สวัสดีค่ะ
เรามีคำถาม และ ก็อยากระบายไปด้วยค่ะ
คือ จู่ๆเราต้องมารับภาระหนี้สินจากพ่อแม่ของเราค่ะ แบบไม่ทันตั้งตัว ปฏิเสธไม่ได้ (แต่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธ) เท่าที่เรารู้มาจากแม่หนี้สินเหล่านี้พอกพูนมาจากการเริ่มทำธุรกิจของพ่อเราค่ะ แต่เราไม่ได้ทราบรายละเอียดอะไรมานัก อย่างที่ว่าแหละะค่ะยิ่งรู้มากยิ่งปวดหัวมาก เอาเป็นว่ารู้เท่านี้ไปก่อนดีกว่าเพราะก็เกินจะรับไหวแล้ว หนี้ที่เราทราบอยู่ตอนนี้มากจาก (1)การต้องผ่อนบ้านที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อตั้งแต่แรก (เรื่องนี้เรารับรู้มาโดยตลอดค่ะแต่ช่วยแบ่งเบาเรื่องเินไม่ได้เพราะตอนนั้นยังเรียนอยู่และแม่ไม่ค่อยจะเล่าให้เราฟังถึงปัญหาเรื่องเงิน) จะขายก็ขายไม่ได้ค่ะเพราะมีปัญหาอะไรหลายๆอย่าง รวมหนี้สินเรื่องบ้านอย่างเดียวก็อยู่ที่ 2,000,000 ค่ะ ซึ่งแม่เราเป็นคนต้องรับภาระหนี้สินเรื่องนี้คนเดียวมาโดยตลอด ซึ่งบางเดือนก็มีจ่ายบ้าง บางเดือนก็เลทจ่าย จนดอกเบี้ยเยอะมากๆ ตอนนี้ที่จ่ายอยู่แต่ละเดือนก็เหมือนแค่ดอกเบี้ยเท่านั้นค่ะ ตกอยู่ที่เดินละ 16,000+ ค่ะ
เราเรียนจบมาได้เกือบจะสามปีแล้วค่ะ ตอนนี้ทำงานบริษัทเอกชนเงินเดือนพอใช้ได้ค่ะ มีแบ่งให้แม่บ้างบางเดือนที่แม่หมุนไม่ทัน มีช่วงนึงที่เราเริ่มจะมีเงินเก็บสำหรับเราในตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันเยอะมากเท่าที่เราจะหาได้ ดีใจมากค่ะเป็นเงินนิ่งอยู่เกือบปีเลย แต่ช่วงนั้นโควิดมันระบาดแรงมากค่ะ เลยทำให้ที่บ้านมีปัญหาเรื่องเเงินสุดๆ เงินที่เราเก็บมาก็ให้ที่บ้านหมด ที่เคยตั้งใจว่าจะแบ่งเก็บไว้ตอนนี้ไม่เหลือเลยค่ะ แน่นอค่ะว่ามันคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำอยู่แล้วเรื่องที่ต้องช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน แต่เราไม่คิดว่ามันจะถาโถมเรามาแรงขนาดนี้ในตอนนี้ ตอนนี้เรารู้สึกว่าเงินที่ทั้งเรา ทั้งแม่ ทั่งพี่ของเราอีกคนหามาได้มันหายไปหมดเลยค่ะ มันแค่พอให้เราใช้ชีวิตต่อไปวันๆแค่นั้นเองค่ะ ตอนแรกเราจะไม่เศร้านะคะ แต่พอทุกอย่างมันมาเรื่อยๆไม่หยุดไม่หย่อนตอนนี้เราเลยรู้สึกอ่อนแอมากๆ (2)ที่บ้านเราดปิดร้านขายของชำค่ะ วันนึงก็ได้ไม่เยอะค่ะ แม่เราจะเล่นแชร์เพื่อนเอาเงินมาแบ่งจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนค่ะ อาทิตย์นึงเฉพาะค่าแชร์แม่ก็ต้องจ่ายไปราวๆ 2000 ตกเดือนนึงก็เกือบหมื่นค่ะ (3)หนี้จากการผ่อนรถของแม่ค่ะ เพราะเวลาที่หมุนเงินไม่ทันแม่จะเอารถไปเข้าธนาคารค่ะ เพื่อเอาเงินมาหมุนให้ทัน (4)หนี้ที่ไปหยิบยืมมาจากญาติๆค่ะ อันนี้เราไม่รู้ว่าเท่าไหร่นะคะ แต่แม่เราพยายามจ่ายให้ตลอดและไม่ให้ติดค้างนานๆค่ะ (5)หนี้จากการเอาที่ดินบ้านไปจำนองค่ะอันนี้เราไม่ทราบรายละเอียดเลยเพราะพ่อเราเป็นคนสร้างหนี้นี้ขึ้นมานานมากๆแล้ว และแม่ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่พ่อซึ่งเราไม่รู้เลยค่ะว่าพ่อเราผ่อนจ่ายทุกเดือนไหม พ่อเราเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดค่ะ มีปัญหาอะไรหรือไปทำอะไรมาจะเก็บไว้คนเดียวค่ะ เอาเป็นว่าทุกคนในบ้านเราจะเก็บปัญหาไว้กันหมดเลยค่ะ จนกว่ามันจะไม่ไหวถึงจะพูดมันออกมา แล้วสุดท้ายแม่เราก็ไม่ไหวจริงๆค่ะ
อันนี้คือปัญหาคร่าวๆที่เราพอจะเล่าให้ฟังได้นะคะ ยังมีพวกหนี้สินยิบย่อยอีกที่เรายังไม่ทราบรายละเอียกจากฝั่งของพ่อค่ะ
คำถามคือมีคนที่เคยประสบปัญนี้บ้างค่ะ
มีวิธีจัดการยังไง ทั้งในส่วนของความรู้สึกของตัวเอง ของคนในครอบครัว และเรื่องเงินคะ
ตอนนี้เราเคว้งมากเลยค่ะ เรายังมีอีกหลายอย่างที่อยากทำค่ะ แต่ปัญหามันก็ติดที่เรื่องเงินนี่แหละค่ะที่ดึงเราไว้ตลอดเลย ตอนนี้เรามีเงินเก็บที่ที่เจียดไว้อยู่ค่ะคิดไว้ว่าจะเอาไปต่อยอดอะไรสักอย่าง ปรกติเราทำงาน 08.30-19.00 ค่ะ วันหยุดสองวัน
สภาพจิตใจเราตอนนี้เหมือนจะโอเคค่ะแต่บางวันก็ไม่ไหวจริงๆค่ะ มันไม่ใช่เรื่องหนี้จากที่บ้านอย่างเดียวแต่มันมาจากหลายๆอย่างที่เรากำลังเจออยู่ค่ะ แต่เราพยายามเข้มแข็งมากๆเลยนะคะ เราพยายามมากๆจริงๆค่ะ เราร้องไห้บ่อยมากๆ จนบางทีเราคิดค่ะว่านอกจากร้องไห้แล้วเรายังทำอะไรได้อีกบ้าง มันต้อง
มีทางออกที่ดีกว่านี้สิ มันมีแน่ๆเราแค่ต้องหามันให้เจอ มันไม่ใช่เราคนเดียวที่เครียด แม่เรา พี่เรา เค้าก็เครียดมากๆเหมือนกัน พวกเราไม่เคยร้องไห้ไห้เห็นกันเลยค่ะ แต่เราก็รับรู้ได้ตลอกว่าทุกคนไม่สบายใจ เครียดอยู่ตลอด ก็ได้แต่ปลอบใจกันค่ะ เราทำงานอยู่ต่างจังหวัดค่ะ พี่เราก็อยู่อีกจังหวัด พ่อกับแม่ก็อยู่อีกจังหวัด(พ่อกับแม่เราอยู่ด้วยกัน)
อาจจะระบายมากกว่าตั้งคำถามนะคะ เราไม่รู้จะไปพูดกับใครเลยค่ะ เราเก็บมันเอาไว้ข้างในลึกๆ ไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟังเพราะไม่อยากรบกวนเค้าค่ะ ทุกคนต่างก็มีเรื่องเครียดกันทั้งนั้น เรื่องนี้เราเข้าใจดี แต่บางครั้งมันทนไม่ไหวมากๆ อยากพูด อยากร้องไห้อยากมีใครสักคนคอยรับฟัง ปลอบใจ หาทางออกให้เราบ้างค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยนะคะคนที่หลงเข้ามาเจอกระทู้นี้แล้วอ่านมันจนจบ ขอบคุณคนที่เข้าใจเรานะคะ เราเชื่อค่ะว่ามันมีทางออกและเรากับครอบครัวจะผ่านมันไปได้ค่ะ
