JJNY : ชลน่านชี้2ป.แข่งกันลงพื้นที่│‘ตรีชฎา’สอนมวย‘ตู่’│ก้าวไกลซัด"สุริยะ"หนีตอบกระทู้│กังวลหนักขีดความแข่งขันไทยร่

ชลน่าน ชี้ 2 ป.แข่งกันลงพื้นที่ ชิงเป็นแคนดิเดตนายกฯ เชื่อ บิ๊กป้อม ดีกว่า บิ๊กตู่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7302607
 
 
“หมอชลน่าน” มอง 2 ป. กำลังขิงกัน แข่งลงพื้นที่แสดงความเป็นผู้นำชิงเป็นแคนดิเดตนายกฯ เชื่อ “บิ๊กป้อม” ภาษีดีกว่า ทั้งวิธีทำงาน-เข้าถึงประชาชน
 
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 6 ต.ค.2565 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ว่า ในแง่ดีถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะผู้นำ จะต้องลงไปรับทราบปัญหาอย่างแท้จริง แต่ต้องระมัดระวังไม่ใช้อำนาจหน้าที่ และภาษีประชาชนไปหาแสวงหาผลประโยชน์หรือหาเสียงแอบแฝง
 
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า แต่หากมองในมุมการเมืองจะพบว่าการลงพื้นที่ของทั้งสองคน เป็นการลงพื้นที่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปซ้ำรอย พล.อ.ประวิตร ถ้าเปรียบเป็นหรือภาษาวัยรุ่น อาจจะใช้คำว่าขิงกันหรือเป็นการแข่งขันกันทางการเมือง เพราะขณะนี้นายกฯ ตัวจริงกลับมาแล้ว
 
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนเชียร์ให้ทั้งสองคนทำแบบนี้ตลอด แม้จะเป็นเรื่องความขัดแย้งภายใน แต่ประชาชนได้ประโยชน์กับเรื่องนี้ และในอนาคตจะทำให้ภาพการเมืองชัดเจนขึ้นว่า ใครเหมาะที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งส่วนตัวมองว่าพล.อ.ประวิตรถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งวิธีการทำงานและการเข้าถึงประชาชน ดังนั้น ใครที่อยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ ก็ยากที่จะชนะการเลือกตั้ง ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะพิจารณาส่งใครเป็นแคนดิเดต ตนไม่ขอวิจารณ์ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคนั้นๆ
 



‘ตรีชฎา’ สอนมวย ‘บิ๊กตู่’ ต้องโชว์กึ๋นแก้น้ำท่วม ไปอุบลฯ-ขอนแก่น เหมือนเป็นภาระ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3602244

‘ตรีชฎา’ สอนมวย ‘บิ๊กตู’ ต้องโชว์กึ๋นแก้น้ำท่วม ไปอุบลฯ-ขอนแก่น เหมือนเป็นภาระ
 
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จ.อุบลราชธานีและจ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้น เมื่อติดตามข่าวสารที่สื่อมวลชนนำเสนอนั้น เป็นที่น่าเสียใจและเสียดายโอกาสของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นแล้ว ยังซ้ำเติมจิตใจของชาวบ้านที่กำลังทุกข์ยากเดือดร้อนให้หดหู่สิ้นหวังมากขึ้นไปอีก
 
ขณะที่ ประชาชนจ.อุบลราชธานีถูกน้ำท่วม บ้านจมบาดาล ที่จ.อุบลราชธานี มีการระดมตำรวจเจ้าหน้าที่นับพันรายมากระจายกำลังคุ้มกัน พล.อ.ประยุทธ์  ขณะไปที่หอประชุมวารินชำราบ ซึ่งมากผิดปกติเกินความจำเป็น แถมยังต้องใช้งบประมาณดูแลข้าวกล่องไปแจกให้เจ้าหน้าที่ได้กินเป็นพันกล่อง หากลดจำนวนหรืองดเว้นการดูแลต้อนรับคนๆ เดียวในภาวะเดือดร้อนยากลำบาก สามารถข้าวกล่องที่ดูแลเจ้าหน้าที่นำไปดูแลชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้หลายร้อยครอบครัว ไม่ต้องให้ชาวบ้านส่งเสียงโอดครวญผ่านสื่อแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศว่าจะมาทำงาน ไม่สร้างภาระให้ใคร แล้วภาพที่มีการเกณฑ์เจัาหน้าที่ตำรวจมาดูแลทั้งจังหวัดเรียกว่า อะไรกันแน่
 
