สวัสดีค่ะ ตอนนี้เรามีปัญหากับแม่แฟน เป็นปัญหาที่หนักสำหรับเราแบบที่ไม่สามารถหาทางออกได้ หรือจัดการความรู้สึกตัวเองได้ค่ะ
**เราเช่าอาคารพานิชย์เปิดธุรกิจกับแฟน และพักอยู่ที่นี้ แม่แฟนเลยย้ายมาอยู่ด้วย
เรื่องก็คือแฟนทักข้อความมาหาเราว่าทะเลาะอะไรกับแม่ เขาเหนื่อยนะ เราที่ขณะนั้นเพิ่งทำธุระเสร็จก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นเราไปทำอะไรให้อีก พอแฟนกลับมาจากที่ทำงานจึงเอาแชทที่แม่แฟนว่ามาให้เราอ่าน ซึ่งเราอ่านแล้วรู้สึกแย่และรู้สึกโกรธมากๆค่ะ
เขาบอกว่าตอนที่เราเข้าไปทำธุระที่ร้านเราทำเสียงโครมคราม ชักสีหน้าไม่พอใจเขา เรียกพี่สาวที่มากับเราซึ่งจอดรถจักรยานยนตร์รอเราหน้าบ้านว่า อี…เบะปากใส่เขาทำหน้าตาดูถูกเขา (แต่พี่สาวเราใส่แมสอยู่ค่ะ)
เขาว่าเราเป็นลูกเทวดา เขาตามใจเราทุกอย่าง
บอกว่าสงสารแฟนเรานะ เสื้อแฟนไปทำงานแม่ก็ต้องเป็นคนซักให้ ประมาณว่าเราไม่ช่วยแฟนค่ะ
บอกว่าเรามันไม่น่าสงสาร อยู่กับแฟนเป็นอีกแบบอยู่กับแม่แฟนเป็นอีกแบบ ตอนที่แฟนไม่อยู่เขาบอกว่าเราทำสายตาดูถูกเขามาก พร้อมกับข้อความที่เรารู้สึกว่ามทวงบุญคุณค่ะ อย่างเช่นค่าบ้านก็’ช่วย’ออก อะไรนิดหน่อยก็ช่วยตลอด
เราอ่านจบแล้วใจเต้นแรงเลยค่ะ บอกตรงๆว่าโกรธมากๆ เพราะที่เขาพิมพ์มาคือเรื่องที่เขาปรุงแต่งมันขึ้นมาเอง และทัศนคติเขาลบมากๆ
วันนั้นที่จริงแล้วเราปิดร้านแล้วไปอยู่บ้านพี่ค่ะ เนื่องจากวัตถุดิบหมด เราบอกแฟนว่าถ้าของมาส่งให้แม่เขาบอกด้วยเราจะเขาไปเก็บหรือให้แม่เก็บให้ พอของมาแฟนทักบอก เราก็เข้าร้านไปเก็บเอง ตอนกำลังเก็บของใส่ตู้อยู่ แม่แฟนก็ลงมาเก็บของแล้วออกไปทำธุระของเขา ซึ่งเรายังไม่ได้สบตากับแม่แฟน ไม่ได้มองหน้าแม่แฟนหรือพูดกับเขาสักคำค่ะเสร็จแล้วเราก็ออกไปข้างนอกต่อแล้วได้รับข้อความจากแฟน
ตอนเย็นแฟนบอกแม่เขาว่าวันนี้แม่ไม่ต้องช่วยปิดร้านทีนี้ก็เป็นเรื่องเลยค่ะ เขารู้สึกน้อยใจพูดความในใจออกมาหมดบอกว่าเราเกลียดเขา เราไม่ชอบเขา เราไม่เห็นหัวเขา อยากให้เขาไปอยู่ที่อื่นก็บอก แฟนเก่าเขาบอกว่าเขาน่ะจะต้องเป็นขี้ข้าลูกแน่ ซึ่งเขาเห็นด้วยว่าจริง ที่เขาคุยกันเราได้ยินหมดเลย เรายืนฟังอยู่หลังบ้าน ใจเราเต้นเร็วมาก น้ำตาไหลเพราะเราโกรธมากๆ เราเดินเขาไปคุยกับเขา