ภาระหนี้สินจากคนในครอบครัว
เรามีคำถาม และ ก็อยากระบายไปด้วยค่ะ
คือ จู่ๆเราต้องมารับภาระหนี้สินจากพ่อแม่ของเราค่ะ แบบไม่ทันตั้งตัว ปฏิเสธไม่ได้ (แต่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธ) เท่าที่เรารู้มาจากแม่หนี้สินเหล่านี้พอกพูนมาจากการเริ่มทำธุรกิจของพ่อเราค่ะ แต่เราไม่ได้ทราบรายละเอียดอะไรมานัก อย่างที่ว่าแหละะค่ะยิ่งรู้มากยิ่งปวดหัวมาก เอาเป็นว่ารู้เท่านี้ไปก่อนดีกว่าเพราะก็เกินจะรับไหวแล้ว หนี้ที่เราทราบอยู่ตอนนี้มากจาก (1)การต้องผ่อนบ้านที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อตั้งแต่แรก (เรื่องนี้เรารับรู้มาโดยตลอดค่ะแต่ช่วยแบ่งเบาเรื่องเินไม่ได้เพราะตอนนั้นยังเรียนอยู่และแม่ไม่ค่อยจะเล่าให้เราฟังถึงปัญหาเรื่องเงิน) จะขายก็ขายไม่ได้ค่ะเพราะมีปัญหาอะไรหลายๆอย่าง รวมหนี้สินเรื่องบ้านอย่างเดียวก็อยู่ที่ 2,000,000 ค่ะ ซึ่งแม่เราเป็นคนต้องรับภาระหนี้สินเรื่องนี้คนเดียวมาโดยตลอด ซึ่งบางเดือนก็มีจ่ายบ้าง บางเดือนก็เลทจ่าย จนดอกเบี้ยเยอะมากๆ ตอนนี้ที่จ่ายอยู่แต่ละเดือนก็เหมือนแค่ดอกเบี้ยเท่านั้นค่ะ ตกอยู่ที่เดินละ 16,000+ ค่ะ
เราเรียนจบมาได้เกือบจะสามปีแล้วค่ะ ตอนนี้ทำงานบริษัทเอกชนเงินเดือนพอใช้ได้ค่ะ มีแบ่งให้แม่บ้างบางเดือนที่แม่หมุนไม่ทัน มีช่วงนึงที่เราเริ่มจะมีเงินเก็บสำหรับเราในตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันเยอะมากเท่าที่เราจะหาได้ ดีใจมากค่ะเป็นเงินนิ่งอยู่เกือบปีเลย แต่ช่วงนั้นโควิดมันระบาดแรงมากค่ะ เลยทำให้ที่บ้านมีปัญหาเรื่องเเงินสุดๆ เงินที่เราเก็บมาก็ให้ที่บ้านหมด ที่เคยตั้งใจว่าจะแบ่งเก็บไว้ตอนนี้ไม่เหลือเลยค่ะ แน่นอค่ะว่ามันคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำอยู่แล้วเรื่องที่ต้องช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน แต่เราไม่คิดว่ามันจะถาโถมเรามาแรงขนาดนี้ในตอนนี้ ตอนนี้เรารู้สึกว่าเงินที่ทั้งเรา ทั้งแม่ ทั่งพี่ของเราอีกคนหามาได้มันหายไปหมดเลยค่ะ มันแค่พอให้เราใช้ชีวิตต่อไปวันๆแค่นั้นเองค่ะ ตอนแรกเราจะไม่เศร้านะคะ แต่พอทุกอย่างมันมาเรื่อยๆไม่หยุดไม่หย่อนตอนนี้เราเลยรู้สึกอ่อนแอมากๆ (2)ที่บ้านเราดปิดร้านขายของชำค่ะ วันนึงก็ได้ไม่เยอะค่ะ แม่เราจะเล่นแชร์เพื่อนเอาเงินมาแบ่งจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนค่ะ อาทิตย์นึงเฉพาะค่าแชร์แม่ก็ต้องจ่ายไปราวๆ 2000 ตกเดือนนึงก็เกือบหมื่นค่ะ (3)หนี้จากการผ่อนรถของแม่ค่ะ เพราะเวลาที่หมุนเงินไม่ทันแม่จะเอารถไปเข้าธนาคารค่ะ เพื่อเอาเงินมาหมุนให้ทัน (4)หนี้ที่ไปหยิบยืมมาจากญาติๆค่ะ อันนี้เราไม่รู้ว่าเท่าไหร่นะคะ แต่แม่เราพยายามจ่ายให้ตลอดและไม่ให้ติดค้างนานๆค่ะ (5)หนี้จากการเอาที่ดินบ้านไปจำนองค่ะอันนี้เราไม่ทราบรายละเอียดเลยเพราะพ่อเราเป็นคนสร้างหนี้นี้ขึ้นมานานมากๆแล้ว และแม่ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่พ่อซึ่งเราไม่รู้เลยค่ะว่าพ่อเราผ่อนจ่ายทุกเดือนไหม พ่อเราเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดค่ะ มีปัญหาอะไรหรือไปทำอะไรมาจะเก็บไว้คนเดียวค่ะ เอาเป็นว่าทุกคนในบ้านเราจะเก็บปัญหาไว้กันหมดเลยค่ะ จนกว่ามันจะไม่ไหวถึงจะพูดมันออกมา แล้วสุดท้ายแม่เราก็ไม่ไหวจริงๆค่ะ
อันนี้คือปัญหาคร่าวๆที่เราพอจะเล่าให้ฟังได้นะคะ ยังมีพวกหนี้สินยิบย่อยอีกที่เรายังไม่ทราบรายละเอียกจากฝั่งของพ่อค่ะ
คำถามคือมีคนที่เคยประสบปัญนี้บ้างค่ะ
มีวิธีจัดการยังไง ทั้งในส่วนของความรู้สึกของตัวเอง ของคนในครอบครัว และเรื่องเงินคะ
ตอนนี้เราเคว้งมากเลยค่ะ เรายังมีอีกหลายอย่างที่อยากทำค่ะ แต่ปัญหามันก็ติดที่เรื่องเงินนี่แหละค่ะที่ดึงเราไว้ตลอดเลย ตอนนี้เรามีเงินเก็บที่ที่เจียดไว้อยู่ค่ะคิดไว้ว่าจะเอาไปต่อยอดอะไรสักอย่าง ปรกติเราทำงาน 08.30-19.00 ค่ะ วันหยุดสองวัน
สภาพจิตใจเราตอนนี้เหมือนจะโอเคค่ะแต่บางวันก็ไม่ไหวจริงๆค่ะ มันไม่ใช่เรื่องหนี้จากที่บ้านอย่างเดียวแต่มันมาจากหลายๆอย่างที่เรากำลังเจออยู่ค่ะ แต่เราพยายามเข้มแข็งมากๆเลยนะคะ เราพยายามมากๆจริงๆค่ะ เราร้องไห้บ่อยมากๆ จนบางทีเราคิดค่ะว่านอกจากร้องไห้แล้วเรายังทำอะไรได้อีกบ้าง มันต้อง
มีทางออกที่ดีกว่านี้สิ มันมีแน่ๆเราแค่ต้องหามันให้เจอ มันไม่ใช่เราคนเดียวที่เครียด แม่เรา พี่เรา เค้าก็เครียดมากๆเหมือนกัน พวกเราไม่เคยร้องไห้ไห้เห็นกันเลยค่ะ แต่เราก็รับรู้ได้ตลอกว่าทุกคนไม่สบายใจ เครียดอยู่ตลอด ก็ได้แต่ปลอบใจกันค่ะ เราทำงานอยู่ต่างจังหวัดค่ะ พี่เราก็อยู่อีกจังหวัด พ่อกับแม่ก็อยู่อีกจังหวัด(พ่อกับแม่เราอยู่ด้วยกัน)
อาจจะระบายมากกว่าตั้งคำถามนะคะ เราไม่รู้จะไปพูดกับใครเลยค่ะ เราเก็บมันเอาไว้ข้างในลึกๆ ไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟังเพราะไม่อยากรบกวนเค้าค่ะ ทุกคนต่างก็มีเรื่องเครียดกันทั้งนั้น เรื่องนี้เราเข้าใจดี แต่บางครั้งมันทนไม่ไหวมากๆ อยากพูด อยากร้องไห้อยากมีใครสักคนคอยรับฟัง ปลอบใจ หาทางออกให้เราบ้างค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยนะคะคนที่หลงเข้ามาเจอกระทู้นี้แล้วอ่านมันจนจบ ขอบคุณคนที่เข้าใจเรานะคะ เราเชื่อค่ะว่ามันมีทางออกและเรากับครอบครัวจะผ่านมันไปได้ค่ะ