ผมอยากทราบความเห็นของเพื่อนๆนะครับ ว่าคิดยังไงบ้าง
กับการซื้อคอนโดห้องใหญ่ เช่น 60-80 ตรม. ราคา 10-15 ล้าน ในตึกที่มี Segment แค่ระดับ Mid-Upper
ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ Life, Ideo, The Line, The Tree ราคา ตรม. ละประมาณ 100,000 - 150,000 บาท
ซึ่งสิ่งที่ผมมองว่าเป็นประเด็นคือ
1. คอนโดใน Segment ระดับนี้ มักจะมีจำนวนยูนิตเยอะ (มากกว่า 500 ยูนิต) ทำให้ระยะยาวดูแลตึกยาก เพราะมากคนก็มากความ การจะหารือเพื่อแก้ไขปัญหาบางอย่างภายในก็ทำได้ยากกว่า คอนโดที่มียูนิตน้อยๆ ในระดับ Segment ที่สูงกว่า
2. เพื่อนบ้านมาจากหลากหลายระดับ กล่าวคือ คอนโดเหล่านี้ มักมีห้องราคาเริ่มต้น ประมาณ 3-4 ล้าน (พวกห้อง Studio ไม่เกิน 30 ตรม.) ซึ่งในขณะที่คุณจ่าย 10 ล้าน เพื่อที่จะได้อยู่ตึกเดียวกัน ใช้ส่วนกลางเดียวกัน ที่จอดรถเดียวกัน คุณรับได้หรือไม่
3. ด้วยความที่ห้องราคาเริ่มต้นไม่แพง ก็ทำให้มีนักลงทุนสายปล่อยเช่ามาลงทุนเยอะ ซึ่งเขาเหล่านี้ก็ไม่เคยจะมาสนใจใยดีการบำรุงรักษาตึกอยู่แล้ว เพราะนี่ไม่ใช่บ้านเขา เป็นแค่การลงทุนที่วัดกันที่ตัวเลขเท่านั้น ดังนั้นการประชุมก็จะหาข้อยุติได้ยาก รวมถึงกลุ่มผู้เช่าก็เป็นเพียงการมาอยู่ชั่วคราว การใช้งานส่วนกลางก็คงไม่ทะนุถนอมเหมือนกับคนที่เป็นลูกบ้านจริงๆ ดังนั้นส่วนกลางในคอนโดเหล่านี้มักจะโทรมไว ยิ่งโดยเฉพาะบางแบรนที่ตั้งค่าส่วนกลางไว้แต่แรกไม่แพง แต่ส่วนกลางอลังการมาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง พออยู่ๆจะขอขึ้นค่าส่วนกลางก็ทำไม่ได้อีก เพราะนักลงทุนปล่อยเช่าเต็มตึก พวกนี้ก็ไม่ยอมให้ขึ้นค่าส่วนกลางอยู่แล้ว เพราะทำให้ต้นทุนเขามากขึ้น ดังนั้นส่วนกลางจะยิ่งโทรมขึ้นไปอีก (สำหรับบางแบรนด์ ไม่ขอเอ่ยนาม)
ผมเลยอยากถามความเห็นทุกคนว่า คอนโดใน Segment นี้เหมาะที่จะมาใช้เป็นที่อยู่อาศัยแบบถาวรมั้ย เช่น ซื้อห้องใหญ่ 2-Bedroom พาครอบครัวมาอยุ่ด้วยเลย
การมีห้องใหญ่ที่มันอยุ่ได้จริงทั้งครอบครัว เหมือนมีบ้านกลางเมืองมันก็สะดวกนะ ลูกก็ไปโรงเรียนง่าย ตัวเราเองก็ไปทำงานสะดวก พ่อแม่มาอยู่ด้วยก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
แต่คำถามคือสิ่งแวดล้อมต่างๆภายในโครงการเหล่านี้ เหมาะในการทำรัง เพื่อสร้างบ้านสร้างชีวิตจริงแบบถาวรหรือไม่
ถ้าคุณมี Option ในการ
1. ซื้อบ้านนอกเมือง แบรนดีๆ เช่น มัณฑนา, บางกอกบูเลอวาด, The Palm ผสมกับการซื้อห้องเล็กอยู่กลางเมืองเช่นห้อง Studio เอาไว้ซุกหัวนอนเฉพาะวันทำงาน และวันเสาอาทิตย์ ก็กลับบ้านไปใช้ชีวิตแบบจริงจังอยู่ชานเมือง
2. ซื้อคอนโดกลางเมืองห้องใหญ่ 2 Bed ในคอนโดระดับ Segment ที่เล่ามา แล้วใช้ชีวิตกลางเมืองไปเลย
คุณจะเลือกแบบไหน
ป.ล. ขอไม่พูดถึงคอนโด Segment Luxury นะครับ เพราะราคาเราเอื้อมไม่ถึง แม้ว่ามันจะดีจริง ยูนิตน้อย สังคม exclusive จริงจัง เหมาะกับการซื้อ 2-Bedroom เป็นอย่างมาก (พูดง่ายๆว่า Segment มันถึง มันน่าอยู่แบบของจริง) และคอนโดระดับ Luxury ก็มักจะไม่เหมาะกับการซื้อ 1-Bedroom ซะด้วยเพราะเวลาขายต่อ ไม่ค่อยมี Value เนื่องจากใน Segment ระดับนี้ คนรวยๆมักไม่ชอบห้องเล็ก คือมันขายต่อลำบากนั่นแหละถ้าเราซื้อห้องเล็กในคอนโดที่มัน Luxury
