บทที่ 24 ร้านรถมือสอง
"ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ คุณผู้ชายและคุณผู้หญิง"
พนักงานต้อนรับของเต๊นท์รถยนต์มือสองกล่าวคำทักทายเยาวภาและเอกภพด้วยท่าทางนอบน้อม โดยที่เขาเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยากัน
" เราแค่แวะดูๆเอาไว้ก่อนน่ะ ใช่ไหมจ้ะที่รัก"
เขาพูดพลางใช้มือสะกิดไปที่แขนของเยาวภาที่มัวยืนมองอะไรเพลินอยู่
"อ้อ ใช่ค่ะ ขอเราเดินดูรอบๆนี้ก่อนได้ไหมคะ"
"ได้เลยครับ หากสนใจคันไหนเป็นพิเศษ ก็เรียกได้เลยนะครับ ผมอยู่ใกล้ๆนี่เอง"
ทันทีที่พนักงานต้อนรับคนนั้นเดินจากไป เยาวภาก็หันมาเล่นงานเอกภพทันที
"จะพูดอะไรทำไมไม่เตรียมการกันก่อนล่ะคะ เล่นแบบนี้ดิฉันตกใจแทบแย่"
หล่อนทำท่าทางกระฟัดกระเฟียด
"เอาน่า เพื่อความแนบเนียน ไม่เห็นจะเสียหายอะไรเลยนี่"
"แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดีล่ะคะ"
"ก็ทำทีเดินดูอะไรถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ฉันยังไม่เห็นรถของนายพิเชษฐ์อะไรนั้น เข้ามาที่นี่เลย"
หลังจากทำทีเดินดูรถไปเรื่อยๆในราวครึ่งชั่วโมง เอกภพก็สังเกตรถยนต์สองคันขับเข้ามาภายในร้าน คันแรกคือรถปาเจโร่ที่พิเชษฐ์ขับส่วนอีกคันที่ตามหลังมาคือคาดิลแล็คเก๋งคันที่อรสาขับอยู่เป็นประจำ
เอกภพรีรออยู่สักครู่จนชายหญิงทั้งสองก้าวลงมาจากรถแล้วเดินตรงเข้าไปยังออฟฟิตอันเป็นตัวตึกที่ตั้งอยู่ด้านหลังลานจอดแสดงรถ พลันเหมือนกับเพิ่งนึกอะไรออกนักสืบหนุ่มรีบจูงมือเยาวภาที่ยืนงงอยู่สาวเท้าตรงไปยังคนทั้งสองทันที
"อ่า ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ แต่ผมสนใจรถฟอร์ดสีขาวคันนั้น เลยอยากที่มาที่ไป อยากให้คุณช่วยบอกราบละเอียดหน่อยได้ไหมครับ คุณเอ่อ"
ชายรูปร่างเล็กท่าทางสมส่วน แต่งตัวภูมิฐาน ผิวเนื้อขาว แลดูเจ้าสำอางนิดๆ หันหน้ากลับมามองเอกภพด้วยท่าทางตื่นๆ
"ผมพิเชษฐ์ครับ เป็นเจ้าของที่นี่ ถ้ามีอะไรที่คุณไม่เข้าก็สอบถามพนักงานขายของผมได้เลย เขายืนอยู่ตรงโน้นไง "
"อ่า คือเมื่อกี้ผมเห็นเขาติดคุยกับลูกค้าท่านอื่นอยู่ ก็เลยคิดว่าสอบถามคุณโดยตรงเลยจะดีกว่า ช่วยกรุณาผมหน่อยเถอะนะครับ"
เขาหันไปมองที่พนักงานขาย ก่อนจะหันมาทางเอกภพแล้วยิ้มน้อยๆที่มุมปาก
"ได้สิครับ งั้นเดี๋ยวเราเดินพลางคุยกันพลางก็แล้วกัน นี่อรสารบกวนคุณช่วยเดินล่วงหน้าไปบอกให้เด็กรับใช้เตรียมน้ำเย็นเอาให้แขกด้วยนะครับ"
