พี่สาวของเราเรียนมหาลัยในกรุงเทพ อีก 2 ปีก็เรียนจบแล้ว แต่ด้วยความที่พี่สาวเจอคอนโดนี้ในการประมูลทัพย์กรมบังคับคดีซึ่งราคาถูกกว่าท้องตลาด 3 เท่า แต่ท้ายสุดปิดการประมูลในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาดเพียง 40% เท่านั้นนะคะ

แต่ขอเล่าย้อนกลับไปตอนที่เราไปดูคอนโดก่อนวันประมูล เราขึ้นไปดูโดยไม่ได้สอบถามนิติคอนโดเลยว่ามีคนอยู่ไหม เราขึ้นไปกับพี่สาว ยืนอยู่หน้าประตูคอนโดนั้น ประตูล็อก ภายนอกดูเป็นสภาพเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แตกต่างกับหน้าประตูห้องข้าง ๆ และทุกห้องที่เขาจะมีเหล็กดัด
แถมลูกบิดก็เป็นลูกบิดสมัย 20-30 ปี เราก็คิดไปเองว่าเออไม่มีคนอยู่หรอก เก่าขนาดนี้
ไปประมูลอย่างสบายใจกัน

วันถัดมาประมูลได้มาเสร็จ มาที่คอนโดที่นี่อีกครั้งสอบถามนิติคอนโดว่าของขึ้นไปดูคอนโดนี้ได้ไหมคะ ซื้อได้มาแล้ว นิติคอนโดบอกมีคนอยู่นะคะ
เรากับพี่มองหน้ากัน ชิ*หายละ

** ถ้ารู้ว่ามีคนอาศัยอยู่ เราบอกตรง ๆ เราไม่ซื้อมาแน่ ๆ ค่ะ  **

ชายที่อาศัยอยู่อ้างว่าเจ้าของห้องให้มาอยู่ ไม่ได้เช่า เราบอกจะออกได้ตอนไหน เขาบอกของเวลาผม 1 เดือน 20 วัน
ทุกคนว่านานไปไหมคะ เราไม่อะไรเท่าไรกับระยะเวลา แต่สิ่งที่ทำให้กวนใจที่สุดคือนิติเข้าข้างผู้ชายคนนี้มาก แทบจะต่อว่าเรากับพี่สาว ต้องให้เวลาเขาเตรียมตัวสิคะ (ในใจเตรียมตัวอะไรเกือบสองเดือน ในใจลึก ๆ คิดว่าชายคนนี้ไม่ออกง่ายแน่ ๆ )
แต่พอนิติรู้ว่าชายคนนี้ไม่ได้เช่าก็เงียบกริบ เราก็ตกลงปากเปล่าไป ได้ค่ะ แต่พี่ต้องเข้าใจหนูด้วยนะคะ หนูซื้อมาแล้ว

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปจากวันนั้น เราตัดสินใจอยากทำสัญญากับชายคนนี้
สัญญาประมาณว่า 1. ต้องจ่ายค่าน้ำไฟและค่าส่วนกลางทั้งหมดในระยะเวลาที่คุณอาศัย 2.คุณตัองออกจากคอนโดเวลาที่กำหนดที่คุณพอใจ 1 เดือน 20 วัน
และขอถ่ายบัตรประชาชนเขาไว้ เขาก็ทำด้วยความสมัครใจ คุยกันดีค่ะ (ดีกว่าคุยกับนิติสะอีก 55 )

พอถึงกำหนดออก ชายคนนั้นออกตามกำหนดค่ะ สบายใจมาก
ผ่านไปด้วยดี

ขออนุญาตเกรินยาวหน่อยนะคะ อยากให้รู้เรื่องประวัติความเป็นมานิดนึงค่ะ
คอนโดนี้อายุ 27 ปี อยู่ใกล้วัด บางห้องของตึกจะเห็นเมรุด้วยซ้ำค่ะ
ก่อนได้มาคอนโดไม่เคยปรับปรุงซ่อมแซ่มอะไรเลย สภาพเดิม 27 ปีที่แล้วเป็นยังไงเป็นอย่างั้น
เรามารีโนเวททาสี เปลี่ยนลูกบิด ปูกระเบื้องยาง เป็นการปรับปรุงให้พออยู่ได้ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก

วันแรกที่เข้ามาในห้อง สิ่งที่ชายคนที่อยู่ก่อนหน้านี้ทิ้งไว้
มีไม้ถูกพื้นเก่า ๆ และรูปพระสงฆ์ วัดแห่งหนึ่ง ขนาดเล็ก 6 นิ้ว และเครื่องราง
ในตอนนั้นเราบอกตรง ๆ คิดอยู่นิดหน่อย มีอะไรไหมนะ คิดว่าพี่สาวก็คิดเหมือนกัน แต่ต่างคนต่างก็เก็บไว้ในใจ