การซื้อคอนโด ห้องใหญ่ (2 Bedroom) ในตึกที่ Segment ระดับ Middle-Upper แท้จริงแล้วน่าอยู่แค่ไหน
กับการซื้อคอนโดห้องใหญ่ เช่น 60-80 ตรม. ราคา 10-15 ล้าน ในตึกที่มี Segment แค่ระดับ Mid-Upper
ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ Life, Ideo, The Line, The Tree ราคา ตรม. ละประมาณ 100,000 - 150,000 บาท
ซึ่งสิ่งที่ผมมองว่าเป็นประเด็นคือ
1. คอนโดใน Segment ระดับนี้ มักจะมีจำนวนยูนิตเยอะ (มากกว่า 500 ยูนิต) ทำให้ระยะยาวดูแลตึกยาก เพราะมากคนก็มากความ การจะหารือเพื่อแก้ไขปัญหาบางอย่างภายในก็ทำได้ยากกว่า คอนโดที่มียูนิตน้อยๆ ในระดับ Segment ที่สูงกว่า
2. เพื่อนบ้านมาจากหลากหลายระดับ กล่าวคือ คอนโดเหล่านี้ มักมีห้องราคาเริ่มต้น ประมาณ 3-4 ล้าน (พวกห้อง Studio ไม่เกิน 30 ตรม.) ซึ่งในขณะที่คุณจ่าย 10 ล้าน เพื่อที่จะได้อยู่ตึกเดียวกัน ใช้ส่วนกลางเดียวกัน ที่จอดรถเดียวกัน คุณรับได้หรือไม่
3. ด้วยความที่ห้องราคาเริ่มต้นไม่แพง ก็ทำให้มีนักลงทุนสายปล่อยเช่ามาลงทุนเยอะ ซึ่งเขาเหล่านี้ก็ไม่เคยจะมาสนใจใยดีการบำรุงรักษาตึกอยู่แล้ว เพราะนี่ไม่ใช่บ้านเขา เป็นแค่การลงทุนที่วัดกันที่ตัวเลขเท่านั้น ดังนั้นการประชุมก็จะหาข้อยุติได้ยาก รวมถึงกลุ่มผู้เช่าก็เป็นเพียงการมาอยู่ชั่วคราว การใช้งานส่วนกลางก็คงไม่ทะนุถนอมเหมือนกับคนที่เป็นลูกบ้านจริงๆ ดังนั้นส่วนกลางในคอนโดเหล่านี้มักจะโทรมไว ยิ่งโดยเฉพาะบางแบรนที่ตั้งค่าส่วนกลางไว้แต่แรกไม่แพง แต่ส่วนกลางอลังการมาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง พออยู่ๆจะขอขึ้นค่าส่วนกลางก็ทำไม่ได้อีก เพราะนักลงทุนปล่อยเช่าเต็มตึก พวกนี้ก็ไม่ยอมให้ขึ้นค่าส่วนกลางอยู่แล้ว เพราะทำให้ต้นทุนเขามากขึ้น ดังนั้นส่วนกลางจะยิ่งโทรมขึ้นไปอีก (สำหรับบางแบรนด์ ไม่ขอเอ่ยนาม)
ผมเลยอยากถามความเห็นทุกคนว่า คอนโดใน Segment นี้เหมาะที่จะมาใช้เป็นที่อยู่อาศัยแบบถาวรมั้ย เช่น ซื้อห้องใหญ่ 2-Bedroom พาครอบครัวมาอยุ่ด้วยเลย
การมีห้องใหญ่ที่มันอยุ่ได้จริงทั้งครอบครัว เหมือนมีบ้านกลางเมืองมันก็สะดวกนะ ลูกก็ไปโรงเรียนง่าย ตัวเราเองก็ไปทำงานสะดวก พ่อแม่มาอยู่ด้วยก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
แต่คำถามคือสิ่งแวดล้อมต่างๆภายในโครงการเหล่านี้ เหมาะในการทำรัง เพื่อสร้างบ้านสร้างชีวิตจริงแบบถาวรหรือไม่
ถ้าคุณมี Option ในการ
1. ซื้อบ้านนอกเมือง แบรนดีๆ เช่น มัณฑนา, บางกอกบูเลอวาด, The Palm ผสมกับการซื้อห้องเล็กอยู่กลางเมืองเช่นห้อง Studio เอาไว้ซุกหัวนอนเฉพาะวันทำงาน และวันเสาอาทิตย์ ก็กลับบ้านไปใช้ชีวิตแบบจริงจังอยู่ชานเมือง
2. ซื้อคอนโดกลางเมืองห้องใหญ่ 2 Bed ในคอนโดระดับ Segment ที่เล่ามา แล้วใช้ชีวิตกลางเมืองไปเลย
คุณจะเลือกแบบไหน
ป.ล. ขอไม่พูดถึงคอนโด Segment Luxury นะครับ เพราะราคาเราเอื้อมไม่ถึง แม้ว่ามันจะดีจริง ยูนิตน้อย สังคม exclusive จริงจัง เหมาะกับการซื้อ 2-Bedroom เป็นอย่างมาก (พูดง่ายๆว่า Segment มันถึง มันน่าอยู่แบบของจริง) และคอนโดระดับ Luxury ก็มักจะไม่เหมาะกับการซื้อ 1-Bedroom ซะด้วยเพราะเวลาขายต่อ ไม่ค่อยมี Value เนื่องจากใน Segment ระดับนี้ คนรวยๆมักไม่ชอบห้องเล็ก คือมันขายต่อลำบากนั่นแหละถ้าเราซื้อห้องเล็กในคอนโดที่มัน Luxury