DYSON ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของ คุณภาพ ที่ควบคู่ไปกับงานออกแบบที่แตกต่างและใส่ใจในหลายๆดีเทลเช่นกัน และด้วยทั้งคุณภาพและดีไซน์แบบนี้ทำให้ราคามันอาจจะเฉพาะกลุ่มด้วยเช่นเดียวกัน แต่ว่าทำไมมันถึงมีหลายๆคนที่ซื้อและใช้งานต้องบอกเลยว่าคุณภาพที่ได้ออกมาในการใช้งานจริง การออกแบบหลายๆส่วนที่รองรับการใช้งานจริง และ คิดมาอย่างดีทำให้แบรนด์นี้ยังคงมีกลุ่มลูกค้า และ ลูกค้าใหม่ๆที่ได้ลองแล้วติดใจในคุณภาพของแบรนด์  ซึ่งหลังจากที่เราได้ใช้งานกันมา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันดีขนาดนี้ เครื่องดูดฝุ่นรุ่นเทพ V15 รุ่นล่าสุดมาพร้อมกับการออกแบบที่ดีขึ้น หัวแปลงหลากหลาย และ การออกแบบที่เน้นใช้งานจริง กับสัตว์เลี้ยงต่างๆได้ครบเพราะออกแบบให้ดูดเส้นผม ขน แบบที่ไม่พันกัน  ทำความสะอาดง่ายจึงเหมาะกับสายเลี้ยงสัตว์มากๆเลยแหละ





Dyson เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่น Dyson V15 Detect อย่างเป็นทางการในประเทศไทย นับเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ทรงพลังและชาญฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Dyson ด้วยพลังดูด 240AW และเทคโนโลยีเลเซอร์และเซนเซอร์ตรวจจับฝุ่น มาพร้อมกับ 3 เครื่องมือใหม่ที่ตอบสนองความต้องการในการทำความสะอาดที่หลากหลายกว่าเดิม ตั้งแต่ชุดแปรงขนสัตว์เลี้ยง แปรงปัดฝุ่นไร้รอยขีดข่วน เครื่องดูดฝุ่น Dyson V15 Detect ออกแบบมาเพื่อครัวเรือนที่มีสมาชิกเป็นน้อง ๆ ขนปุย โดยมีเทคโนโลยีแถบแปรงที่ลดการพันกันของเส้นขนทั้งของคนและสัตว์เลี้ยงทั้งสุนัขและแมว การออกแบบแถบแปรงใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทคโนโลยีการใช้หวีช่วยลดผมพันกัน (De-tangling Comb) ของ Dyson โดยแถบแปรงประกอบด้วยซี่กำจัดเส้นขน 56 ซี่ที่วางองศามาเพื่อปัดเส้นขนในทุกรูปแบบไปสู่ท่อดูดฝุ่นโดยตรง องค์ประกอบอันสมบูรณ์ที่ประกอบด้วยซี่โพลีคาร์บอเนต ขนแปรงไนลอนทรงเกลียว เส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ที่ลดไฟฟ้าสถิต และพลังดูดที่ทรงพลัง ทำให้สามารถดูดทำความสะอาดได้ตั้งแต่ฝุ่นขนาดเล็กจนไปถึงเศษขนาดใหญ่ พร้อมยังแก้ปัญหาการม้วนพันของเส้นขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ยังมาพร้อมการกรอง HEPA และ หัวแปลงหลากหลายพิเศษเยอะมากในรุ่นใหม่นี้





Dyson V15 Detect Absolute (HEPA) ราคา 36,900 บาท และ Dyson V15 Detect Absolute ราคา 30,500 บาท





UNBOX

อุปกรณ์ในกล่องที่เราจะได้ในกล่องหลักเรียกได้ว่าครบเพราะว่าให้หัวมาเยอะมาก 6+2 หัวในกล่องพร้อมรองรับการใช้งานที่หลากหลายทันที และ บรรดาข้อต่อ หัวแปลกต่างๆครบทั้งหมด ในแต่ละหัวก็มีหลายอันที่สามารถถอดหมุนหรือทำให้ได้หัวเพิ่มมากกว่าเดิม และ ยังมี สายชาร์จ แท่นชาร์จพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งมาให้ครบในกล่องเลยทีเดียว





และนอกเหนือจากกล่องมาตรฐาน เรายังสามารถเลือกซื้อ Detail Cleaning Set กับ Pet Gloooming ในราคาชุดละ 2,500บาท ทำให้เราจะได้หัวพิเศษสำหรับแปลงขนหมา แมวต่างๆ หรือ Detail Cleaning ที่จะทำความสะอาดพวกคอมพิวเตอร์ ปุ่ม ดีเทลเล็กๆตามของใช้งานต่างๆ







หัวแปลง Pet Glooming เองนั้นจะมาพร้อมกับ หัวดูดแปรงขนสัตว์เลี้ยง และ ท่อดูดเพิ่มความยาว: ช่วยเพิ่มการเข้าถึงที่ยืดหยุ่นสูงสุด 100 ซม. หัวต่อไร้สาย: หัวต่อแบบ Quick-release รองรับ Dyson V7, V8, Digital Slim, Cyclone V10, V11, V12 Detect Slim และ V15 Detect





