ภาพจิตรกรรม "นวะ-ครหะ ราวัณ" (Nava-Graha Ravan) แสดงเหตุการณ์ที่ทศกัณฐ์พิโรธและจับกุมเทพนพเคราะห์มากักขังไว้ภายใต้บัลลังก์ในท้องพระโรงกรุงลงกา (จัดพิมพ์โดย Anant Shivaji Desai, Moti Bazar, Mumbai)
อรรถาธิบาย : เกร็ดตำนานรามายณะที่เล่ากันแบบมุขปาฐะ กล่าวว่าเมื่อครั้งที่อินทรชิต (เมฆนาท) กำลังจะถือกำเนิด ทศกัณฐ์ (ราวณะ) ผู้เป็นบิดาได้ทำการบังคับควบคุมเทพนพเคราะห์ทั้งหมดให้ไปสถิตอยู่รวมกันในเรือนที่ 11 (ภพลาภะ) ของดวงชะตาอินทรชิต แต่ปรากฏว่ามีเพียงพระศนิ (ดาวเสาร์) ที่กลับเคลื่อนตำแหน่งเข้าไปอยู่ในเรือนที่ 12 (ภพวินาศน์) จึงส่งผลให้อินทรชิตมีเกณฑ์ชะตาที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่แต่มีอายุขัยสั้น ทำให้ทศกัณฐ์ผู้เป็นบิดาเกิดความพิโรธ และจับกุมดาวนพเคราะห์ทั้งหมดมากักขังไว้ภายใต้บัลลังก์ในท้องพระโรงกรุงลงกา โดยให้พระเคราะห์ทุกองค์นอนคว่ำหน้าลงแล้วนำมาเหยียบเอาไว้ใต้ฝ่าเท้า
ต่อมาฤษีนารทมุนีได้เดินทางมาที่กรุงลงกา และทำกลให้ทศกัณฐ์ต้อง "ศนิ ทฤษฏิ" (อำนาจเคราะห์ร้ายจากการเพ่งมองของนัยน์ตาพระเสาร์) โดยเสแสร้งแกล้งกล่าวสรรเสริญทศกัณฐ์ว่ามีอำนาจยิ่งใหญ่ สามารถจับกุมนพเคราะห์ทั้งหมดมาสยบไว้ใต้เท้าได้ แต่เหตุไฉนจึงไม่จับพระเคราะห์เหล่านั้นให้นอนหงายขึ้นแล้วเอาเท้าเหยียบที่หน้าอกแทน จะได้สร้างความอัปยศให้แก่เหล่าเทพนพเคราะห์อย่างสาสม ซึ่งเมื่อทศกัณฐ์ได้ฟังคำกล่าวของฤษีนารทมุนีแล้วก็ปฏิบัติตามนั้น แต่พอจับพระเคราะห์ทั้งหมดให้นอนหงายหน้าขึ้น ปรากฏว่าพระศนิก็ได้ใช้สายตาเพ่งมองเข้าที่ใบหน้าของทศกัณฐ์ด้วยความเคียดแค้น ทำให้ทศกัณฐ์ต้องโทษเคราะห์ร้ายแห่งดาวเสาร์โดยทันที
ด้วยเหตุนี้ทศกัณฐ์จึงจับพระศนิขังลืมไว้ในคุกใต้ดินของกรุงลงกาเพื่อจะได้หลบหลีกสายตาอันชั่วร้ายของพระศนิที่คอยเพ่งมองชีวิต จนกระทั่งหนุมานได้บุกเข้ามาตามหานางสีดาภายในกรุงลงกา และบังเอิญพบกับพระศนิที่ถูกจองจำอยู่ในคุก จึงได้ทำการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ทำให้พระศนิพึงพอใจเป็นอย่างมาก และให้พรแก่หนุมานว่าจะเป็นผู้ที่ไม่ได้รับเคราะห์กรรมจากอำนาจชั่วร้ายของศนิทฤษฏิหรือศนิโทษ ดังนั้นชาวอินเดียจึงมีความเชื่อว่า ถ้าหากดวงชะตาของบุคคลใดที่ถูกดาวเสาร์โคจรเข้ามาทับชนมราศีจันทร์ หรือพระเสาร์เข้ามาเสวยอายุในทศา ควรทำการสักการะบูชาพระหนุมานในทุก ๆ วันเสาร์แล้วจะรอดพ้นจากเคราะห์ร้ายที่เป็นโทษของดาวเสาร์ นั่นเอง