1.เรื่องที่เขาว่าเราทำโครมคราม เขาบอกว่าคิดว่าเราโกรธเขาที่ตามให้เราเขาไปเก็บแป้ง (เราไม่รู้ว่าเขาตามให้เราเข้าไปเก็บแป้งเลยค่ะ แฟนไม่บอก แต่ถึงเขาตามเราก็ไม่คิดจะโกรธอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะโกรธเขาอะค่ะ) เขาบอกว่าพอเขาออกไปใส่รองเท้ามองกระจกเห็นพี่เราเบะปากใส่เขา (แต่นั้นแหละค่ะ พี่เราใส่แมสอะ จะมาเบะปากอะไรก่อน) เขาบอกว่าเขาไปถอนฟันมา เขาหงุดหงิด เขาอาจจะคิดไปเอง เราเลยบอกเขาไปว่าแม่จะมาคิดแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ได้มีปัญหากัน พี่เราไม่เคยมีปัญหากับเขาด้วยซ้ำ แม่จะมาคิดแบบนี้กับคนอื่นไม่ได้ บ้านเราไม่เคยดูถูกใจ ทำไมอยู่ดีๆแม่ถึงคิดกับพี่เราแบบนี้
2.เรื่องซักผ้าให้แฟน (ต้องบอกก่อนว่าเรากับแฟนไม่มีปัญหาเรื่องทำงานบ้านค่ะ แฟนซักผ้า เราตาก เราล้างจาน แฟนถูบ้าน คือเราโอเคกับการที่พวกเราเป็นแบบนี้มากๆค่ะ) เราบอกว่าเรากับแฟนต่างทำงานกันทั้งคู่ ความจริงแล้วเสื้อผ้าแฟนใส่แฟนก็ต้องซักเอง ถ้าแฟนไม่มีใส่ก็เป็นเรื่องของแฟน แต่การที่แม่อยากจะช่วยลูกตัวเองมันก็ไม่ผิด แต่จะคิดกับเราแบบนี้ไม่ได้ ถ้าแฟนขอให้เราช่วยเราก็จะช่วยค่ะ แต่แฟนเขาไปตกลงกับแม่เขา แล้วเราก็คิดว่าถ้าแม่อยากจะช่วยลูกก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร (เราเคยคิดว่าครอบครัวต้องช่วยซัพพอร์ตกันเป็นเรื่องปกติ แต่พอมาเจอเขาก็เข้าใจเลยว่าเขาทำทุกอย่างให้เป็นบุญคุณหมดเลยค่ะ )
และมีอีกหลายอย่างที่เราอธิบายให้เขาฟังพร้อมบอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครมาพูดถึงเราด้วยถ้อยคำไอ้อี หรือพูดถึงเราแย่ๆแบบนี้มาก่อน เราเสียใจและเราโกรธมากๆ เขาบอกว่างั้นถือว่าที่คุยกันมาให้คิดว่าเขาปวดฟัน ก็เลยหงุดหงิดไป หลังจากนี้ก็ให้ปล่อยมันไป ให้ใช้ชีวิตกันปกติ
แต่พอเรากลับมาคิดเราไม่สามารถปล่อยมันให้ผ่านไปได้แม้สักวินาทีเดียว เรายังคิดถึงทุกคำที่เขาพิมพ์ใส่ร้าย พิมพ์ว่าเราด้วยถ้อยคำที่แย่ๆ ถึงจะไม่มีคำหยาบแต่เขาพูดถึงเราเหมือนเราเป็นคนไม่ดีคนหนึ่งเลยค่ะ
เราอยู่กับเขามาปีกว่าที่ผ่านมาก็มีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันบ้าง แต่มันสามารถผ่านไปได้เพราะเราได้คุยกับแฟน แฟนบอกให้เราไม่ต้องเก็บคำ หรือการกระทำแม่มาคิด ให้เราปรับตัวรวมถึงความคิดของเราด้วย แต่ก่อนเราอาจจะอคติกับเแม่แฟนมากเกินไป มีนิสัยหลายอย่างที่เราไม่เข้าใจแม่แฟน มันสะสมเยอะ จนทำให้เราอคติกับแม่แฟนค่ะ แต่พอได้คุยกับแฟนเราเลยพยายามทำความเข้าใจ เริ่มคุยกับเขา พาไปทานอาหาร พาไปเที่ยว จนเราคิดว่าทุกอย่างมันดีขึ้นแล้วแต่ก็มาเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก
