##ย้ายออกมา ตัดขาดกับแฟนเก่าแล้วนะคะ ตั้งแต่สิ้นปี เพิ่งมาอัพเดทค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าเรากับแฟนเก่า เคยคบกันและได้กู้ซื้อคอนโดร่วมกัน โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด รวมถึงการผ่อนด้วย แค่ยืมชื่อเรามากู้ร่วม แฟนเก่าเราตัวคนเดียวพ่อแม่เสียหมดแล้ว และไม่ค่อยสนิทกับญาติพี่น้องเท่าไหร่ และเขาอยากมีคอนโดเป็นของตัวเอง (ไม่อยากเช่า)
หลังจากกู้ผ่านและเข้ามาอยู่คอนโด เรารู้สึกกับเขาไม่เหมือนเดิมเพราะเรื่องทัศนคติ นิสัย เขาเป็นคนที่ชอบสะสมของเล่น และซื้อจนไม่มีเงินจะกินข้าว คลั่ง BNK ขนาดว่าบินไปหาตามงานต่างๆ ซื้อของ ยอมกินมาม่า คือเราไม่ติดถ้าทำแล้วมันไม่เดือดร้อน แต่มันเดือดร้อนไง เราคิดที่จะออกไปซื้อคอนโดอยู่เอง เพื่อจะได้แยกจากเขา ตัดขาดกันไป แต่ติดเงื่อนไขธนาคารต้องผ่อนให้ครบ 4 ปีก่อนถึงจะทำธุรกรรมได้ ซึ่งเราก็รอ โดยกำหนดครบ 4 ปีเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา เราก็หาคอนโดใหม่เพื่อเตรียมข้อมูล และได้มารู้ความจริงว่าช่วงสิ้นปี เขาตกงานถูกไล่ออกเนื่องจากปลอมแปลงเอกสารบริษัท และไม่ได้ผ่อนคอนโดมาเป็นเวลา 5 เดือน เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเราเลย และใช้ชีวิตปกติ มาตลอดเวลา 5 เดือน(ที่รู้เพราะมีจดหมายส่งกลับไปที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน แม่เราได้รับและตกใจกับเรื่องนี้มาก) จึงได้คุยกัน สรุปให้เขาไปคุยกับธนาคาร ตอนนี้ธนาคารให้กลับมาผ่อนเดือนละ 1,000 เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งเราจะไม่สามารถทำธุรกรรมอะไรได้เลยเนื่องจากติดบูโรไปด้วย ทั้งที่เราไม่เคยมีหนี้อะไรเลย นอกจากตรงนี้
เรื่องการพักอยู่อาศัย คอนโดนี้มี 2 ห้องนอน ตั้งแต่ย้ายเข้ามาเราแยกห้องนอนกับเขา และไม่ได้มีอะไร หรือโดนตัวด้วยซ้ำ คุยกันน้อยมาก ต่างคนต่างอยู่ เขาจะอยู่ในโลกของเขา และเราจะอยู่ในโลกของเรา
จนเราได้มีเจอกับผู้ชายคนนึง ช่วงเดือนเม.ย. คุยกันมาเรื่อยๆ เขาก็ถามเราอยู่ที่ไหนพักกับใคร เราชอบเขามากและกลัวว่าถ้าบอกความจริงแต่แรกเขาจะไม่ยอมคุยด้วย จึงโกหกว่าอยู่กับแม่ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ จนมาถึงวันนี้ เรารู้สึกผิด และเสียใจ อยากบอกความจริงกับเขามาก แต่เราไม่กล้า เราควรจะทำอย่างไร
เรารู้สึกรักเขาไปแล้ว และเขาก็รู้สึกรักเราเช่นกัน เราตั้งใจจะใช้ชีวิต วางแผนอนาคต และแต่งงานกับเขา