หัวแปลง Detail Cleaning นั้นจะเป็นหัวดูดพร้อมแปรงปัดฝุ่นไร้รอยขีดข่วน หัวดูดสำหรับซอกที่เข้าถึงยาก: กว้างเพียง 12.5 มม. และระยะเอื้อม 254 มม. หัวดูดแบบแบนที่สามารถบิดเอียงได้ถึง 22 องศา เหมาะสำหรับการทำความสะอาดบริเวณเข้าถึงยาก พื้นที่แคบ หรือซอกรถยนต์ นอกจากนี้ปลายหัวดูดยังมีขนแปรงกางออกได้ เพื่อช่วยจัดการคราบสกปรกที่ฝังแน่น และ ท่อดูดเพิ่มความยาว: เกลียวเส้นลวดที่ยืดหยุ่นได้ ประกบด้วยพลาสติกที่ทนทานสองชั้น ช่วยเพิ่มความยาวและยืดหยุ่นในระยะการใช้งานได้มากขึ้น สูงสุดได้ถึง 61 ซม. รองรับ Dyson V7, V8, Cyclone V10, V11, V12 Detect Slim, V15 Detect และ Outsize



DESIGN

งานออกแบบค่ายนี้ไม่ธรรมดาและในรุ่น V15 ก็เช่นกันรุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบที่ยังคงมีความสวยงาม ล้ำทันสมัย และ เน้นการใช้งานได้ดี ในรุ่น HEPA เราจะมีจุดสังเกตคือส่วนกรองข้างบนจะเป็นสีฟ้า แต่ถ้ารุ่นปกติก็จะเป็นสีม่วงนั้นเอง แม้พลังดูดจะเยอะแต่การออกแบบของขนาดตัวเครื่อง น้ำหนักนั้นทำได้ดีอยู่ที่ 2.61 กิโลกรัม เท่านั้นทำให้เวลาใช้งาน จับถือเองทำได้ดีไม่หนักเกินไปอีกทั้งการออกแบบวัสดุที่เอามาใช้งานดูดีสวยงามตามราคาเลยนะ







รูปทรงภาพรวมของเครื่องจะเน้นไปคล้ายๆกับการที่เราถือยิงปืนต่างๆ เมื่อถอดก้านอะไรออกเรียกได้ว่าขนาดพกพาได้ง่ายและคล่องตัว ไม่ได้อ้วนมากเกินไปและตัวฐานสามารถตั้งได้เป็นตัวแบตในตัวด้วยเช่นกัน หรือถ้าไม่ได้ใช้งานก็จะมีแท่นชาร์จมาให้ในตัวสามารถแขวนไว้ได้เลยนั้นเอง ถือว่างานออกแบบภาพรวมไม่ได้เน้นแค่สวยแต่ทุกๆส่วนคือออกแบบจาก เทคโนโลยีใช้งานจริง การเพิ่มเรงดูดต่างๆช่องลมทุกอย่างได้คิดค้นมาอย่างดี รวมถึงมีปุ่ม 2 ปุ่มเท่านั้นในการใช้งานจริงๆ ในการเปิดใช้งาน และ ปุ่มปรับโหมดบนหน้าจอด้านหลังเครื่องก็ใช้งานได้ไม่ยุ่งยากเลย





ในด้านบนนั้นจะเป็นหน้าจอแสดงผลคอยเปลี่ยน 3 โหมด และ แสดงผลฝุ่นเวลาใช้งานจริง รวมถึงกดค้างเพื่อเข้าการตั้งค่าในแต่ละส่วนต่างๆได้เช่นกัน เป็นจอแสดงผลวงกลม และที่น่าสนใจคือสามารถถอดทั้งส่วนกรองอากาศสีฟ้า  ทำความสะอาดได้ง่ายมากๆในการใช้งานจริง ตัวเครื่องสามารถถอดได้ทั้งหมดและไม่ยุ่งยากแถมเอามาล้างได้





เราจะเห็นกระบอกเก็บฝุ่นที่สามารถยิงทิ้งไว้เวลาทำความสะอาดเสร็จเมื่อดันสีแดงๆออกมาคล้ายกับการยิงปืน และ ก็สามารถ ถอดออกมาได้ทั้งหมด สำหรับการเอาออกมาล้างน้ำทำความสะอาดเพิ่มเติม รวมถึงตัวฐานเองก็เป็นก้อนแบตที่รองรับการใช้งานประมาณ 1 ชั่วโมงต่อการชาร์จ ก็สามารถแยกร่างได้ทั้งหมด ซึ่งจริงๆเวลาชาร์จไม่ต้องถอดออกมา