กับเรื่องนี้มันต่างออกไปตรงที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดค่ะ เขาพูดใส่ร้ายเรา ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก (เขาเคยโกหกว่าเราทำไม่ดีให้แฟนฟัง พูดถึงเราในเชิงไม่ดีให้ข้างบ้านฟัง แต่เราคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยเลยมองข้ามไป) แต่ครั้งนี้มันแย่มากๆค่ะ มันเป็นการโกหกที่ใหญ่ขึ้น ถ้าแฟนเราเป็นคนเชื่อคนง่าย เราคิดว่าแฟนคงเลิกกับเราไปแล้ว
ได้คุยกับแฟนแล้ว แฟนบอกว่ารู้สึกผิดและละอายใจต่อเราที่แม่เขาเป็นแบบนี้ แต่เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อ เขาไปสามารถทิ้งแม่ได้และไม่อยากให้เราไปไหน เราถามเขาว่าถ้าเราต้องเลิกกันจะทำยังไง เขาบอกไม่อยากเลิกแต่ถ้าเราอยากเลิกเขาก็ทำไรไม่ได้ จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกันเขาก็ทิ้งแม่เขาไม่ได้ เขาแคร์แม่เขา
ส่วนเราตั้งแต่เกิดเรื่องเราไม่อยากคุยหรือมองหน้าแม่แฟนเลยค่ะ เหมือนพอคุยด้วยแล้วมันฉายภาพแชทนั้นขึ้นมาแล้วเราก็คิดอยู่ตลอดว่าเขาไม่ได้ชอบเราแต่ตอนนี้กำลังแสดงอยู่เฉยๆ
เขาเป็นคนที่ชอบบอกว่าเข้าใจ แต่จริงๆแล้วเขาไม่เข้าใจค่ะ ทำให้เราคิดว่าการที่เราอธิบายให้เขาฟังไปตอนนั้นเขาไม่ได้เข้าใจจริงๆ (เราไม่ได้คิดไปเองนะคะ เขาเป็นคนแบบนี้จริงๆ อย่างล่าสุดอยู่ดีๆเขาก็โทรไปหาป้าเรา แล้วพูดว่าเราชอบคนพูดเพราะ เขาเป็นคนพูดไม่เพราะ ซึ่งผิด เราบอกว่าให้เขาพูดซอฟๆลง พูดอะไรให้นึกถึงใจคนอื่น ประมาณนี้ แต่เขาไปตีความว่าต้องพูด ค่ะ ขากับเรา) นั้นแหละค่ะ เราเลยไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี อยากให้ชาวพันทิปช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ เราจัดการความรู้สึกตัวเองไม่ได้จริงๆ TT
มีปัญหากับแม่แฟนจนไม่อยากจะมองหน้า ทำไงดีคะ ?
**เราเช่าอาคารพานิชย์เปิดธุรกิจกับแฟน และพักอยู่ที่นี้ แม่แฟนเลยย้ายมาอยู่ด้วย
เรื่องก็คือแฟนทักข้อความมาหาเราว่าทะเลาะอะไรกับแม่ เขาเหนื่อยนะ เราที่ขณะนั้นเพิ่งทำธุระเสร็จก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นเราไปทำอะไรให้อีก พอแฟนกลับมาจากที่ทำงานจึงเอาแชทที่แม่แฟนว่ามาให้เราอ่าน ซึ่งเราอ่านแล้วรู้สึกแย่และรู้สึกโกรธมากๆค่ะ
เขาบอกว่าตอนที่เราเข้าไปทำธุระที่ร้านเราทำเสียงโครมคราม ชักสีหน้าไม่พอใจเขา เรียกพี่สาวที่มากับเราซึ่งจอดรถจักรยานยนตร์รอเราหน้าบ้านว่า อี…เบะปากใส่เขาทำหน้าตาดูถูกเขา (แต่พี่สาวเราใส่แมสอยู่ค่ะ)
เขาว่าเราเป็นลูกเทวดา เขาตามใจเราทุกอย่าง
บอกว่าสงสารแฟนเรานะ เสื้อแฟนไปทำงานแม่ก็ต้องเป็นคนซักให้ ประมาณว่าเราไม่ช่วยแฟนค่ะ