ประโยคสุดท้ายเขาหันไปพูดกับอรสาที่เดินล่วงหน้าออกไปไม่กี่ก้าว
"ได้ค่ะ"
หล่อนหันกลับมาตอบด้วยสีหน้าเรียบๆ ก่อนจะสบตากับเอกภพแวปนึงก่อนจะหันกลับแล้วเร่งฝีเท้าเดินนำหน้าออกไป
"ดูเหมือนว่าคุณจะสนใจ ฟอร์ด คอนซูล 315 สีขาว คันนั้นของเราใช่ไหมครับ"
พิเชษฐ์หันมาถามเอกภพด้วยท่าทางอารมณ์ดี
"ใช่ครับ ผมกับภริยาเราอยากจะมีรถอีกสักคัน สำหรับขับไปทำงาน"
พูดจบเขาก็หันไปยิ้มให้กับภริยากำมะลอของเขา
"เอาล่ะครับ ยังไงก็ขอเชิญคุณนั่งก่อนเถอะ เด็กรับใช่เตรียมน้ำเอาไว้แล้ว อีกเดี๋ยวก็มา อรสาคุณก็นั่งด้วยกันที่นี่ก่อนสิ"
"ขอบคุณมากนะครับ"
"ยังไงก็ช่างเถอะ นับว่าคุณตาถึงมากที่เลือกคันนี้ เพราะเป็นรถนำเข้าที่ประกอบในไทยเป็นเจ้าแรกๆ จึงถือว่านำสมัยและน่าภาคภูมิใจ อีกทั้งรถก็ยังใหม่มากเพราะเพิ่งขับไปได้ไม่กี่กิโล ผมได้มันมาจากงานประมูลเลหลังของท่านเจ้าคุณท่านหนึ่ง ย่านรามคำแหง"
พูดจบเขาก็รับน้ำเย็นจากเด็กรับใช้แล้วส่งมันให้กับเอกภพและเยาวภา
"คืออย่างนี้นะครับ เรายังไม่เจาะจงเลยว่าจะเอาคันนี้ ที่อยากได้ก็ยังมีอีกหลายคัน คือเรายังเลือกไม่ถูกน่ะครับ"
เขาหันไปยิ้มกับเยาวภาอีกครั้ง
"อ้อ นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก ผมไม่ได้จะกดดันอะไรหรอกครับ ใจเย็นๆ ค่อยๆเลือกไป"
เอกภพยิ้มให้กับอรสาแวปนึง หล่อนมีสีหน้าเซ็งๆและมีทีท่าว่าไม่ค่อยอยากจะอยู่ร่วมวงสนทนาด้วยเท่าไหร่นัก
"ผมรู้สักคุ้นหน้าคุณจัง ดูเหมือนเราจะเคยพบกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ"
เอกภพถามแบบดื้อๆ จนอรสาตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ดูเหมือนหล่อนก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมายนัก ยังคงสงวนทีท่าอยู่อย่างเช่นเดิม หล่อนยิ้มที่มุมปากนิดๆ ก่อนจะตอบกลับมาว่า
"ดิฉันคิดว่าไม่เคยเจอคุณมาก่อนนะคะ ขอโทษที ดิฉันคิดว่าคุณคงจะจำคนผิดเสียแล้วล่ะค่ะ"
"ครับๆ ผมคงจำคนผิดจริงๆด้วยแหละ ต้องขออภัย ช่วงนี้ผมมักจะสับสนอยู่บ่อยๆ"
"แล้วคุณกับภริยาทำงานอะไรเหรอครับ"
คราวนี้พิเชษฐ์เป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง
"ผมเป็นพนักงานขายเครื่องกรองน้ำครับ ต้องเดินทางออกต่างจังหวัดตลอด เลยอยากได้รถอึดๆไว้ใช้อีกสักคัน ส่วนภริยาก็อยู่บ้านเฉยๆ เป็นแม่บ้านครับ"
