สวัสดีค่ะ วันนี้เบลจะมาแชร์ประสบการณ์ การจัดฟันมาทั้งชีวิต😂 อายุ 32ปี จัดฟันมาแล้วกี่ครั้ง ไปฟังกันเลย 
เริ่มต้นด้วยเราเป็นเด็กผู้หญิงที่โดนเพื่อนล้อมาทั้งชีวิตเรียก จอบบ้างละ  เหยินบ้างละ  เจ็บใจ ทำไมมองไม่เห็นความส๊วย5555 
จึงเริ่มจัดฟันครั้งแรกตอนป.3 ใช่ค่ะ ฟังไม่ผิด ป.3จ้าแม่ หมอบอกให้ใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้เพื่อพยุงฟัน ในใจนั้นงงหนักมาก เพราะฟันน้ำนมบางซี่ยังไม่หลุดเลย  แต่ก็เคลียร์ช่องปากตามที่หมอสั่งแล้วใส่ๆไป  คิดว่าเดี๋ยวคงได้ผลแระเพราะปัญหาที่มองจากภายนอกมีแค่ฟันหน้ายื่น ไม่มีปัญหาฟันเก ฟันซ้อนใดๆจนใช้เวลาจัดฟันเสร็จประมาณ1ปี หลังจากนั้นฟันน้ำนมหลุด ฟันแท้ขึ้น กลับมาเหยินเหมือนเดิม5555555555
อยากจะกลับไปทุบหมอจริงๆ โดนหลอกจนได้  เลยปล่อยเลยตามเลย จนเข้าสู่วัยรุ่น ช่วงอายุ13-14จะโดนเพื่อนล้อหนักมาก  
เราก็เริ่มมองตัวเองทำไมชั้นไม่สวยหรอ  ปัญหาเดียวที่มีเลยคือฟัน


(ช่วงสมัยจัดฟันแรกๆ ขออภัยในความดีซ่านของไฟ555555)

จึงตัดสินใจกลับไปคิดจะจัดฟันอีกครั้ง  
แต่รอบนี้ความตั้งใจคือจะจัดแบบจริงจังแบบถอดไม่ได้  จนได้ไปเจอคลีนิคนึง คุยรายละเอียดกับหมอคือต้องเคลียร์ช่องปากใดๆ
ไม่ว่าจะเป็น ขูดหินปูน อุดฟัน เอ็กซเรย์ช่องปาก  พิมพ์ฟัน  ถ่ายรูปทำประวัติ  แต่หมอบอกว่าของเราไม่ต้องถอน 
และที่งงหนักมากคือหมอบอกว่าไม่ต้องถอนฟันคุดซึ่งเรามีถึง4ซี่  ก็จัดการทำตามที่หมอสั่ง โดนค่านู้นนี่นั่นเบ็ดเสร็จไปเยอะอยู่เหมือนกัน  
จนมาถึงวันที่ติดเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายราวๆ 10,000บาท วันใส่เครื่องมือ  และจะมีค่าเปลี่ยนยางอีกเดือนละประมาณ1,000บาทไปเรื่อยๆ จนจัดเสร็จ ในกรณีที่เครื่องมือไม่หลุด ทุกอย่างดูง่ายไม่ได้เจ็บจนทรมานเหมือนที่อ่านมาจากอินเตอร์เน็ต  
นี่ยังแอบคิดในใจฟันมันจะเข้าที่จริงๆหรอ  เราใช้เวลาจัดฟันกับที่นี่หลายปีมาก  ผลลัพธ์ที่ได้ เรียกได้ว่าเหยินน้อยกว่าเดิม แต่ก็ยังเหยินอยู่ดี555555 
เปลี่ยนยางแต่ละที แทบไม่มีความตึงของยางหรือลวดที่ดึงฟันเลย  นี่คิดแล้ว ตูต้องโดนอีกแล้ว  ทิ้งไว้นานกว่านี้ปังแน่ๆปังปินาสอ่ะ 🤣 อย่าหาทำ 
รอจนถึงเวลาหมอบอกให้ถอดเหล็ก เพราะหมอเปรยๆไว้แล้วว่า “ หมอว่าใกล้จะได้ถอดเหล็กแล้ว “ หมอออออ!!!!ล้อเล่นใช่มั้ย ฟันยังเหมือนแก้วหน้าม้าอยู่เลย บ้าบอมาก