เราเป็นคนรีโนเวทเองทั้งหมดนะคะ ทำ 5 วันเลย เพราะมีงานหนักคือฉาบปูนที่ก่อไม่เต็มเพราะเราเอาฝ้าออกด้วย
เรานอนคอนโดคนเดียว ระหว่างที่ทำก็ไม่ได้พบอะไรผิดปกติ มีเพียงเสียงอะไรดังเหมือนเด็กร้องหรือไม้ก็เสียงลากเก้าอี้ของห้องข้างเคียง จริง ๆ อาจมีอะไรผิดปกติตั้งแต่วันนั้นก็ได้ แต่เราไม่อยากตั้งใจฟัง เปิดยูทูปดัง ๆ ไม่ฟังไม่รับรู้เพราะกลัว 555

คอนโดนี้พี่สาวเป็นคนอยู่ค่ะ หลังจากอยู่อาศัยมา เข้าเดือนที่ 4 ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
พอเข้าเดือนที่ 5 พี่สาวเลิกกับแฟนค่ะ แฟนมีท่าที่ไม่สนใจเหมือนแต่ก่อน แบบหมดรักกันเลย
ก็เลิกกันไป
หลังจากนั้นพี่สาวบอกมีเรื่องซวยหลายเรื่อง เล็ก ๆ น้อย ๆ

แต่พอเข้าเดือนที่ 8 ที่เป็นเจ้าของและพักอาศัย คือเดือนนี้เองตุลาคมค่ะ
วันที่ 15 ตุลาคม ที่ฉีดล้างก้น ค้าง เปิดน้ำทิ้งไว้ระหว่างพี่สาวออกไปนอนบ้านเพื่อน 2 วัน ทำให้น้ำท่วมห้อง
ท่วมทั้งห้อง แต่ไม่ล้นไปหน้าประตูนะคะ โชคดีที่คอนโดทำพื้นต่างระดับ
ความเสียหาย คอมตั้งโต๊ะพัง พัดลมสองตัวพัง ที่นอนพัง

วันที่ 20 ตุลาคม เราเดินทางมาจากตจวเพื่อจะมาสอบ เราเรียนรามค่ะ อาศัยมาสอบแค่นั้น
เราเดินทางมาเองคนเดียว วันนั้นพี่ออกไปเรียนที่มหาลัยด้วย
ถึงคอนโดเป็นเวลา 10 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัว เพื่อเตรียมตัวไปสอบ 14:00
ก็ไม่มีอะไรผิดปกตินะคะ
แต่..พอเราเปิดประตูเตรียมออกจากห้องและปิดประตูเพื่อล็อก เราได้ยินเสียงผู้ชาย พูดอะไรไม่รู้  ฟังไม่ได้ศัพท์ แต่รู้ว่าเป็นเสียงผู้ชายค่ะ ดังมาจากในห้อง.. ของเรา

ห้องมีขนาด 27 ตรมเท่านั้นนะคะ เล็กมาก ๆ ด้วยความรีบและรู้สึกว่าหูแว่วไปเองมั้ง ก็เดินทางไปมหาลัยตามปกติค่ะ เป็นคนชิลมาก 555

พอช่วงเย็น เรากลับมาเจอพี่สาว ถึงคอนโดแล้ว
ก็พูดคุยกันปกติค่ะ ตามภาษาสาว ๆ 555 จนกระทั่งพี่สาวพูดขึ้น วันเสาร์ไปวัดกับพี่ไหม (วันเสาร์ก็คือวันที่พิมพ์กระทู้นี้นะคะ 22.10.22)
ไปวัดล้างซวยกัน เราก็ถามเจออะไรมา ซวยอะไร ก็โทรศัพท์พัง เลิกกับแฟน น้ำท่วมห้อง ไม่เรียกซวยหรอ
เราก็บอกพี่คิดมาก มันคือเรื่องที่ผิดหวัง ผิดพลาดที่ต้องเจออยู่แล้ว ไม่ได้ซวยหรอก
ไม่อยากเมาท์พี่เลยนะคะ แต่พี่เป็นคนซุ่มซ่าม ขี้หลงขี้ลืมด้วย ;_;

พี่ก็บอกตั้งแต่มาอยู่ห้องก็มีแต่เรื่อง ด้วยความเราเป็นคนพูดตรง คิดอะไรเจออะไรก็พูดเลย เออหนูก็ได้ยินเสียงพูดผู้ชายดังในห้อง พี่ก็บอกเนี่ย ก็เนี่ยไง แล้วกำลังจะเล่าอะไรบางอย่าง …

เราก็ตัดความ เพราะกลัวค่ะ มันดึกมากละ เดี๋ยวนอนไม่หลับกันพอดี เพราะนอนในที่เกิดเหตุ 55555
เออ ๆ ค่อยเล่าพรุ่งนี้ละกัน นอน ๆ ค่าสาว