บอกว่าเรามันไม่น่าสงสาร อยู่กับแฟนเป็นอีกแบบอยู่กับแม่แฟนเป็นอีกแบบ ตอนที่แฟนไม่อยู่เขาบอกว่าเราทำสายตาดูถูกเขามาก พร้อมกับข้อความที่เรารู้สึกว่ามทวงบุญคุณค่ะ อย่างเช่นค่าบ้านก็’ช่วย’ออก อะไรนิดหน่อยก็ช่วยตลอด
เราอ่านจบแล้วใจเต้นแรงเลยค่ะ บอกตรงๆว่าโกรธมากๆ เพราะที่เขาพิมพ์มาคือเรื่องที่เขาปรุงแต่งมันขึ้นมาเอง และทัศนคติเขาลบมากๆ
วันนั้นที่จริงแล้วเราปิดร้านแล้วไปอยู่บ้านพี่ค่ะ เนื่องจากวัตถุดิบหมด เราบอกแฟนว่าถ้าของมาส่งให้แม่เขาบอกด้วยเราจะเขาไปเก็บหรือให้แม่เก็บให้ พอของมาแฟนทักบอก เราก็เข้าร้านไปเก็บเอง ตอนกำลังเก็บของใส่ตู้อยู่ แม่แฟนก็ลงมาเก็บของแล้วออกไปทำธุระของเขา ซึ่งเรายังไม่ได้สบตากับแม่แฟน ไม่ได้มองหน้าแม่แฟนหรือพูดกับเขาสักคำค่ะเสร็จแล้วเราก็ออกไปข้างนอกต่อแล้วได้รับข้อความจากแฟน
ตอนเย็นแฟนบอกแม่เขาว่าวันนี้แม่ไม่ต้องช่วยปิดร้านทีนี้ก็เป็นเรื่องเลยค่ะ เขารู้สึกน้อยใจพูดความในใจออกมาหมดบอกว่าเราเกลียดเขา เราไม่ชอบเขา เราไม่เห็นหัวเขา อยากให้เขาไปอยู่ที่อื่นก็บอก แฟนเก่าเขาบอกว่าเขาน่ะจะต้องเป็นขี้ข้าลูกแน่ ซึ่งเขาเห็นด้วยว่าจริง ที่เขาคุยกันเราได้ยินหมดเลย เรายืนฟังอยู่หลังบ้าน ใจเราเต้นเร็วมาก น้ำตาไหลเพราะเราโกรธมากๆ เราเดินเขาไปคุยกับเขา
1.เรื่องที่เขาว่าเราทำโครมคราม เขาบอกว่าคิดว่าเราโกรธเขาที่ตามให้เราเขาไปเก็บแป้ง (เราไม่รู้ว่าเขาตามให้เราเข้าไปเก็บแป้งเลยค่ะ แฟนไม่บอก แต่ถึงเขาตามเราก็ไม่คิดจะโกรธอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะโกรธเขาอะค่ะ) เขาบอกว่าพอเขาออกไปใส่รองเท้ามองกระจกเห็นพี่เราเบะปากใส่เขา (แต่นั้นแหละค่ะ พี่เราใส่แมสอะ จะมาเบะปากอะไรก่อน) เขาบอกว่าเขาไปถอนฟันมา เขาหงุดหงิด เขาอาจจะคิดไปเอง เราเลยบอกเขาไปว่าแม่จะมาคิดแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ได้มีปัญหากัน พี่เราไม่เคยมีปัญหากับเขาด้วยซ้ำ แม่จะมาคิดแบบนี้กับคนอื่นไม่ได้ บ้านเราไม่เคยดูถูกใจ ทำไมอยู่ดีๆแม่ถึงคิดกับพี่เราแบบนี้
2.เรื่องซักผ้าให้แฟน (ต้องบอกก่อนว่าเรากับแฟนไม่มีปัญหาเรื่องทำงานบ้านค่ะ แฟนซักผ้า เราตาก เราล้างจาน แฟนถูบ้าน คือเราโอเคกับการที่พวกเราเป็นแบบนี้มากๆค่ะ) เราบอกว่าเรากับแฟนต่างทำงานกันทั้งคู่ ความจริงแล้วเสื้อผ้าแฟนใส่แฟนก็ต้องซักเอง ถ้าแฟนไม่มีใส่ก็เป็นเรื่องของแฟน แต่การที่แม่อยากจะช่วยลูกตัวเองมันก็ไม่ผิด แต่จะคิดกับเราแบบนี้ไม่ได้ ถ้าแฟนขอให้เราช่วยเราก็จะช่วยค่ะ แต่แฟนเขาไปตกลงกับแม่เขา แล้วเราก็คิดว่าถ้าแม่อยากจะช่วยลูกก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร (เราเคยคิดว่าครอบครัวต้องช่วยซัพพอร์ตกันเป็นเรื่องปกติ แต่พอมาเจอเขาก็เข้าใจเลยว่าเขาทำทุกอย่างให้เป็นบุญคุณหมดเลยค่ะ )