(ดูด้านหน้าฟันเหมือนจะเข้าที่ไม่เหยินแต่ดูด้านข้างยังเหยินอยู่เลย เอาอะไรมาถอดเหล็กก่อนหมออออออออ)

นี่จะไม่ทน รีบติดต่อขอพิมพ์ฟันเพื่อย้ายไปคลีนิคอื่นด่วน  จึงเป็นที่มาในการเริ่มต้นนับ1จัดฟันใหม่อีกครั้ง  
ไปให้สุดแล้วหยุดที่กรอบบบบบบบ  จ่ายเยอะจนกรอบแล้วจ้าแม่  สวยสักทีเถอะ กราบบบบบ มูฟไปอีกคลีนิคนึง 
ทีนี้หมอจัดแจงถอดเครื่องมือออกหมดเพื่อติดใหม่ เคลียร์ช่องปากใหม่หมด มีโดนถอนฟันแท้ไปถ้าจำไม่ผิดประมาณ4ซี่ เพื่อเพิ่มช่องว่างในการดึงฟันให้เข้า โหดแท้ไหนจะถอนรากถอนโคนฟันคุดทั้งปาก  เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดในภายหลัง  จนพร้อมในการติดเครื่องมือ  
ที่นี่เป็นที่ๆจัดแล้วรู้สึกถึงคำว่านรกมีจริง ติดเครื่องมือตรึงด้วยลวดและยางเสร็จ มันตึงมากแม่ ร้าวทั้งปากชนิดที่ว่ากินได้แค่ข้าวต้มประมาณอาทิตย์นึง 
น้ำหนักลดกันเลยทีเดียว โคตรทรมาน สบฟันยังเจ็บเลย ดึงฟันโคตรโหด จนรู้สึกว่าฟันมันจะล้มมั้ยถ้าดึงด้วยลวดและยางแรงขนาดนี้แต่ก็ทนๆไป
จนจัดฟันเสร็จ วันที่ฝันเป็นจริงก็มาถึงนั่นคือวันที่หมอบอกว่าจะถอดเหล็กแล้วใส่รีเทนเนอร์แล้วนะ
 
นี่แบบดีใจมากๆ จบสิ้นกันซะที หารู้ไม่หายนะเพิ่งเริ่มต้นเพราะหลังจากนั้นต้องขยันใส่ ขยันเก็บ หายบ้างละ ลืมใส่บ้างละ ไหนจะเรื่องรีเทนเนอร์แตกบ่อยๆ อาจเกิดจากสาเหตุนอนกัดฟัน  หรือฟันผิดรูปตั้งแต่แรกเริ่ม  รีเทนเนอร์ชิ้นเดียวทั้งชีวิตไม่มีอยู่จริง  เสียตังค์ทำรีเทนเนอร์ใหม่บ่อยโคตร  
ร้ายแรงสุดคือไปบ้านญาติที่ต่างจังหวัดแล้วลืมทิ้งไว้  กว่าเค้าจะว่างส่งพัสดุกลับมาให้ กว่าจะถึงใช้เวลาหลายวัน ทีนี้พอจะใส่ มันเหมือนยัดไม่เข้า 
เอาแล่วอย่าบอกนะว่าฟันล้ม ม่ายๆ ยัดๆเข้าไป โคตรทรมานบอกเลย ตึงฟันมาก ชัดเลยฟันล้มแล้ว TT แต่จะให้จัดฟันใหม่ค่าใช้จ่ายบานตะไทมากกว่าจะจบเคส จ่ายเบ็ดเสร็จร่วมแสน  
แต่ทำยังไงได้อ่ะก็มันต้องจัดใหม่จริงๆ แต่รอบนี้ใจคือไม่อยากใส่เหล็กจัดฟันที่แบบเห็นเหล็กแล้วเพราะเราเริ่มทำงานในวงการบันเทิง  
ที่ทำทุกวันคืองานถ่ายแบบแล้วเหล็กจัดฟันมันคืออุปสรรคต่องาน  จึงเริ่มมองหาข้อมูลการจัดฟันแบบใส  ศึกษาหาข้อมูลอย่างดี แบบละเอียดยิบๆ 
จนได้มาเจอกับแบรนด์ Beforedent จากเกาหลี



