สวัสดีค่ะทุกคน เราจะมารีวิวการไปเทศกาลดนตรีที่รวมศิลปินไทยมากมายในงานนั่นก็คือ OPTOPOP2022 นั่นเองโดยงานนี้จัดไปเมื่อวันที่ 15-16 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ราชมังคลากีฬาสถานต้องบอกก่อนเลยว่าในปี 2565 นี้เราไปคอนเสิร์ตหรือเทศกาลดนตรีมาหลายงานแต่งานนี้เป็นงานที่เรามีความประทับใจให้ตั้งแต่ต้นจนจบเลย เราจะขอเล่าแบบรวมกันทั้งสองวันเพราะว่าทั้งสองวันมีการจัดการเหมือนกันต่างกันแค่ LINEUP ของศิลปินที่ทำการแสดงเท่านั้น โดยบัตรมีให้ซื้อทั้งแบบวันเดียวและแบบที่เข้าได้ทั้งสองวันส่วนตัวเราตั้งใจไปฟังทั้งสองวันเลย
มาเริ่มตั้งแต่เข้างานกันเลยจะบอกว่าเราไปถึงช้าเกือบชั่วโมงเพราะว่าหารถที่จะไปไม่ได้จนต้องยอมขึ้นแท็กซี่ทำให้พอไปถึงก็ไม่ทันไปประมาณ 5 โชว์แล้ว เมื่อถึงงานแล้วก่อนเข้าไปในสนามก็จะเห็นบูธแลกบัตรสามารถเข้าไปสอบถามรายละเอียดที่จุดนี้ได้ เราได้เป็นสายข้อมือเพื่อไว้เข้างานทั้งสองวัน เสร็จแล้วก็รีบเข้างานจะมีจุดตรวจของในกระเป๋าดูสายข้อมือก่อนเข้างานปกติไม่สามารถนำน้ำเปล่าหรืออาหารเข้าไปในงานได้ ตอนตรวจกระเป๋าเสร็จเรากับเพื่อนได้ยินว่าเป็นศิลปินที่เราชอบกำลังแสดงอยู่นั่นก็คือวง Proxie เลยรีบวิ่งเข้างานกันจนหอบพอเห็นทางเข้าก็รีบวิ่งไปเลยจนได้รู้ว่าเป็นเหมือนหลุมหรือเรียกว่าโซนกราวด์ส่วนในเรื่องของที่นั่งภายในคอนทุกคนสามารถเลือกได้เองเลยว่าจะนั่งบนอัฒจันทร์หรือมายืนในหลุมก็ได้เพราะในบัตรไม่มีการระบุที่นั่งเราฟัง Proxie จบก็เดินออกมาหาซื้อของกินเพราะตั้งแต่เช้าเรายังไม่ได้กินอะไรกันมาเลย
ต่อไปเราก็จะมาพูดในส่วนของโซนขายอาหารเครื่องดื่มกันต่อ ถ้าภายในสนามจะมีบูธขายเครื่องดื่มของผู้จัดงานนั่นก็คือ 4nologue น้ำเปล่าขายอยู่ที่ราคาขวดละ 10 บาท น้ำอัดลมใส่แก้วขายอยู่ที่ 35 บาทซึ่งสำหรับเราราคาถือว่าโอเคมากเพราะน้ำอัดลมเขาจะใส่ในแก้วพลาสติกสามารถนำกลับไปใช้ต่อได้ด้วย และก็มีบูธขายป็อปคอร์นของ major ในส่วนของด้านนอกสนามจะมีบูธมาขายอาหารเยอะมากเป็นทางเดินเลยมีทั้งของคาวของหวาน เครื่องดื่มต่างๆ แต่ทุกร้านจะบอกว่าคนต่อแถวเยอะมาก เราพยายามหาร้านที่คิวน้อยที่สุดจนได้กินปลาหมึกย่างกับไส้กรอกทั้งสองวันเลย55555555555 ซื้อเสร็จเราก็มานั่งกินตรงบันไดทางเดินเพราะว่าไม่มีโต๊ะเก้าอี้เหลือให้นั่งเลยแต่ส่วนตัวเราก็เข้าใจว่าคนมางานเยอะมากทำให้จุดนี้อาจจะไม่พอ กินเสร็จเราก็ตัดสินใจเข้าไปนั่งดูการแสดงต่อ เราไปนั่งบนอัฒจันทร์ชั้นสองเพราะอยากนั่งพิงเก้าอี้ บนนี้สามารถนำอาหารที่ซื้อเข้ามาทานด้วยได้ จะบอกว่าสองวันที่คอนเป็นวันที่ว่ากันว่ากรุงเทพอากาศหนาวเลย อากาศดี อาหารดี และได้ฟังเพลงจากศิลปินดีๆพูดได้คำเดียวว่าฟินมาก
(ขออนุญาตยืมรูปจาก Official มาประกอบด้วยเพราะเรามัวแต่รีบจนไม่ได้ถ่ายเอาไว้🥹)
