ประสบการณ์การเรียนที่ สถาบันทางไกล มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

สวัสดีครับ พูดคุยกันครับ วันนี้วันดี 10-10-2565 จะขอเป็นนักเล่าเรื่อง เรื่องแรกในชีวิต ผมจะตั้งชื่อเรื่องว่า "มนต์รัก มกธ." ละกันเนอะง่ายดี
 
ก่อนอื่นผมขอใช้เป็นนามสมมุติละกันเนอะ ชื่ออะไรดีน้า ชื่อเอละกัน ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มนักศึกษาทางไกล ที่เข้ามาศึกษาในระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ก่อนหน้านี้ เคยคิดว่าไม่อยากไปมหาลัย เพราะไม่มีเพื่อน ไม่รู้จักใคร ถ้าไปคงเหว๋อน่าดู 
 
เนื่องจากผมเข้าเรียนในช่วงปลายปี 2563 โควิดกำลังระบาดหนัก ทำให้ไม่ได้ไปมหาลัยเลย แอบมีงอนระบบนิดนึงตรงที่ ออกเกรดค่อนข้างช้ามากในช่วงเทอมแรกๆ และหลังจากนั้นก็มีบุคลากรเข้ามาช่วยดูแลมันก็ผ่านไปด้วยดี (ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าสาเหตุที่มาเรียนปริญญาโทที่นี่ เพราะผมเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง สจ.ในจังหวัดๆนึงของภาคกลาง ที่มีวัดเยอะๆ 555) แต่สอบตกนะ ก็เลยคิดว่าเรียนไปเพื่อเอามาต่อยอดในอนาคต
 
2 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก การเรียนในภาคเรียนสุดท้ายก็มาถึง ในการทำสารนิพนธ์ เพื่อขอจบการศึกษา ทำให้พวกเราต้องเข้าไปติดต่อกับมหาวิทยาลัยมากขึ้น แล้วใครจะรู้ล่ะ ว่านั้นล่ะ คือการไปมหาวิทยาลัยครั้งแรกของผมเลย (ปล คือก่อนหน้านี้ทาง ผอ.ทางไกล มีไลน์กลุ่มสำหรับติดต่องานและมีแอดมินทางไกล คอยดูแลอยู่ ซึ่งผมก็ทักไปถามส่วนตัว เธอก็ให้คำตอบตามปกติ ในรูปแบบ นศ  กับ จนท ทั่วไป)
แต่ประเด็น สำคัญคือ สวยครับ ตอนนั้นไม่ได้สนใจหรอก แต่พอไปถึงมหาวิทยาลัย ทำให้ผมไม่อยากกลับบ้านเลย เพราะเป็นการเห็นจนท คนนั้นครั้งแรก เธอดูหยิ่งๆนะ แต่น่ารักมากๆ(น่ารักทะลุแมส 555) ผมกับเพื่อนผมนั่งมองหน้ากันและบอกว่า "ใช้ได้ว่ะ" (เพื่อนคนแรกเจอกันตอนไปรอพบอาจารย์นี่ละ) ก่อนหน้านี้คุยแชทไม่เคยเจอกัน
 
แต่เหตุการณ์มันเกิดขึ้นหลังจากนั้น เนื่องจาก ผมแอบชอบเธอเข้าซะแล้ว เพราะว่าน่าจะรุ่นๆเดียวกัน เลยทักไปหยอดบ่อยๆ หยอดทุกวันๆ เลยกลายเป็นว่าถ้าวันไหนไม่ได้คุย หงุดหงิดทั้งวันอะ จนในที่สุดเลยกลายเป็นคนคุยกัน มีอะไรดีๆ ก็แชร์ประสบการณ์กัน ผมบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตผม แบบไม่มีปิดให้เธอฟัง เธอก็เล่าเรื่องราวของเธอให้ผมฟังบ้าง จนเวลาผ่านไป จากวันเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์เป็นเดือน ผมมารู้ตัวอีกทีนึง ผมก็รักเธอไปซะแล้ว เธอเป็นผู้พูดที่ดี เป็นผู้ฟังที่ดี เป็นคนรักที่ดี แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ไกล้กัน แต่เราก็คุยกันมาตลอด จนผมกลายเป็นคนติดโทรศัพท์ไปเลย เพราะตื่นเช้ามา ต้องทักหาโทรหาก่อน เราคุยกันแบบผู้ใหญ่ คุยกันเป็นพักๆ เวลาทำงานก็แยกย้าย แต่บางทีมีงอแงบ้าง อยากวีดีโอคอลนานๆ 
นิสัยของเธอ ผู้ชายที่ไหนได้คุยก็รัก คือนิสัยแบบนี้ผู้ชายจะชอบ เป็นคนตรงๆ มีอะไรพูดเลย ไม่โกหก พิสูจน์ได้ มันทำให้เราไว้ใจไปโดยปริยาย
 