และแน่นอนว่าหัวแปลงข้อต่อเยอะมากๆ แต่ในรุ่น HEPA เองนั้นเราจะได้ก้านสีทองแดงขนาดใหญ่ และ หัวแปลงที่มีสีทองเข้ามาที่แตกต่างกับรุ่นปกติ ซึ่งมีความใหญ่สะใจพอสมควรและมีหัวแปลงที่คอยจำกัดเส้นผม ขนต่างๆให้มาสำหรับน้องหมา แมว เรียบร้อยได้ในตัวเองทำให้รุ่นนี้หลักๆเน้นไปที่คนเลี้ยงสัตว์ได้ดีมากๆและใช้งานได้จริงทั้งหมด



SPEC 

- เทคโนโลยีไซโคลนCyclone 14 ตัว
- ขนาดของถังเก็บฝุ่น0.54 ลิตร
- การกรองระบบการกรอง HEPA ทั่วทั้งเครื่อง
- หัวทำความสะอาดDigital Motorbar™ และ Laser Slim Fluffy™
- Suction power: boost230AW
- ระยะเวลาการใช้งาน60 นาที
- ความสูง1,260 มม.
- ความกว้าง250 มม.
- Charge time4.5 ชม.
- น้ำหนัก2.61 กก.



HEPA FILTER 

และแน่นอนว่ารุ่นพิเศษตัวนี้จะเป็นเครื่องกรองได้ในตัวเลย เพราะว่ามาพร้อมฟิลเตอร์แบบเครื่องกรองอากาศ HEPA H11 ในรุ่น Dyson V15 Detect Absolute (HEPA) ที่ปิดผนึกทั้งเครื่องด้วยระบบการกรอง HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่นขนาดเล็กได้ ทั้งสะเก็ดผิวหนังจากสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ตัวกรองที่อยู่ด้านในเครื่องได้ถูกพัฒนาขึ้นจนสามารถดักจับอนุภาคได้มากถึง 99.97% โดยจับอนุภาคได้เล็กสุดที่ 0.1 ไมครอน ทำให้ Dyson V15 Detect Absolute (HEPA) กลายเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่กรองอากาศได้สะอาดที่สุดและยังเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีระบบการกรองดีที่สุดของ Dyson อีกด้วย ซึ่งในรุ่นปกติจะไม่มี ทำให้ถ้าใครอยากได้ HEPA ต้องเป็นรุ่นแบบในรีวิวเท่านั้นนะครับ ถ้ามองในแง่ของการกรองบอกเลยว่าละเอียดอย่างมากและสามารถล้างทำความสะอาดได้ด้วยในตัวไส้กรอง



LASER

และการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้าคือเลเซอร์ตรวจจับฝุ่น ที่ทาง Dyson ได้ออกแบบเทคโนโลยีเลเซอร์ตรวจจับฝุ่นเพื่อให้มั่นใจว่าบ้านของคุณได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เลเซอร์ช่วยตรวจจับอนุภาคต่างๆ ที่คุณไม่เคยมองเห็นด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ไดโอดสีเขียวในหัวดูดทำความสะอาด Slim Fluffy ที่ส่องแสงทำมุม 1.5 องศา ห่างจากพื้น 7.3 มม. ได้อย่างแม่นยำ ช่วยแสดงให้เห็นฝุ่นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าและดูดจับได้อย่างหมดจด และ ทำงานร่วมกับ เซนเซอร์เพียโซ: เทคโนโลยีที่ช่วยวัดขนาดและนับจำนวนอนุภาคฝุ่นพร้อมแสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม์บนหน้าจอ LCD เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยดูดจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กและนับจำนวนได้ถึง 15,000 ครั้งต่อวินาที เมื่อฝุ่นเข้าสู่ตัวเครื่องและกระทบกับเซนเซอร์เพียโซภายในที่เก็บฝุ่น พร้อมแปลงการสั่นให้เป็นคลื่นไฟฟ้า ข้อมูลขนาดและจำนวนอนุภาคฝุ่นจะถูกแสดงผลบนหน้าจอ LCD ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเห็นได้ว่าเครื่องดูดฝุ่นได้ขจัดฝุ่นออกไปมากน้อยเพียงใด ตลอดจนขนาดของอนุภาคต่างๆ 



BRUSH 

และทางด้านหัวแปลงบางส่วนเพิ่มเติมเราจะเห็นว่าในกล่องเองให้มาค่อนข้างจะครบแล้ว นอกเหนือจากหัวแปลงมาตรฐาน เราจะได้ หัวแปลง Digital Motorbar , ข้อต่อสำหรับดูดที่สูง , แปลงแบบ LASER , หัวดูดเก็บเส้นผม , แบบปากแคบ , ผ้าและที่นอน , แปลงขนาดเล็ก , ซึ่งถือว่าครบมากๆ และ ยังไม่รวม ข้อต่อแบบยาวที่สามารถถอดเป็นอีกหัวได้เช่นกัน ถือว่าเป็นการออกแบบที่ครบจริงๆ และ ตัวเครื่องก็สามารถดูดได้หลากหลายมากกว่าเดิมทั้ง ผ้า พรม พื้น และ เบาะโซฟา มุ้งลวดต่างๆ