ออกแบบการจัดฟันตามปัญหาของลูกค้าแต่ละเคส  แถมราคาไม่แรงถูกกว่าจัดฟันแบบปกติอีก งงมากแม่ เพราะราคาไม่ถึง4หมื่น 
แถมตอบโจทย์เบลทุกอย่างในด้านข้อดีข้อเสีย ปกติคนจัดฟันแบบเหล็กปกติข้อเสียคือคุณต้องเข้าไปพบแพทย์ 
เพื่อเปลี่ยนยางปรับลวดทุกเดือนเสียเวลานั่งรอคิว ละคลีนิคของเบลคือต้องโทรนัดหมอตอน8โมงเช้า คือนี่ก็ถ่ายงานจนเช้าแล้วนะบางที แทนที่จะได้นอนคือต้องอดนอนเพื่อรอโทรนัดทำฟันแล้วเข้าไปนั่งรอคิวอีก ทำแบบนี้ทุกเดือน  เบื่อมาก  
แต่การจัดฟันใสของที่นี่คือไม่ต้องพบหมอเพื่อเข้ามาอัพเดทเครื่องมือทุกเดือน  แค่เข้ามาคลีนิคครั้งเดียวเพื่อสแกน ตรวจฟัน 
หลังจากนั้นสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ได้เองที่บ้านตามที่คู่มือแนะนำ และสามารถติดตามผลออนไลน์ได้ด้วย  
ข้อดีอีกข้อนอกจากเรื่องราคาที่ถูกกว่า  ไม่เสียเวลาไปหาหมอทุกเดือนแล้ว คือเรื่องหลังเปลี่ยนเครื่องมือไม่ตึงฟัน จนทรมาน  เพราะอย่างที่บอกหากเราเคยติดเครื่องมือจัดฟันแบบเหล็กธรรมดา หลังอัพเดทเปลี่ยนลวดเปลี่ยนยางกับหมอแล้ว  ทรมานมากหลังเปลี่ยน มันตึงไปทั้งปาก กินอะไรแทบไม่ได้ 
แต่ที่นี่ไม่เลย  ไม่ทรมานใดๆทั้งนั้น เพราะเค้าใช้หลักการแรงดันอย่างสม่ำเสมอในการขับเคลื่อนตำแหน่งฟัน แถมเครื่องมือครอบแน่นสนิทกับตัวฟันทำให้มีความรู้สึกเจ็บหรือตึงน้อยกว่าแบบปกติทุกครั้งในการปรับเครื่องมือนั่นเอง 





(ปัจจุบันดูแทบไม่ออกว่าจัดฟันแบบใส  ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน)
 
 
เค้ายังใช้เทคโนโลยีสุดล้ำในการออกแบบการรักษาด้วยระบบ 3 มิติ เพื่อที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการรักษา 
เพื่อการเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนอีกด้วยจัดฟันที่ทั้งไม่แพง ทั้งสวย และไม่ทรมานมีอยู่จริง   

หวังว่ากระทู้นี้คงถูกใจเพื่อนๆไม่มากก็น้อย ไว้พบกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ บ๊ายบาย