เมื่อเข้ามานั่งบนอัฒจันทร์แล้วเราก็นั่งฟังเพลงต่อ บรรยากาศดีจริงๆแต่เราก็ภาวนาในใจว่าขอให้ฝนอย่าตกเลยเพราะเสี่ยงมากที่ฝนอาจจะตกและสุดท้ายก็ตามนั้นเลยค่ะเพราะฝนมันตกลงมาจริงแต่สำหรับเรายังถือว่าโชคดีที่ฝนไม่ตกลงมาหนักเป็นฝนปรอยลงมาเฉยๆเราก็ตัดสินใจลุกไปยืนตรงที่มีหลังคาบัง ในส่วนของการแสดงก็ยังคงรันต่อไปไม่มีพัก การแสดงของศิลปินแทบจะแสดงต่อกันไม่มีพักเลยเพราะระบบบนเวทีเป็นแบบเลื่อนได้ทำให้ไม่ต้องมาเสียเวลารอให้วงถัดไปขึ้นมาเพื่อเตรียมตัว เตรียมเครื่องดนตรี เมื่อศิลปินวงนึงขึ้นวงต่อไปก็เตรียมตัวอยู่หลังเวทีต่อเลยเรียกได้ว่าฟังกันยาวๆไม่มีพักเพราะจากที่เราเคยไปบางทีต้องรอให้เขาเตรียมนานหลายนาทีกว่าวงถัดไปจะได้ขึ้นเล่นแต่ที่คอนนี้ก็มีบ้างที่ติดขัดแต่ก็ไม่ได้นานมากเกินไป เวทีการแสดงใหญ่มากเป็นเวทีใหญ่ที่สุดตั้งแต่เราเคยเห็นมาทางเดินของเวทีที่จะเดินมาเวทีรองก็ยาวมากเราเห็นศิลปินวิ่งกันสุดชีวิตเลย555555555555 แสง สี เสียงจัดหนักจัดเต็ม ก่อนเริ่มการแสดงของศิลปินก็จะขึ้นชื่อของศิลปินก่อนแล้วต่อไปจะขึ้นเป็นโลโก้ของศิลปินท่านนั้น ในตอนที่แสดงไม่ว่าจะเป็นไฟ พลุ ควันต่างๆก็ทำออกมาดีมากช่วยส่งให้การแสดงของศิลปินน่าสนใจกว่าเดิมมองลงไปก็จะเห็นว่าพื้นในโซนกราวด์มีการปูเหมือนเป็นพื้นยางด้วย มีลูกบอลโชว์ชื่องาน การจัดพื้นที่ด้านล่างดูดีมาก มีโดรนบินเก็บบรรยากาศตลอดงาน เราคิดว่ารายละเอียดต่างๆในงานผู้จัดทำออกมาได้ดีมากแบบเกินคาดเลย
เรานั่งฟังยิงยาวจนจบงานทั้งสองวันแต่วันที่สองเหมือนเวลาจะบีบทำให้ศิลปินต้องรีบเล่นมากเพราะตอนที่ศิลปินคนสุดท้ายขึ้นก็คือ Urboytj นั้นเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วถ้าตามตารางคืองานจะเริ่มตั้งแต่ 13:00 - 23:40 มีศิลปินขึ้นทำการแสดงวันละประมาณ 30 การแสดงเรียกได้ว่าการแสดงจุกมากเรานั่งดูไปก็รู้สึกประทับใจไปเพราะเราเคยมาที่ราชมังเพื่อดูคอนเสิร์ตของศิลปินประเทศอื่นแต่ในวันนี้ได้กลับมาเพื่อดูศิลปินไทยของเราเองพร้อมกับ production ที่ดีขนาดนี้ ศิลปินทุกคนมีทั้งที่เรารู้จักและไม่รู้จักแต่ทุกคนมาเพื่อปล่อยของ ร้องจัดหนักเต้นจัดเต็มกันหมดเหมือนได้เห็นถึงการกลับมาของ TPOP ที่ยิ่งใหญ่มากและสิ่งสุดท้ายที่ต้องอวยเลยคือผู้จัดงานนี้สามารถจัดงานออกมาได้ดีมากทุกอย่างแบบที่เราบอกไป รับ Feedback ของผู้เข้าร่วมงานตั้งแต่วันแรกแล้วนำไปปรับเลยในวันที่สอง นอกจากจะสนับสนุนศิลปินไทยให้ได้มาขึ้นแสดงที่ราชมังมากมายขนาดนี้ยังมีการเปิดพื้นที่ให้เล่นดนตรีฟรีในงานด้วย การประชาสัมพันธ์งานใน Social ต่างๆก็ดีมากบอกรายละเอียดครบครันทำกราฟฟิกให้ดูเลยว่างานจะออกมาเป็นประมาณไหนก็ทำออกมาได้แบบนั้นเลยจริงๆเรียกได้ว่าสุดยอดมากสำหรับเรา อยากจะขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้จัดงานที่ดีแบบนี้ต่อไปและให้ได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นในทุกปีถ้าปีหน้าเราไปได้ก็ขอพูดตรงนี้เลยว่าจะไปอีกอย่างแน่นอน!!