ส่วนที่ จ.ขอนแก่น สื่อมวลชนได้รายงานคำพูดจาของพล.อ.ประยุทธ์อย่างยืดยาว ล้วนแต่เป็นเรื่องวนเวียนซ้ำซาก ชาวบ้านต้องการฟังสิ่งที่เป็นความหวัง ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน และการวางแผนป้องกันแก้ไขในระยะยาวจากคนเป็นนายกรัฐมนตรี
 
“พล.อ.ประยุทธ์หยุดการปฏิบัติงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา 5 สัปดาห์ นับเป็นบุญของประเทศและประชาชน พอได้กลับมาปฏิบัติงานต่ออีกก็เป็นแบบเดิมๆ ไปอีสานครั้งนี้ทำเหมือนพระยาเหยียบเมือง แต่อะไรไม่ได้ เป็นนายกฯ ต้องแสดงความรู้ โชว์กึ๋นให้สมศักดิ์ศรีของผู้นำ บัญชาการทุกภาคส่วนให้มีการแก้ไขปัญหาอุทกภัยโดยเร่งด่วนฉับพลันทันการณ์ ไม่ใช่ไปพูดพล่ามน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง จับสาระใจความที่เป็นแก่นสารอะไรไม่ได้ ผิดวิสัยของการเป็นผู้นำประเทศอารมณ์ของชาวบ้านยามนี้ไม่ต้องการเสียเวลากับการฟังในเรื่องที่ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น” น.ส.ตรีชฎา กล่าว
 
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า เพราะประชาชนรู้สึกเต็มทน พล.อ.ประยุทธ์ ไปพูดตลกแบบไม่มีกาลเทศะกับชาวขอนแก่นที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย บางบ้านไม่มีแม้น้ำเปล่าดื่มกิน ไม่มีข้าวกินประทังชีวิต แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับพูดกับพี่น้องประชาชน เช่น ไหนลองยิ้มให้ผมดูหน่อย ยิ้มทางตาก็ได้ เพราะตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ คงไม่มีใครยิ้มออกได้ในสถานการณ์น้ำท่วมหนักเช่นนี้
 
“ถ้าเป็นไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีกำหนดการจะเดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อตรวจเยี่ยมน้ำท่วม วันที่ 6 ตุลาคม จริงๆ ไม่ต้องไปก็ได้ ไม่มีประโยชน์อะไร สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินเปล่าๆ ในเมื่อเป็นนายกฯ ทำได้เพียงแค่นี้” น.ส.ตรีชฎา กล่าว
 

 
ก้าวไกล ซัด "สุริยะ" หนีตอบกระทู้ หลังน้ำท่วม พบโรงงานลอบทิ้งกากสารพิษ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2519471

"ก้าวไกล" ห่วง น้ำท่วมปนเปื้อนสารพิษโรงงานลักลอบทิ้งกาก ซัด "สุริยะ" หนีตอบสภาถี่ หรือไม่เคยเห็นหัวประชาชน เย้ยมัวแต่นั่งห้องแอร์ เอาใจเจ้าสัวนายทุน เห็นค่าเงินมากกว่าชีวิตของชาวบ้านหรือ
 
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 65 นายนิติพล ผิวเหมาะ และนายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ สิ่งที่น่ากังวลคือสารพิษและขยะพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ลักลอบทิ้งจะปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย ซึ่งสามารถสร้างอันตรายสะสมและส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนได้ ซึ่งการลักลอบทิ้งกากดังกล่าวเกิดขึ้นมานานและหลายครั้งในหลายพื้นที่อุตสาหกรรม แต่หน่วยงานรับผิดชอบกลับทำตัวลอยเหนือปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ที่ไม่ยอมมาตอบกระทู้สดของตนก่อนปิดสมัยประชุมสภาที่ผ่านมา รวมถึงในวันนี้ที่ คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรียกมาชี้แจง ก็ไม่ยอมมาด้วยตนเอง โดยมอบหมายให้ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม มาชี้แจงแทน
 
