เรื่องมีอยู่ว่า 
เราได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง คุยกันมาเรื่อยๆ นัดเจอกัน 
ทำความรู้จักกัน จนเป็นแฟนกัน
เราพาเค้ามาที่บ้าน มารู้จักครอบครัวเรา
แต่พอเราจะไปบ้านเค้า เค้าบ่ายเบี่ยงตลอด
เรากับเค้าอยู่กันคนละจังหวัดนะคะ
เค้าบอกกับเราว่าเคยแต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูก 
และซื้อบ้านร่วมกับภรรยาเก่า
ซึ่งยังมีปัญหาพัวพันกันอยู่
แฟนเราอาศัยอยู่ในบ้านนั้น
ส่วนผู้หญิงเค้ากลับไปนอนบ้านพ่อแม่
เค้าไม่ให้เราไปบ้านเค้า
เพราะบ้านนั้นเป็นเจ้าของร่วมกันกับแฟนเก่าเค้าอยู่ค่ะ
แฟนเราบอกว่า ให้เรารอ บ้านเป็นชื่อผู้หญิงค่ะ
เค้ากำลังทะยอยส่งเงินให้ผู้หญิงเพื่อซื้อบ้านไว้เองอยู่ 
ส่วนผู้หญิงคนนี้ก็เข้าๆออกๆ ไปๆมาๆตลอด  
ทำให้เราไม่ไว้ใจ และทะเลาะกับแฟนบ่อยๆ 
พอเราไม่เชื่อ เราสงสัย
แฟนเราก็ให้เราคุยกับผู้หญิงคนนั้นนะคะ 
ผู้หญิงก็ทำอาการแบบรำคาญเรา ต้องการอะไร
บอกว่าเลิกแล้ว จะเอาอะไร  -*-
เหมือนเราไปสร้างความรำคาญให้เค้าเลยค่ะ 
แต่เค้ายังวนเวียนตลอด เข้ามาเอาของ เสื้อผ้า 
เข้ามานั่งเล่น คือเค้าถือว่ามีสิทธิ์อยู่
เพราะแฟนเราก็ยังจ่ายเงินไม่ครบ
เค้าก็อ้างว่าบ้านเค้าเหมือนกัน 
เวลาที่แฟนเราไม่อยู่บ้าน เพราะออกไปเที่ยวกับเรา
ไปตจว.หลายวัน ไม่ได้กลับบ้าน
ผู้หญิงเค้าก็ชอบเข้ามาในบ้าน
มาถ่ายรูปเซลฟี่ในบ้านค่ะ 
เอาของเก่าๆที่แฟนเราเคยซื้อให้มาใส่
บางทีก็เอาเสื้อผ้าของแฟนเราไปใส่ถ่ายรูปลงโซเชียล
เอานาฬิกาไปยืมใส่ 
เราก็ทะเลาะกับแฟนค่ะ
ไม่เข้าใจว่าเขาทำแบบนี้ทำไม 
แฟนเราบอกว่า  จะให้ทำยังไงไปห้ามเขายังไง 
แฟนเราไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิงคนนั้นค่ะ 
เพราะกลัวจะเสียทรัพย์สมบัติไป 
เราบอกเลิกเค้าไปหลายครั้ง
เพราะทนการเข้าไปพัวพันกับวงจรนี้ไม่ไหว 
แต่เราก็รักเค้ามากนะคะ ไม่อยากเสียเค้าไปเลย 
แฟนเราบอกเรา ง้อเราตลอด ว่าให้เรารอเค้าอีกนิด
แต่เราจะอกแตกตายก่อนแล้วค่ะ 
เราคิดมาก คิดเล็กคิดน้อยเกินไปมั้ยคะ 
แฟนเราบอกว่า ปล่อยเค้าไปเถอะ จะไปสนใจทำไม
แต่เราหงุดหงิดไม่ชอบค่ะ ความอดทนไม่มากพอ
เราควรตัดใจ บอกเลิก แล้วถอยออกมาดีมั้ยคะ
หรือควรชินชากับการกระทำของแฟนเก่า
แล้วปล่อยเค้าไปดี