ผมต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้ผมมีแฟนอยู่แล้ว เราคบๆเลิกๆ กันมาซักพักนึง ในช่วงที่ผมคุยกับเธอคือ ผมเลิกกับแฟนผมไปได้ประมาณเดือนนึงแล้วไปเจอเธอพอดี แล้วรู้สึกถูกโฉลกยังไงไม่รู้เลยจีบแบบดื้อๆเลย ซึ่งเธอก็คุยดี ไม่เคยด่ามีอะไรก็แนะนำตลอด เราสนิทกันไวครับ เพราะอายุเท่ากัน คุยกันแล้วรู้สึกว่าศีลเสมอกัน
 
จนเวลาผ่านไป 2 เดือนผมตั้งใจจะบอกเธอว่า ลองเป็นแฟนกันมั้ย จำได้ว่า เธอไม่ได้พูดอะไร แต่เอาล่ะ ผมโมเมไปก่อนละ ไม่สนใจหรอก ไม่พูดแปลว่ายอมรับ เพราะว่าไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธไง
 
จุดพีคของเรื่องคือ ในช่วงที่เราคุยกันอยู่ แฟนเก่าผมดันกลับมา เลยกลายเป็นเรื่องของการคบซ้อนละทีนี้ ผมเครียดทุกวัน เพราะผมไม่อยากเสียเธอไป ผมพยายามเคลียร์แฟนเก่าผมว่า เราห่างกันไปแล้ว จบกันไปแล้ว ไม่ควรกลับมายุ่งวุ่นวายกับผมอีก (แต่คือไม่กล้าบอกไงว่า ไปปลูกต้นรักไว้ เพราะไม่ต้องการให้คนที่คุยอยู่เดือดร้อน เพราะเค้าไม่รู้เรื่อง)
 
ทีนี้ประเด็นคือ ไอ้แฟนเก่าเราเนี่ย มือบอนไปลงคลิปที้มีผมในติ๊กต่อก (แต่เป็นคลิปสมัยตอนยังคบกันนะ) ประมาณว่าหวงก้างอะไรทำนองนั้น และดันไปส่องติ๊กต่อกของเธอเข้า เธอเลยเอาให้ถามผมว่า นี่ใคร ผมก็บอกว่าแฟนเก่า ความสนุกจึงบังเกิดขึ้นตั้งแต่นั้นมา เธอเข้าใจว่าผมโกหกเธอ คบซ้อน เพราะเธอไปเห็นว่า เฟสบุคของแฟนเก่ามีการไปกินอาหารกัน หลังจากที่ผมกลับจากมหาลัยทำเรื่องสำเร็จการศึกษา (ต้องบอกก่อนว่า แฟนเก่าผมเป็นคนแรงๆ ผมพยายามพูดเรื่องนี้กับเขาหลายครั้งเพื่อขอจบ เพราะกลัวว่าเธอจะรู้ กลัวจะไม่ได้คบกัน วันนั้นเขาชวนไปกินและบอกว่า ให้ผมตามใจหน่อย พาไปกินอะไรอร่อยๆสักมื้อก่อนที่จะไม่ได้กินอีกแล้ว) ไอ้เราก็คนซื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็ดีใจ ก็ไปกิน โดยไม่ได้คิดว่าสักวันจะมีคนไปเจอ
 