เผยแพร่เป็นวิทยาทานโดย โหรชัยวัฒน์ สดชื่น
(1/10/2565)
Credit: Facebook: ChangHora
นิทานโหราศาสตร์ภารตะ
อรรถาธิบาย : เกร็ดตำนานรามายณะที่เล่ากันแบบมุขปาฐะ กล่าวว่าเมื่อครั้งที่อินทรชิต (เมฆนาท) กำลังจะถือกำเนิด ทศกัณฐ์ (ราวณะ) ผู้เป็นบิดาได้ทำการบังคับควบคุมเทพนพเคราะห์ทั้งหมดให้ไปสถิตอยู่รวมกันในเรือนที่ 11 (ภพลาภะ) ของดวงชะตาอินทรชิต แต่ปรากฏว่ามีเพียงพระศนิ (ดาวเสาร์) ที่กลับเคลื่อนตำแหน่งเข้าไปอยู่ในเรือนที่ 12 (ภพวินาศน์) จึงส่งผลให้อินทรชิตมีเกณฑ์ชะตาที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่แต่มีอายุขัยสั้น ทำให้ทศกัณฐ์ผู้เป็นบิดาเกิดความพิโรธ และจับกุมดาวนพเคราะห์ทั้งหมดมากักขังไว้ภายใต้บัลลังก์ในท้องพระโรงกรุงลงกา โดยให้พระเคราะห์ทุกองค์นอนคว่ำหน้าลงแล้วนำมาเหยียบเอาไว้ใต้ฝ่าเท้า
ต่อมาฤษีนารทมุนีได้เดินทางมาที่กรุงลงกา และทำกลให้ทศกัณฐ์ต้อง "ศนิ ทฤษฏิ" (อำนาจเคราะห์ร้ายจากการเพ่งมองของนัยน์ตาพระเสาร์) โดยเสแสร้งแกล้งกล่าวสรรเสริญทศกัณฐ์ว่ามีอำนาจยิ่งใหญ่ สามารถจับกุมนพเคราะห์ทั้งหมดมาสยบไว้ใต้เท้าได้ แต่เหตุไฉนจึงไม่จับพระเคราะห์เหล่านั้นให้นอนหงายขึ้นแล้วเอาเท้าเหยียบที่หน้าอกแทน จะได้สร้างความอัปยศให้แก่เหล่าเทพนพเคราะห์อย่างสาสม ซึ่งเมื่อทศกัณฐ์ได้ฟังคำกล่าวของฤษีนารทมุนีแล้วก็ปฏิบัติตามนั้น แต่พอจับพระเคราะห์ทั้งหมดให้นอนหงายหน้าขึ้น ปรากฏว่าพระศนิก็ได้ใช้สายตาเพ่งมองเข้าที่ใบหน้าของทศกัณฐ์ด้วยความเคียดแค้น ทำให้ทศกัณฐ์ต้องโทษเคราะห์ร้ายแห่งดาวเสาร์โดยทันที
ด้วยเหตุนี้ทศกัณฐ์จึงจับพระศนิขังลืมไว้ในคุกใต้ดินของกรุงลงกาเพื่อจะได้หลบหลีกสายตาอันชั่วร้ายของพระศนิที่คอยเพ่งมองชีวิต จนกระทั่งหนุมานได้บุกเข้ามาตามหานางสีดาภายในกรุงลงกา และบังเอิญพบกับพระศนิที่ถูกจองจำอยู่ในคุก จึงได้ทำการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ทำให้พระศนิพึงพอใจเป็นอย่างมาก และให้พรแก่หนุมานว่าจะเป็นผู้ที่ไม่ได้รับเคราะห์กรรมจากอำนาจชั่วร้ายของศนิทฤษฏิหรือศนิโทษ ดังนั้นชาวอินเดียจึงมีความเชื่อว่า ถ้าหากดวงชะตาของบุคคลใดที่ถูกดาวเสาร์โคจรเข้ามาทับชนมราศีจันทร์ หรือพระเสาร์เข้ามาเสวยอายุในทศา ควรทำการสักการะบูชาพระหนุมานในทุก ๆ วันเสาร์แล้วจะรอดพ้นจากเคราะห์ร้ายที่เป็นโทษของดาวเสาร์ นั่นเอง
เผยแพร่เป็นวิทยาทานโดย โหรชัยวัฒน์ สดชื่น
(1/10/2565)
Credit: Facebook: ChangHora