนก็อย่าไปป่วนงานเค้าเลยเน้อ หนังสือคือส่วนหนึ่งของอนาคตของชาติ เชียวนะ..
จบการโม้เรื่องหนังสือแต่เพียงเท่านี้...ครัช
อมิตพุทธ..
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ตั้งกระทู้เรื่อยไป ให้ลูกหลานได้อ่านเล่น...อาแปะมาคุยเรื่องหนังสือตามกระแสสดนส.แห่งชาติ
อาแปะเริ่มรู้ตัวว่าเป็นนักอ่านเมื่อครั้งสมัยซิ่งมอไซด์ไปอัดกับรถสิบล้อ เละครัช...ขาเดี้ยงด้วย ต้องนอนติดเตียงเกือบปี...
ช่วงที่นอนติดเตียงนี้ พี่สาวอาแปะแกเปิดร้านเย็บผ้า นางก็จะรับนิตยสาร วารสารต่างๆไว้ให้ลูกค้าอ่าน นางกลัวอาแปะเรียนไม่ทันเพื่อน ก็เอาหนังสือนั่นนี่มาให้อาแปะอ่าน เช่น ขวัญเรือนงี้,กุลสตรีงี้,บางกอกงี้,อสท.งี้,ชัยพฤกษ์งี้ .... อาแปะก็อ่านทุกวัน อ่านทุกเล่ม พออ่านหนังสือพวกนี้เบื่อ นางก็ไปขุดหนังสือสารพัดจากในตู้หนังสือมาให้อ่าน เช่น นิทานเวตาลงี้,สามก๊กงี้, โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับธรรมมะพี่ชายคนกลางสะสมไว้เยอะมาก นางก็ไปขุดหนังสือธรรมมะมาให้อ่าน เรียกว่าอาแปะนอนติดเตียงอยู่เป็นปี ได้อ่านหนังสือหมดบ้านเลย..
จะว่าไปแล้วก็อ่านไปตามประสาเด็กแปดขวบ ไม่เข้าใจเนื้อหาอะไร ... แต่ที่พอเข้าใจและชอบมากคือนิยายจากหนังสือบางกอกเรื่อง"เสือป่า" ตัวพระเอกชื่อ.."เสือ กลิ่นสัก" เป็นนิยายเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้พิทักษ์ป่า...เรื่องนี้ชอบมาก เรียกว่าจุดประกายความรักธรรมชาติในตัวอาแปะให้ลุกโชนขึ้นมา ทำให้มีความฝันว่าอยากมีชีวิตอยู่ป่าอยู่ดง... สุดท้ายอาแปะก็ทำได้ตามที่ฝัน ทุกวันนี้มีความสุขมากๆกับชีวิตคนป่าคนดง...
พออาแปะเริ่มเรียนมัธยม ก็เริ่มขอตังส์แม่ซื้อหนังสืออ่านเอง..เช่น ชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์,CBA MODEL,มิติที่สี่,ทักษะ ฯลฯ ช่วงเรียนมัธยมนี่ซื้อหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ล้วนๆ.. พอเข้าวัยทำงานเริ่มสะสมหนังสือธรรมมะ ช่วงนั้นมีเก็บไว้หลายตู้ พอมาอยู่ป่าหนังสือต่างๆ ที่ยังพอมีประโยชน์ก็บริจาคให้ห้องสมุดบ้าง หนังสือที่ดูแล้วเก่าเกินไปก็ชั่งกิโลขายบ้าง... แต่ก็ยังมีหนังสือธรรมมะเหลืออยู่ไม่กี่เล่มที่ลูกสาวเก็บไว้อ่านมั๊ง..
ทั้งๆที่เป็นคนบ้าธรรมมะแต่หนังสือเล่มสุดท้ายที่อาแปะซื้อ และเอาติดตัวมาด้วยคือหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ..
เล่มนี้จำได้เลาๆว่าซื้อตอนอายุสี่สิบต้นๆมั๊ง... ไปเห็นหน้าปกทีแรกยังติว่า ..เฮ้ย...นี่หนังสือคนแก่นี่หว่า(เรายังไม่แก่เฟร้ย) ทีแรกว่าจะไม่ซื้อ แต่พอเปิดดูเนื้อหา โอ้โห ความรู้เรื่องสมุนไพรทั้งนั้นเลย ก็ควักตังส์ซื้อมาโดยไม่เสียดายเลย ...เป็นหนังสือที่มีคุณค่ามากในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพของตนให้แข็งแรง อาแปะใช้ประกอบการศึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมาจนถึงทุกวันนี้...
สุดท้าย... ก็ไม่รู้จะสรุปว่าอะไรนะ เรื่องราวของหนังสือก็คล้ายๆเรื่องราวของชีวิต มีเกิดมีดับ เมื่อโลกออนไลน์แพร่หลายขึ้น ตลาดหนังสือเล่มก็ดูแคบลง..
ก็ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้า จะเหลือผู้ผลิตอยู่กี่รายกันนะ... อย่างไรก็ช่วยๆกันอุดหนุนหนังสือเล่มบ้างนะ...
แม้ไม่อุดหนุนก็อย่าไปป่วนงานเค้าเลยเน้อ หนังสือคือส่วนหนึ่งของอนาคตของชาติ เชียวนะ..
จบการโม้เรื่องหนังสือแต่เพียงเท่านี้...ครัช
อมิตพุทธ..