รีวิวการ "ทำหมัน" ณ โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง

สวัสดีค่ะ
กลับมาเล่าประสบการณ์ “ทำหมัน” ตามที่เคยสัญญาไว้แล้วนะคะ
ขอโทษด้วยที่ปล่อยให้รอนานเกือบหนึ่งปี
พอดีว่าขั้นตอนยุ่งเหยิงกว่าที่คิดค่ะ

ตอนแรกนัดไปคุยรายละเอียดคร่าวๆ ตั้งแต่เดือนเมษายน
โดยการทำหมันหญิง คือการตัดท่อนำไข่แล้วใช้ไหมละลายผูกไว้
พอไหมละลายหมดแล้ว ปลายท่อก็จะปิดสนิท
ทำให้ไข่ไม่สามารถเคลื่อนออกจากรังไข่เข้ามาสู่มดลูกได้นั่นเองค่ะ
ทั้งนี้ไม่มีผลกับฮอร์โมนนะคะ เพราะรังไข่ยังผลิตฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายได้อยู่
และยังคงมีประจำเดือนต่อไปค่ะ


(ขออนุญาตแทรกภาพประกอบจาก https://www.parentsone.com ค่ะ) 
  
ทีนี้ ตอนแรกคิดว่าจะได้ผ่าตัดตั้งแต่เดือนมิถุนายน
แต่ไม่รู้ว่าหมอในแผนกประสานงานกันผิดพลาดหรือยังไง
จู่ๆ ก็ลงประวัติเราไว้ว่ามาขอ “แปลงเพศ” ซะงั้น
ทีนี้ขั้นตอนก็เลยวุ่นวาย เพราะต้องส่งไปให้จิตแพทย์ประเมินก่อนทำการผ่าตัด
ตารางก็เลยปนกันเละเทะไปหมด เพราะเพิ่มตารางพบจิตแพทย์ไปด้วย
พอประเมินสภาพจิตใจเสร็จ (แถมเจออาจารย์แพทย์ทัศนคติแย่ๆ ไปด้วย) 
ก็ได้กลับมายืนยันกับแผนกสูติฯ อีกครั้ง ว่าตกลงทำหมันแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ
ทั้งหมดนี้รวมเป็นเวลาประมาณ 3 เดือนกว่าๆ (นานกว่าที่ตั้งใจแหละ)

ในที่สุด เราก็ได้คิวผ่าตัดทำหมันเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมาก ตรวจเลือดก่อนผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์
จากนั้นก็ไปแอดมิทเข้าโรงพยาบาล 1 วันก่อนผ่าตัด
วันนั้นทั้งวันห้ามกินอะไรทั้งนั้น จิบได้แต่น้ำเปล่าหรือน้ำหวาน
หลังเที่ยงคืนก็งดดื่มน้ำโดยเด็ดขาด (ปกติของการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด)
เช้ามาก็อาบน้ำ และต้องโกนขนบริเวณรอบจุดซ่อนเร้นด้วย
(เราใช้วิธีไปเลเซอร์บราซิลเลียนมาก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เลยไม่ต้องโกนเพิ่ม)
จากนั้น ก็เข็นเตียงเข้าห้องผ่าตัด
ใส่น้ำเกลือ แล้วก็ใส่ยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
ไม่ถึงสิบวินาทีภาพทุกอย่างก็หายไป
.
.
.

เราฟื้นขึ้นมาอีกครั้งที่ห้องพัก
ยังคงมึนๆ อยู่ แต่ไม่ได้รู้สึกปวดมากเท่าไหร่
จะรู้สึกตึงๆ คล้ายๆ ปวดท้องเมนส์ 
ส่วนด้านหน้าก็มีผ้าก๊อชขนาดราวๆ สองนิ้วแปะอยู่
พยาบาลบอกว่า อย่าให้โดนน้ำเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ 
ถ้าเปิดมาดูแล้วแผลปกติ ไม่มีเลือดซึม ไม่มีรอยฉีกขาดก็อาบน้ำได้ตามปกติ
จากนั้นก็ได้พักฟื้นอีกวันนึงก็กลับบ้านได้
พร้อมกับยาฆ่าเชื้อที่ต้องกินจนหมดภายใน 1 สัปดาห์ 

ส่วนราคาค่าทำหมันนั้น



รวมทั้งหมดแล้วแค่ 581 (ห้าร้อยแปดสิบเอ็ด) บาท เท่านั้น! 
ถือว่าราคาถูกกว่าที่คิดมากๆ ตอนแรกเราประเมินว่าน่าจะหลักพันต้นๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราใช้สิทธิ 30 บาทด้วย
ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้สิทธินี้ อาจจะได้ราคาสูงกว่านี้เล็กน้อย อาจจะหลักพันต้นๆ อย่างที่คิดจริงๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากแกะผ้าก็อชออกแล้วก็ปกติดี
สามารถไปออกกำลังกายได้ แต่ต้องระวังหน่อย
ยังยกของหนักๆ ไม่ได้
ใช้กล้ามเนื้อบริเวณรอบๆ เชิงกรานไม่ได้
อาการจะปวดๆ ตึงๆ คล้ายเวลาเป็นตะคริว
แต่หลังจากผ่านไปประมาณเดือนนึงก็เรียบร้อยดี 
ตอนนี้ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้วก็ปกติดี
ไม่เจ็บแผลอีกต่อไปแล้ว

เป็นยังไงบ้าง ไม่น่ากลัวเลยใช่ไหมคะ
ขอขอบคุณที่รับฟังประสบการณ์ของเรานะคะ
ถ้ามีข้อสงสัยหรือมีความคิดเห็นอย่างไร
ก็คอมเมนต์หรือส่งข้อความมาได้เลยนะคะ
(อาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่เราจะทยอยตอบค่ะ)

หวังว่าประสบการณ์ของเราจะมีประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ
สำหรับวันนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้นะคะ สวัสดีค่ะ
wink
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่