"งั้นก็ดีเลยสิครับ ผมเพิ่งได้ปาเจโร่มาอีกคันหนึ่งเมื่อไม่นานนี้เอง สภาพยังใหม่ดีมาก เรื่องความอึดทนทานไว้ใจได้เลยครับ"
"งั้นผมออกไปดูด้านนอกเลยแล้วกันนะครับ"
"ไปสิครับ เดี๋ยวผมออกไปดูเป็นเพื่อน"
"อ้อ ไม่เป็นไรหรอกครับ รบกวนเวลางานคุณเปล่าๆ เดี๋ยวผมพนักงานขายที่ด้านนอกนั่นก็ได้"
"แน่ใจนะครับ ว่าไม่ต้องการให้ผมไปด้วย"
เขาถามยิ้มๆ
เอกภพไม่ตอบอะไร เขารีบจูงมือเยาวภาแล้วเดินออกไปในทันที ในขณะที่กำลังก้าวเท้าเดินอยู่นั้น เยาวภาได้เผลอหันหลังกลับไปมอง ก็พบว่าชายหญิงทั้งคู่ยังคงจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างไม่วางตา
หลังจากทำทีเลือกดูรถต่ออีกราวสิบนาที เอกภพและเยาวภาก็ขอตัวกลับ โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่เจอรถคันที่ถูกใจ
บรรยากาศในรถเป็นไปด้วยความเงียบ เพราะเอกภพเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาขับ จนเยาวภารู้สึกอดรนทนไม่ไหว จึงเอ่ยออกมาว่า
"คุณว่านายพิเชษฐ์นี่เป็นคนยังไงกันคะ"
"เป็นคนสุภาพที่ดูร้ายลึกมากเลยทีเดียว"
เอกภพพึมพำคนเดียวเบาๆ ก่อนจะอัดบุหรี่เขาไปอีกครั้งจนเต็มปอด
พิษสวาท อำพราง (บทที่24)
"ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ คุณผู้ชายและคุณผู้หญิง"
พนักงานต้อนรับของเต๊นท์รถยนต์มือสองกล่าวคำทักทายเยาวภาและเอกภพด้วยท่าทางนอบน้อม โดยที่เขาเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยากัน
" เราแค่แวะดูๆเอาไว้ก่อนน่ะ ใช่ไหมจ้ะที่รัก"
เขาพูดพลางใช้มือสะกิดไปที่แขนของเยาวภาที่มัวยืนมองอะไรเพลินอยู่
"อ้อ ใช่ค่ะ ขอเราเดินดูรอบๆนี้ก่อนได้ไหมคะ"
"ได้เลยครับ หากสนใจคันไหนเป็นพิเศษ ก็เรียกได้เลยนะครับ ผมอยู่ใกล้ๆนี่เอง"
ทันทีที่พนักงานต้อนรับคนนั้นเดินจากไป เยาวภาก็หันมาเล่นงานเอกภพทันที
"จะพูดอะไรทำไมไม่เตรียมการกันก่อนล่ะคะ เล่นแบบนี้ดิฉันตกใจแทบแย่"
หล่อนทำท่าทางกระฟัดกระเฟียด
"เอาน่า เพื่อความแนบเนียน ไม่เห็นจะเสียหายอะไรเลยนี่"
"แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดีล่ะคะ"
"ก็ทำทีเดินดูอะไรถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ฉันยังไม่เห็นรถของนายพิเชษฐ์อะไรนั้น เข้ามาที่นี่เลย"