และมีอีกหลายอย่างที่เราอธิบายให้เขาฟังพร้อมบอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครมาพูดถึงเราด้วยถ้อยคำไอ้อี หรือพูดถึงเราแย่ๆแบบนี้มาก่อน เราเสียใจและเราโกรธมากๆ เขาบอกว่างั้นถือว่าที่คุยกันมาให้คิดว่าเขาปวดฟัน ก็เลยหงุดหงิดไป หลังจากนี้ก็ให้ปล่อยมันไป ให้ใช้ชีวิตกันปกติ
แต่พอเรากลับมาคิดเราไม่สามารถปล่อยมันให้ผ่านไปได้แม้สักวินาทีเดียว เรายังคิดถึงทุกคำที่เขาพิมพ์ใส่ร้าย พิมพ์ว่าเราด้วยถ้อยคำที่แย่ๆ ถึงจะไม่มีคำหยาบแต่เขาพูดถึงเราเหมือนเราเป็นคนไม่ดีคนหนึ่งเลยค่ะ
เราอยู่กับเขามาปีกว่าที่ผ่านมาก็มีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันบ้าง แต่มันสามารถผ่านไปได้เพราะเราได้คุยกับแฟน แฟนบอกให้เราไม่ต้องเก็บคำ หรือการกระทำแม่มาคิด ให้เราปรับตัวรวมถึงความคิดของเราด้วย แต่ก่อนเราอาจจะอคติกับเแม่แฟนมากเกินไป มีนิสัยหลายอย่างที่เราไม่เข้าใจแม่แฟน มันสะสมเยอะ จนทำให้เราอคติกับแม่แฟนค่ะ แต่พอได้คุยกับแฟนเราเลยพยายามทำความเข้าใจ เริ่มคุยกับเขา พาไปทานอาหาร พาไปเที่ยว จนเราคิดว่าทุกอย่างมันดีขึ้นแล้วแต่ก็มาเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก
กับเรื่องนี้มันต่างออกไปตรงที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดค่ะ เขาพูดใส่ร้ายเรา ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก (เขาเคยโกหกว่าเราทำไม่ดีให้แฟนฟัง พูดถึงเราในเชิงไม่ดีให้ข้างบ้านฟัง แต่เราคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยเลยมองข้ามไป) แต่ครั้งนี้มันแย่มากๆค่ะ มันเป็นการโกหกที่ใหญ่ขึ้น ถ้าแฟนเราเป็นคนเชื่อคนง่าย เราคิดว่าแฟนคงเลิกกับเราไปแล้ว
ได้คุยกับแฟนแล้ว แฟนบอกว่ารู้สึกผิดและละอายใจต่อเราที่แม่เขาเป็นแบบนี้ แต่เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อ เขาไปสามารถทิ้งแม่ได้และไม่อยากให้เราไปไหน เราถามเขาว่าถ้าเราต้องเลิกกันจะทำยังไง เขาบอกไม่อยากเลิกแต่ถ้าเราอยากเลิกเขาก็ทำไรไม่ได้ จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกันเขาก็ทิ้งแม่เขาไม่ได้ เขาแคร์แม่เขา
ส่วนเราตั้งแต่เกิดเรื่องเราไม่อยากคุยหรือมองหน้าแม่แฟนเลยค่ะ เหมือนพอคุยด้วยแล้วมันฉายภาพแชทนั้นขึ้นมาแล้วเราก็คิดอยู่ตลอดว่าเขาไม่ได้ชอบเราแต่ตอนนี้กำลังแสดงอยู่เฉยๆ