ตั้งแต่เด็ก เรียน มีการศึกษา เราถูกสั่งสอนให้กตัญญูต่อ พ่อ แม่ หากใครมาว่าพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง วงตระกูลของเรา เราก็ควรจะปกป้องไช่หรือไม่ จากครอบครัวที่เคยอบอุ่น บ้านที่เคยสงบ เป็นที่รวมญาติในช่วงเทศกาลหยุดยาวในทุกๆปี วันนึงผมก็ได้พาผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาในฐานะสะใภ้นั่นแหละ ก็ด้วยช่วงวัยรุ่นนั่นแหละครับ ก็มีลูกเกิดขึ้นมาในฐานะที่ผมเป็นผู้ชายก็ต้องบอกทางบ้านรับผิดชอบตามสมควร ก็ไม่ได้มีอะไรทางบ้านปมรับผิดชอบเป็นอย่างดี ความสะดวกสบายยิ่งกว่าบ้านที่เขาอยู่ จากที่เคยนอนพัดลมได้มานอนห้องแอร์ จากที่ไปไหนมาไหนต้องรอรถขนส่งสาธารณะก็มีรถนั่งส่วนตัว จากที่เคยต้องกู้ กยศ เรียนในระดับปริญญาตรี ซึ่งตอนนั้นเหลืออีกประมาณ 1 ปีจบทางบ้านผมก็บอกไม่ต้องกู้แล้วและให้เงินสดเป็นค่าเทอมไปจ่าย ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่วันนึงแม่ผมเขาก็ออกไปหาสังคมของเขาก็เป็นเรื่องปกติ แต่สะใภ้คนนี้เริ่มโวยวายด่าว่าแม่ต่อหน้าผมว่า "ออกไปอีกละกลับมาก็บอกว่าเงินหมดไม่มีเงินจะให้เขา" เป็นอย่างี้อยู่บ่อยครั้ง ผมก็เลยบอกว่าทุกวันนี้ถ้าเราไม่ได้เขาเราก็ไม่รู้จะเป็นยังไงเลย นั่นเงินของเขาเขาจะไปทำอะไรก็เรื่องของเขา แต่ก็นั่นแหละครับก็นึกว่าจะเข้าใจ แต่ก็เหมือนเดิมจนหลังๆเริ่มหนักขึ้นโวยวาย เสียงดังแบบทั้งหมู่บ้านก็คงได้ยิน บ้านผมไม่เคยมีเหตุการณ์นี้มาก่อน หนักสุดคือว่าแม่ผมเป็น
ผมในฐานะลูกโดยสัญชาติญาณแน่นอนครับว่ามันไม่ไหวแล้ว มันไม่ไช่แล้วแบบนี้(ถ้าคุณเป็นผมจะทำอย่างไร) และก็ยังมีคำด่าอื่นๆมาเรื่อยๆ ว่าโคตรวงตระกูลของผมไม่ดีบ้างไรบ้าง ในใจผมตอนนั้นดิ่งมากและบอกพอแล้วกับผู้หญิงคนนี้ ถ้าทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้อย่าลืมหัวข้อกระทู้นี้นะครับต่อไปนี้จะเป็นจุดพีคสำหรับผมในเรื่องราวนี้... ในทุกๆครั้งที่ผมออกตัวปกป้อง สิ่งที่เกิดขึ้นคือแม่ผมไปเข้าข้างเขาครับเพราะเขาใช้สิทธ์ความเป็นแม่ของลูกอ้างจะพาหลานไปจากแม่ผม และกลายเป็นว่าผมที่โมโหเขาที่ม่าด่าแม่ผมกำลังเป็นฟืนเป็นไฟ กลับถูกแม่ของผมแท้ๆด่าและไล่แบบไม่มีเยื่อใย จนกระทั่งเมื่อ 5 ปีก่อนผมตัดสินใจออกจากบ้านและไม่คิดกลับไปอีก ต้องจากลูกที่รักบ้านที่รัก สาเหตุที่ทำให้ผมเลือกที่จะออกมากครับเรื่องที่ผมเล่ามาก็เป็นส่วนนึง แต่ที่ตัดสินใจเด็ดขาดจริงๆคือเรื่องเงินเมื่อผมได้มารู้เรื่องราว คือผมเคยยืมเงินทางบ้านเขามา 20000 ครับโดยช่วงแรกก็ผ่อนจ่ายทุกเดือนเดือนละ 1000 บาทผ่านไป 10 เดือนเหลือ 10000 บาทซึงตอนนั้นที่เหลือผมเลยบอกว่าโบนัสที่ทำงานกำลังจะออกจะให้ทีเดียวเลย และผมก็ให้ไปโดยฝากมือเขาจากตอนนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 