หลังจากทำทีเดินดูรถไปเรื่อยๆในราวครึ่งชั่วโมง เอกภพก็สังเกตรถยนต์สองคันขับเข้ามาภายในร้าน คันแรกคือรถปาเจโร่ที่พิเชษฐ์ขับส่วนอีกคันที่ตามหลังมาคือคาดิลแล็คเก๋งคันที่อรสาขับอยู่เป็นประจำ
เอกภพรีรออยู่สักครู่จนชายหญิงทั้งสองก้าวลงมาจากรถแล้วเดินตรงเข้าไปยังออฟฟิตอันเป็นตัวตึกที่ตั้งอยู่ด้านหลังลานจอดแสดงรถ พลันเหมือนกับเพิ่งนึกอะไรออกนักสืบหนุ่มรีบจูงมือเยาวภาที่ยืนงงอยู่สาวเท้าตรงไปยังคนทั้งสองทันที
"อ่า ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ แต่ผมสนใจรถฟอร์ดสีขาวคันนั้น เลยอยากที่มาที่ไป อยากให้คุณช่วยบอกราบละเอียดหน่อยได้ไหมครับ คุณเอ่อ"
ชายรูปร่างเล็กท่าทางสมส่วน แต่งตัวภูมิฐาน ผิวเนื้อขาว แลดูเจ้าสำอางนิดๆ หันหน้ากลับมามองเอกภพด้วยท่าทางตื่นๆ
"ผมพิเชษฐ์ครับ เป็นเจ้าของที่นี่ ถ้ามีอะไรที่คุณไม่เข้าก็สอบถามพนักงานขายของผมได้เลย เขายืนอยู่ตรงโน้นไง "
"อ่า คือเมื่อกี้ผมเห็นเขาติดคุยกับลูกค้าท่านอื่นอยู่ ก็เลยคิดว่าสอบถามคุณโดยตรงเลยจะดีกว่า ช่วยกรุณาผมหน่อยเถอะนะครับ"
เขาหันไปมองที่พนักงานขาย ก่อนจะหันมาทางเอกภพแล้วยิ้มน้อยๆที่มุมปาก
"ได้สิครับ งั้นเดี๋ยวเราเดินพลางคุยกันพลางก็แล้วกัน นี่อรสารบกวนคุณช่วยเดินล่วงหน้าไปบอกให้เด็กรับใช้เตรียมน้ำเย็นเอาให้แขกด้วยนะครับ"
ประโยคสุดท้ายเขาหันไปพูดกับอรสาที่เดินล่วงหน้าออกไปไม่กี่ก้าว
"ได้ค่ะ"
หล่อนหันกลับมาตอบด้วยสีหน้าเรียบๆ ก่อนจะสบตากับเอกภพแวปนึงก่อนจะหันกลับแล้วเร่งฝีเท้าเดินนำหน้าออกไป
"ดูเหมือนว่าคุณจะสนใจ ฟอร์ด คอนซูล 315 สีขาว คันนั้นของเราใช่ไหมครับ"
พิเชษฐ์หันมาถามเอกภพด้วยท่าทางอารมณ์ดี
"ใช่ครับ ผมกับภริยาเราอยากจะมีรถอีกสักคัน สำหรับขับไปทำงาน"
พูดจบเขาก็หันไปยิ้มให้กับภริยากำมะลอของเขา
"เอาล่ะครับ ยังไงก็ขอเชิญคุณนั่งก่อนเถอะ เด็กรับใช่เตรียมน้ำเอาไว้แล้ว อีกเดี๋ยวก็มา อรสาคุณก็นั่งด้วยกันที่นี่ก่อนสิ"
"ขอบคุณมากนะครับ"
"ยังไงก็ช่างเถอะ นับว่าคุณตาถึงมากที่เลือกคันนี้ เพราะเป็นรถนำเข้าที่ประกอบในไทยเป็นเจ้าแรกๆ จึงถือว่านำสมัยและน่าภาคภูมิใจ อีกทั้งรถก็ยังใหม่มากเพราะเพิ่งขับไปได้ไม่กี่กิโล ผมได้มันมาจากงานประมูลเลหลังของท่านเจ้าคุณท่านหนึ่ง ย่านรามคำแหง"
พูดจบเขาก็รับน้ำเย็นจากเด็กรับใช้แล้วส่งมันให้กับเอกภพและเยาวภา
"คืออย่างนี้นะครับ เรายังไม่เจาะจงเลยว่าจะเอาคันนี้ ที่อยากได้ก็ยังมีอีกหลายคัน คือเรายังเลือกไม่ถูกน่ะครับ"