[CR] [CR] รีวิวเทศกาลดนตรี OCTOPOP2022 เทศกาลที่รวมทุกความ POP
มาเริ่มตั้งแต่เข้างานกันเลยจะบอกว่าเราไปถึงช้าเกือบชั่วโมงเพราะว่าหารถที่จะไปไม่ได้จนต้องยอมขึ้นแท็กซี่ทำให้พอไปถึงก็ไม่ทันไปประมาณ 5 โชว์แล้ว เมื่อถึงงานแล้วก่อนเข้าไปในสนามก็จะเห็นบูธแลกบัตรสามารถเข้าไปสอบถามรายละเอียดที่จุดนี้ได้ เราได้เป็นสายข้อมือเพื่อไว้เข้างานทั้งสองวัน เสร็จแล้วก็รีบเข้างานจะมีจุดตรวจของในกระเป๋าดูสายข้อมือก่อนเข้างานปกติไม่สามารถนำน้ำเปล่าหรืออาหารเข้าไปในงานได้ ตอนตรวจกระเป๋าเสร็จเรากับเพื่อนได้ยินว่าเป็นศิลปินที่เราชอบกำลังแสดงอยู่นั่นก็คือวง Proxie เลยรีบวิ่งเข้างานกันจนหอบพอเห็นทางเข้าก็รีบวิ่งไปเลยจนได้รู้ว่าเป็นเหมือนหลุมหรือเรียกว่าโซนกราวด์ส่วนในเรื่องของที่นั่งภายในคอนทุกคนสามารถเลือกได้เองเลยว่าจะนั่งบนอัฒจันทร์หรือมายืนในหลุมก็ได้เพราะในบัตรไม่มีการระบุที่นั่งเราฟัง Proxie จบก็เดินออกมาหาซื้อของกินเพราะตั้งแต่เช้าเรายังไม่ได้กินอะไรกันมาเลย
ต่อไปเราก็จะมาพูดในส่วนของโซนขายอาหารเครื่องดื่มกันต่อ ถ้าภายในสนามจะมีบูธขายเครื่องดื่มของผู้จัดงานนั่นก็คือ 4nologue น้ำเปล่าขายอยู่ที่ราคาขวดละ 10 บาท น้ำอัดลมใส่แก้วขายอยู่ที่ 35 บาทซึ่งสำหรับเราราคาถือว่าโอเคมากเพราะน้ำอัดลมเขาจะใส่ในแก้วพลาสติกสามารถนำกลับไปใช้ต่อได้ด้วย และก็มีบูธขายป็อปคอร์นของ major ในส่วนของด้านนอกสนามจะมีบูธมาขายอาหารเยอะมากเป็นทางเดินเลยมีทั้งของคาวของหวาน เครื่องดื่มต่างๆ แต่ทุกร้านจะบอกว่าคนต่อแถวเยอะมาก เราพยายามหาร้านที่คิวน้อยที่สุดจนได้กินปลาหมึกย่างกับไส้กรอกทั้งสองวันเลย55555555555 ซื้อเสร็จเราก็มานั่งกินตรงบันไดทางเดินเพราะว่าไม่มีโต๊ะเก้าอี้เหลือให้นั่งเลยแต่ส่วนตัวเราก็เข้าใจว่าคนมางานเยอะมากทำให้จุดนี้อาจจะไม่พอ กินเสร็จเราก็ตัดสินใจเข้าไปนั่งดูการแสดงต่อ เราไปนั่งบนอัฒจันทร์ชั้นสองเพราะอยากนั่งพิงเก้าอี้ บนนี้สามารถนำอาหารที่ซื้อเข้ามาทานด้วยได้ จะบอกว่าสองวันที่คอนเป็นวันที่ว่ากันว่ากรุงเทพอากาศหนาวเลย อากาศดี อาหารดี และได้ฟังเพลงจากศิลปินดีๆพูดได้คำเดียวว่าฟินมาก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้