หลังจากวันนั้น เธอก็ค่อยๆ พูดคุยกับผมน้อยลงๆ จากที่เคยคุยกันทุกวัน กลายเป็น เหลือแค่ทักหา เพราะเธอสั่งห้ามโทร จากทักหาก็เริ่มไม่อ่าน มีอยู่วันนึงเธอไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ ผมด้วยความเป็นห่วง โทรไปเธอรับสาย (น่าจะด้วยความเมา 555) เป็นการรับสายครั้งแรก ซึ่งเราคาสายไว้แบบนั้นเลยตั้งแต่เธอกลับมาถึงตอนเที่ยงคืน จนถึงตี 3 แบตเธอหมด สายก็ตัดไป โดยผมนอนเฝ้าเสียงกรนนั้นด้วยความดีใจว่า พรุ่งนี้เราคงจะกลับมาคุยกันบ้างไม่มากก็น้อย เพราะมีคำพูดของเธอหลุดออกมาคำนึงและผมจำได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้คือ "คิดถึงเธอทุกวันแหละ แค่ไม่ได้คุยกัน" ใจผมมันชื้นขึ้นมาเลยว่า เราคงได้แฟนเราคืน (ณ ตอนนั้นผมเคลียร์กับแฟนเก่าไปแล้วนะ เคลียร์ขาดกันเด็ดขาดเพราะตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ผมเสียเธอไม่ได้ เพราะใจมันเทไปที่นั้นหมดแล้ว)
 
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมพยายามโทรหาเธอ แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด เรื่องราวกลับไปสู่ลูปเก่าคือ เธอไม่คุยกับผมเหมือนเดิม และหลังจากวันนั้นเหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปเรื่อยๆคือ เธอเริ่มไม่ตอบแชทแล้ว ถามคำตอบคำ ไม่คุยและค่อยๆหายออกจากวงจรผมไป บางทีก็กว่าจะอ่านก็ 2-3 วันที แต่ผมยังคงต่อสู้ต่อไป เพราะเรามั่นใจความรู้สึกตัวเอง จนเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ครบ 1 เดือนที่เรามีปัญหากัน ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีใครในวันนี้ก็ไม่ได้แปลว่า ผมจะมีเธอ เธอคือคนเอาจริงและไม่มีโอกาส สำหรับคนที่ทำผิด ซึ่งผมเข้าใจและไม่โกรธเธอ เธอคือคนดีที่ต้องเจอรักดีๆ ผมเลยส่งข้อความฉบับสุดท้ายไปหาเธอ และบอกว่า 
 
"หากเวลา พาเรากลับมาเจอกันอีก ทีนี้คือ Set 0 นะ จะไม่มาพูดถึงเรื่องเก่ากันอีก และผมจะรัก รักเธอให้มากกว่านี้ และจะไม่ทำให้ปัญหาเดิมมันเกิดขึ้นอีก"
เพื่อนผมบอกว่า ถ้าคู่กันแล้ว มันไม่แคล้วกันหรอก แต่ถ้าไม่ใช่ ยังไงมันก็ไม่ใช่ วันนี้ก็เลยอยากมาเก็บความทรงจำที่ดีของผมไว้ในพันทิป เพื่อสักวันเธออาจจะได้อ่าน และคนอื่นๆที่มีกำลังคบหาดูใจใครสักคน หากจะเลิกกับแฟนเก่า เอาให้เคลียร์ไม่งั้นมันจะกลายเป็นคบซ้อนแบบงงๆ กลายเป็นคนไม่ดีในสายตาแฟนใหม่เฉย ซึ่งตัวผมเองไม่รู้ว่ามีโอกาสมั้ย ที่จะได้กลับไปจุดนั้น แต่อย่างที่บอกครับ ความรักสวยงามเสมอ ผมยังรักและให้เกียรติเธอเช่นเคย
 
สุดท้ายผมต้องขอบคุณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ที่ทำให้ผมได้มีความรู้ ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้ผมได้มีความรัก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็จะเลือกที่จะเรียนที่นี่นี่แหละ และกำลังมีแพลนว่า จะเก็บเงินเรียนปริญญาเอก แต่ต้องใช้เวลาสักพักนะ เพราะต้องใช้ทุนเยอะหน่อย 5555
 
ส่วนมนต์รักมกธ.จะมีตอนต่อไปมั้ย มันขึ้นอยู่กับเธออย่างเดียวเลย อาจจะมี หรือไม่มี ตอนต่อไปแต่ก็มีความสุขมากๆ ที่ครั้งนึงได้รู้จัก ได้คบ กับคนดีๆแบบนี้
 
ขอบคุณมากครับ สำหรับพื้นที่ให้เล่าเรื่อง
นายเอ มนต์รักมกธ.
10-10-65
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่