เราไม่อยากให้เขาเสียใจเลย เราควรทำอย่างไรดี🥲
จะบอกคนคุยอย่างไรดี ว่าเราพักอาศัยอยู่กับแฟนเก่า
เรื่องมีอยู่ว่าเรากับแฟนเก่า เคยคบกันและได้กู้ซื้อคอนโดร่วมกัน โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด รวมถึงการผ่อนด้วย แค่ยืมชื่อเรามากู้ร่วม แฟนเก่าเราตัวคนเดียวพ่อแม่เสียหมดแล้ว และไม่ค่อยสนิทกับญาติพี่น้องเท่าไหร่ และเขาอยากมีคอนโดเป็นของตัวเอง (ไม่อยากเช่า)
หลังจากกู้ผ่านและเข้ามาอยู่คอนโด เรารู้สึกกับเขาไม่เหมือนเดิมเพราะเรื่องทัศนคติ นิสัย เขาเป็นคนที่ชอบสะสมของเล่น และซื้อจนไม่มีเงินจะกินข้าว คลั่ง BNK ขนาดว่าบินไปหาตามงานต่างๆ ซื้อของ ยอมกินมาม่า คือเราไม่ติดถ้าทำแล้วมันไม่เดือดร้อน แต่มันเดือดร้อนไง เราคิดที่จะออกไปซื้อคอนโดอยู่เอง เพื่อจะได้แยกจากเขา ตัดขาดกันไป แต่ติดเงื่อนไขธนาคารต้องผ่อนให้ครบ 4 ปีก่อนถึงจะทำธุรกรรมได้ ซึ่งเราก็รอ โดยกำหนดครบ 4 ปีเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา เราก็หาคอนโดใหม่เพื่อเตรียมข้อมูล และได้มารู้ความจริงว่าช่วงสิ้นปี เขาตกงานถูกไล่ออกเนื่องจากปลอมแปลงเอกสารบริษัท และไม่ได้ผ่อนคอนโดมาเป็นเวลา 5 เดือน เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเราเลย และใช้ชีวิตปกติ มาตลอดเวลา 5 เดือน(ที่รู้เพราะมีจดหมายส่งกลับไปที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน แม่เราได้รับและตกใจกับเรื่องนี้มาก) จึงได้คุยกัน สรุปให้เขาไปคุยกับธนาคาร ตอนนี้ธนาคารให้กลับมาผ่อนเดือนละ 1,000 เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งเราจะไม่สามารถทำธุรกรรมอะไรได้เลยเนื่องจากติดบูโรไปด้วย ทั้งที่เราไม่เคยมีหนี้อะไรเลย นอกจากตรงนี้
เรื่องการพักอยู่อาศัย คอนโดนี้มี 2 ห้องนอน ตั้งแต่ย้ายเข้ามาเราแยกห้องนอนกับเขา และไม่ได้มีอะไร หรือโดนตัวด้วยซ้ำ คุยกันน้อยมาก ต่างคนต่างอยู่ เขาจะอยู่ในโลกของเขา และเราจะอยู่ในโลกของเรา
จนเราได้มีเจอกับผู้ชายคนนึง ช่วงเดือนเม.ย. คุยกันมาเรื่อยๆ เขาก็ถามเราอยู่ที่ไหนพักกับใคร เราชอบเขามากและกลัวว่าถ้าบอกความจริงแต่แรกเขาจะไม่ยอมคุยด้วย จึงโกหกว่าอยู่กับแม่ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ จนมาถึงวันนี้ เรารู้สึกผิด และเสียใจ อยากบอกความจริงกับเขามาก แต่เราไม่กล้า เราควรจะทำอย่างไร
เรารู้สึกรักเขาไปแล้ว และเขาก็รู้สึกรักเราเช่นกัน เราตั้งใจจะใช้ชีวิต วางแผนอนาคต และแต่งงานกับเขา
เราไม่อยากให้เขาเสียใจเลย เราควรทำอย่างไรดี🥲