นายนิติพล กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ ต้องการความชัดเจนจากมาตรการเชิงนโยบายที่บุคคลระดับรัฐมนตรีจะต้องมีคำตอบให้กับประชาชน ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าหน้าที่จะตอบแทนได้ การที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะรัฐมนตรีหนีสภาครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้ จึงสะท้อนพฤติกรรมไม่ให้เกียรติสภา คณะกรรมาธิการฯ และไม่เห็นหัวประชาชนที่ได้รับผลกระทบเลย
 
“ปัญหานี้ใหญ่มาก เพราะทำให้มีโรงงานขยะรวมถึงโรงงานที่สามารถสร้างมลพิษเกิดขึ้นมากมายและง่ายมากจากนโยบายของรัฐบาลนี้ที่สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัย คสช. ทั้งยังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมดูแลอีกหลายด้านจนเกิดความหย่อนยาน เมื่อเกิดปัญหาหน่วยงานตรวจสอบก็ได้แต่บอกว่าไม่สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดได้ ปัญหานี้จึงจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน เพราะจะส่งผลกระทบสืบเนื่องไปถึงในอนาคต ผมไม่อยากเห็นไทยเป็นอีกหนึ่งบทเรียนจากการพัฒนาอุตสาหกรรมแบบไม่สนใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเหมือนกรณีโรคมินามาตะ ที่เคยเกิดขึ้นกับญี่ปุ่น เป็นบทเรียนของโลกและเป็นหายนะครั้งใหญ่จนไม่อาจประเมินค่าความเสียหายได้ ต้องบำบัดรักษาผู้ป่วย และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมกันเป็นสิบปี แต่ในน้ำมือของรัฐบาลนี้ ภายใต้การบริหารแบบนี้ ผมต้องยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหากจะเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกันขึ้นอีกครั้งในประเทศไทย"
 
นายนิติพล กล่าวต่อว่า ก่อนปิดสมัยประชุมสภา ตนได้ตั้งกระทู้ถามสด รมว.อุตสาหกรรม ต่อกรณีการลักลอบทิ้งกากขยะพิษ ในพื้นที่ชุมชนรอบเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หลายแห่ง เช่น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่พบว่า ตั้งแต่ปี 60-64 มีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมมากถึง 280 ครั้ง เมื่อไปตรวจสอบกลับบอกว่าไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ หรือถึงหาคนทำผิดได้โทษก็ต่ำมากจนแทบเรียกไม่ได้ว่าเป็นมาตรการเพื่อให้หยุดกระทำ กรณีแบบเดียวกันยังเกิดขึ้นที่ สมุทรสาคร สมุทรปราการ อยุธยา ปทุมธานี ราชบุรี ซึ่งมีโรงงานจำนวนมากและมีชุมชนกระจุกตัวโดยรอบ ที่ขณะนี้หลายพื้นที่กำลังเจอกับน้ำท่วม ซึ่งพวกเขาทราบดีว่าสิ่งที่ลอยมากับน้ำและท่วมบ้านเขาก็คือกากของเสียโรงงานมาท่วมบ้านเขา เขาจึงต้องการคำตอบคือว่า สารพิษที่ลอยมาท่านจะจัดการอย่างไร และจะรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วอย่างไรให้เขาบ้าง ท่านจึงสมควรเป็นผู้มาตอบด้วยตนเอง
 
นายนิติพล กล่าวทิ้งท้ายว่า นายสุริยะเข้ามารับตำแหน่งรมว.อุตสาหกรรม เกือบ 4 ปีแล้ว แต่ทำไมจึงไม่สามารถมาตอบคำถามของประชาชนได้ หรือมัวแต่นั่งห้องแอร์ เอาใจเจ้าสัวนายทุน เห็นค่าเงินมากกว่าชีวิตของชาวบ้าน การมีรัฐมนตรีอุตสาหกรรมที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว เพิกเฉยต่อชีวิตประชาชนเช่นนี้ จึงต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งต่อปัจจุบันและอนาคต.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่