เขาหันไปยิ้มกับเยาวภาอีกครั้ง
"อ้อ นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก ผมไม่ได้จะกดดันอะไรหรอกครับ ใจเย็นๆ ค่อยๆเลือกไป"
เอกภพยิ้มให้กับอรสาแวปนึง หล่อนมีสีหน้าเซ็งๆและมีทีท่าว่าไม่ค่อยอยากจะอยู่ร่วมวงสนทนาด้วยเท่าไหร่นัก
"ผมรู้สักคุ้นหน้าคุณจัง ดูเหมือนเราจะเคยพบกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ"
เอกภพถามแบบดื้อๆ จนอรสาตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ดูเหมือนหล่อนก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมายนัก ยังคงสงวนทีท่าอยู่อย่างเช่นเดิม หล่อนยิ้มที่มุมปากนิดๆ ก่อนจะตอบกลับมาว่า
"ดิฉันคิดว่าไม่เคยเจอคุณมาก่อนนะคะ ขอโทษที ดิฉันคิดว่าคุณคงจะจำคนผิดเสียแล้วล่ะค่ะ"
"ครับๆ ผมคงจำคนผิดจริงๆด้วยแหละ ต้องขออภัย ช่วงนี้ผมมักจะสับสนอยู่บ่อยๆ"
"แล้วคุณกับภริยาทำงานอะไรเหรอครับ"
คราวนี้พิเชษฐ์เป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง
"ผมเป็นพนักงานขายเครื่องกรองน้ำครับ ต้องเดินทางออกต่างจังหวัดตลอด เลยอยากได้รถอึดๆไว้ใช้อีกสักคัน ส่วนภริยาก็อยู่บ้านเฉยๆ เป็นแม่บ้านครับ"
"งั้นก็ดีเลยสิครับ ผมเพิ่งได้ปาเจโร่มาอีกคันหนึ่งเมื่อไม่นานนี้เอง สภาพยังใหม่ดีมาก เรื่องความอึดทนทานไว้ใจได้เลยครับ"
"งั้นผมออกไปดูด้านนอกเลยแล้วกันนะครับ"
"ไปสิครับ เดี๋ยวผมออกไปดูเป็นเพื่อน"
"อ้อ ไม่เป็นไรหรอกครับ รบกวนเวลางานคุณเปล่าๆ เดี๋ยวผมพนักงานขายที่ด้านนอกนั่นก็ได้"
"แน่ใจนะครับ ว่าไม่ต้องการให้ผมไปด้วย"
เขาถามยิ้มๆ
เอกภพไม่ตอบอะไร เขารีบจูงมือเยาวภาแล้วเดินออกไปในทันที ในขณะที่กำลังก้าวเท้าเดินอยู่นั้น เยาวภาได้เผลอหันหลังกลับไปมอง ก็พบว่าชายหญิงทั้งคู่ยังคงจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างไม่วางตา
หลังจากทำทีเลือกดูรถต่ออีกราวสิบนาที เอกภพและเยาวภาก็ขอตัวกลับ โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่เจอรถคันที่ถูกใจ
บรรยากาศในรถเป็นไปด้วยความเงียบ เพราะเอกภพเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาขับ จนเยาวภารู้สึกอดรนทนไม่ไหว จึงเอ่ยออกมาว่า
"คุณว่านายพิเชษฐ์นี่เป็นคนยังไงกันคะ"
"เป็นคนสุภาพที่ดูร้ายลึกมากเลยทีเดียว"
เอกภพพึมพำคนเดียวเบาๆ ก่อนจะอัดบุหรี่เขาไปอีกครั้งจนเต็มปอด