4 ปีผมได้รู้ความจริงว่าเงินจำนวนนั้นไม่ได้ถูกเอาไปคืน ผมโดนต่อว่าหาว่าผมเป็นคนโกงตบอดระยะเวลาที่ผ่านมาโดยที่ผมไม่รู้เรื่องเลยเพราะไม่มีใครเคยเอ่ยเคยถาม ก็เอาเป็นว่าผมก็เลือกที่จะออกมาแต่ผมก็จะได้ยินข่าวอยู่ตลอดเวลา แม่แท้ๆของผมเองชอบว่าผมให้คนนั้นโน้นที่รู้จักผมว่าผมเป็นลูกชั่วอกตัญญู ทิ้งลูก ไม่สนใจครอบครัว ไปเสวยสุขกับผู้หญิงอื่น ผมได้ยินบอกตามตรงครับว่าน้อยใจมากๆ ทั้งๆที่ตอนผมอยู่ไข่ครับช่วงแรกๆผมอาจจะแบ่งเบาอะไรไม่ได้ แต่พอผมมีการงานที่ดีทำผมก็รับผิดชอบอย่างเต็มที่กับลูก ค่าเทอม ค่ากิน ค่าไปเที่ยว ต่างๆ กลับกันกับคนเป็นแม่ของลูก ไม่คิดจะรีบผิดชอบหรือแบ่งเบาภาระอะไรเขาเลย มีแต่จะขอเงินเสียด้วยซ้ำ จนเมื่อ 2 ปีที่แล้วช่วงเดือนตุลาคม 2563 เหมือนเดิมครับยังทะเลาะกันอยู่แต่คราวนี้หนักมาก จากที่ออกมาก็ประมาณ 3 ปีแล้วแม่ผมไม่เคยโทรมา ไม่เคยติดต่อ อยู่ดีๆวันนึงก็โทรเข้ามาและก็มาระบายว่าไม่ไหวแล้วอยากเอาหลานไปไหนก็เชิญเลย มีคนเตือนผมหลายคนญาติพี่น้องว่าอย่ายุ่งอย่าไปเชื่อง่าย แต่ผมสงสารลูกเพียงเพราะความเอาแต่ใจ เอาแต่ได้ ของคนๆนึงที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของลูก ถูกช่วยเหลือในวันที่ลำบาก ผมก็เลยคิดว่าแม่ผมคงคิดได้แล้ว และเข้าไปเคลียให้ ผมก็ได้เจอลูกคุยกับลูกด้วย และเขาคนนั้นก็บอกกับผมว่าจะนัด อย่า แต่พอผมไปลางานไป กลับบอกถ้าจะ อย่า ต้องให้ค่าเลี้ยงดูกับเขาเดือนละ 20000 ก็เอาลูกมาอ้างอีกทั้งๆที่ผ่านมาเขาไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย และก็เข้าสเต็ปเดิมครับ แม่ผมไปเข้าข้างเขาเหมือนเดิม หาว่าที่ผมอยากอย่าเพราะไปติดผู้หญิงอื่น ขนาดผมพาลูกพี่ลูกน้องที่เป็นน้องสาวไปหาลูกเป็นเพื่อน(หลานแม่ผมแท้ๆ) ยังโดนหาว่าเป็นเมียน้อยเลยครับ ปัจจุบันซื้อรถให้เขาส่วนตัวแม่ผมเองใช้รถเก่าๆ โอนบ้านที่ดินไปแล้วเป็นชื่อเขา และตอนนี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังให้เขาคนนั้นฟ้องร้องผม ต้องขึ้นศาล โดยเป็นพยานให้เขา และฟ้องร้องน้องที่สนิทกันเป็นผู้หญิงหาว่าเป็นชู้ทำให้ครอบครัวแตกแยก รวมมูลค่าล้านกว่าบาท เจอหน้าผมก็ด่าว่าที่ศาล สาปแช่ง ลูกชั่วลูกอกตัญญู เพียงเพราะผมไม่อยู่ในคอนโทรลเขา จริงๆที่ผมพิมพ์มาทั้งหมดนี้ในรายละเอียดก็มีรายละเอียดอีกถ้าจะให้ระเอียดทั้งหมดก็คงจะไม่ได้ทำอะไรเลยหลยาวันนี้ บางทีผมก็คิดนะรู้งี้ผมปล่อยให้เขาด่าแม่ผม หูทวนลมสะดีกว่า ผมก็แค่ได้เจอลูกก็พอ
*เหนื่อยและท้อมากครับกับการที่เราต้องสู้กับคนที่ได้ชื่อว่าผู้ให้กำเนิด*
แม่ที่ไปเข้าข้างคนอื่นและคอยสาปแช่งลูกตัวเอง(ยังไช่แม่เราอยู่ไหม?)
*เหนื่อยและท้อมากครับกับการที่เราต้องสู้กับคนที่ได้ชื่อว่าผู้ให้กำเนิด*