พอเช้ามาก็คุยเรื่องนี้กันต่อ พี่เราเป็นสาวมั่นนิดนึงนะคะ 555 คุยกับชายหลายคนจัด พี่บอกคุยกับผู้ชายคนนี้เป็นอายุเท่ากันผ่านการวีดีโอคอล
‘ อยู่กับใครป่ะเนี่ย ‘ ปลายสายพูดแซว
‘ ไม่นะ อยู่คนเดียว’ พี่สาวตอบ
‘ หรอออ ๆ ‘ ปลายสายตอบ สีหน้าแบบไม่เชื่อ แต่ก็ไม่อะไร

พอมาคุยกับชายคนที่สอง
‘ อยู่กับใครอะ ’
‘ อยู่คนเดียว ‘ พี่สาวตอบ
แต่คนนี้ทำท่าทีไม่อะไร แต่ทำให้พี่สาวเราเอะขึ้นละ มีคนถามแบบนี้สองคน


สุดท้ายมาคุยกับชายคนที่สาม เป็นรุ่นน้อง นิสัยค่อนข้างเด็ก
‘ อยู่กับใครหรอ’
‘ อยู่คนเดียว เออมีคนมาถามแบบนี้สองคนแล้วอะ ‘ พี่สาวถามต่อ
‘ได้ยินไงหรอ’ พี่สาวถาม
‘ เสียงผู้ชายพูดอะไรไม่รู้ ‘ ชายคนที่สามตอบ
‘ หรอ’
‘ ผมได้ยินจริง ๆ..  ‘


เป็นเสียงในลักษณะเดียวกับที่เราได้ยินเลยค่ะ

เสียงผู้ชาย พูดอะไรไม่ได้ศัพท์ เป็นเสียงคุยปกติ แต่เป็นเสียงของคนเดียวนะคะ
ไม่ได้เหมือนเสียงคุยสองคน หรือหลายคน
เสียงผู้ชายไม่แก่ไม่เด็ก น่าจะ 30-40

ทุกคนคิดยังไงกับเรื่องนี้ค่ะ  ปกติเราเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติค่ะ เพราะก็เคยผ่านการเจอเหตุการณ์แบบนี้
แต่ใจลึก ๆ ก็ไม่อยากคิดมากอะไร คิดว่าตัวเองคิดไปเองมั้ง สำหรับกรณีนี้ เสียงที่ได้ยินอาจเป็นเสียงคนข้างห้องก็ได้มั้ง แบบเราไม่ได้ตั้งใจฟังขนาดนั้น และอยู่ในช่วงเวลาเร่งด่วนด้วยไม่ใส่ใจฟังอะไร

กับชายสามคนของพี่สาวก็อาจได้ยินคนข้างห้องเหมือนกันก็ได้ แต่พี่สาวเราไม่ได่ยินนะคะ
พี่สาวเราเป็นคนนิสัยไม่ใส่ใจหรือสังเกตอะไรอยู่แล้วด้วยค่ะ เป็นคนหูตาช้า อะไรแบบนั้นด้วย

เราไม่อยากคิดมากแต่อดคิดไม่ได้คือตีกันไปหมด

  ตอนนี้เรายังไม่ได้ไปวัดนะคะ พอดีวันนี้ที่นัดกันจะไป พี่ปวดท้องหนักพอดี แต่พรุ่งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาดจะไปค่ะ
ประจบเหมาะกับจะกลับบ้านตจวกันด้วย พี่สาวปิดเทอม ยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังเลย ไม่รู้แม่จะคิดยังไง 555

ไม่รู้จะจัดการอะไรกับเรื่องนี้ดีค่ะ เราควรทำบุญ หรือ อะไรมากว่านี้ดี



จุดประสงค์ที่มาตั้งกระทู้นี้
1. เราอยากสอบถามว่าการเจออะไรแบบนี้เป็นเรื่องราวที่เลวร้ายสำหรับใครไหมคะ
ถ้าคุณเจอคุณทำยังไง

2. สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ เราควรจัดการยังไงดีค่ะ
เขาต้องการส่วนบุญ การมาในลักษณะนี้เขาต้องการอะไรหรอคะ

ถ้าเป็นสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติที่อยู่ด้วยจริง ๆ เราบอกตรง ๆ ก็อยู่ได้ เพราะเรามีความเชื่อส่วนตัวว่าทุกสถานที่มีสิ่งแบบนี้อยู่แล้ว
แต่เราไม่อยากได้ยินเสียงแบบนี้อีกครั้ง และไม่อยากให้ใครได้ยินอีก
ส่วนเรื่องความซวยของพี่สาว เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