กลุ่มแพทย์สามารถที่จะเรียนรู้ระบบกล้ามเนื้อและกระดูกของผู้ป่วย ผ่านทางโมเดล 3 มิติที่มีความแม่นยำสูง ทั้งยังสามารถช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์สามารถวินิจฉัยโรค วางแผนการผ่าตัด ให้ความรู้กับผู้ป่วยและแนวทางการรักษาอื่นๆอีกมากมาย
บริษัท Axial3D จากเมือง Belfast ในสหาราชอาณาจักรได้ใช้ผลสแกน CT และ MRI สำหรับสร้างแบบจำลอง 3 มิติของผู้ป่วยขึ้นมาช่วยในการรักษา โดยกลุ่มลูกค้าของ Axial3D มีสถานให้บริการทางการแพทย์ทั้งในแบบวงกว้างและแบบเอกชน เช่น ศัลยกรรมกระดูก มะเร็งวิทยา ใบหน้าและช่องปาก อาการบาดเจ็บและการผ่าตัดปลูกถ่าย
Daniel Crawford ผู้ก่อตั้งโครงการ มีเป้าหมายสำคัญคือการพิมพ์โมเดลในสถานพยาบาลเพื่อยกระดับให้แพทย์ และผู้ป่วยมีประสบการณ์ในการรักษาที่ดีขึ้น เขายังอธิบายอีกว่า “ชิ้นงานที่พิมพ์ออกมาจากผลการสแกนจะยกระดับการดูแลผู้ป่วยออกเป็นวงกว้าง ทั้งยังจะแตกแขนงออกไปในสาขาการรักษาต่าง ๆ อีกด้วย”
เห็นได้ชัดว่าโมเดล 3 มิตินั้นได้เปลี่ยนแปลงปฏิสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และผู้ป่วยออกไปจากเดิมในทุก ๆ ขั้นตอนที่เคยมีอย่างสิ้นเชิง
1. การเข้าถึงการวินิจฉัยผู้ป่วยที่ถูกต้อง
Daniel Crawford ผู้ก่อตั้ง Axial3D (ฝั่งซ้าย) และ Mark Stewart ผู้ร่วมก่อตั้ง (ฝั่งขวา) กำลังสร้างโมเดลทางการแพทย์ ที่จะช่วยให้แพทย์วินิจัยโรคได้แม่นยำขึ้น
โมเดล 3D ที่ถูกพิมพ์ออกมาจากผล CT และผลสแกน MRI ของผู้ป่วยนั้น พบว่ามีความแม่นยำที่สูง และสามารถบ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะเจาะจงของผู้ป่วยในแต่ละคนได้ โดยที่โมเดล 3D นั้นช่วยให้แพทย์มีข้อมูลของผู้ป่วยมากขึ้น
แตกต่างจากการวินิจฉัยผ่านกายวิภาคของผู้ป่วยแบบ 2D Daniel อธิบายกับเราว่า “การเข้าถึงกายวิภาคของผู้ป่วยได้ในทุกๆส่วนไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือกระดูกเชิงกราน ส่งผลทำให้วินิจฉัยรักษาผู้ป่วยเป็นไปได้อย่างถูกต้องและมีความแม่นยำขึ้น และในการรักษาผู้ป่วยบางรายก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเลยทั้งหมด
เมื่อได้เห็นข้อมูลจากชิ้นงาน 3D” ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบกายวิภาคขนาดจริงของผู้ป่วยได้ในรูปแบบสามมิติ ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกในการรักษาผู้ป่วย เนื่องจากโมเดลเหล่านี้ต้องมีความแม่นยำที่สูงมาก ดังนั้น Axial3D จึงสร้างโมเดลจากการพิมพ์โมเดล 3 มิติเพื่อให้สามารถจับรายละเอียดที่ซับซ้อนของผลสแกนได้ทั้งหมด
การเข้าถึงกายวิภาคของผู้ป่วยได้ในทุก ๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือกระดูกเชิงกราน ส่งผลทำให้วินิจฉัยรักษาผู้ป่วย เป็นไปได้อย่างถูกต้องและมีความแม่นยำขึ้น
2. พิจารณาวิธีการรักษาผู้ป่วยที่ดีที่สุด
โมเดลทางการแพทย์ ช่วยให้แพทย์ตัดสินใจถึงวิธีการรักษาที่ดีที่สุดให้กับผู้ป่วยโดยอ้างอิงจากกายวิภาคของผู้ป่วยรายนั้น ๆ
หลังจากการวินิจฉัย ผู้เชี่ยวชาญจะใช้โมเดลนี้เพื่อพิจารณาวิธีการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งโมเดล 3 มิติที่มีความละเอียดสูงนี้ จะช่วยให้แพทย์มองเห็นภาพรวมได้มากกว่าผลสแกนรังสีแบบ 2 มิติ
โดย Dainal กล่าวว่า “การมีโมเดลที่สามารถจับต้องได้เท่าขนาดอวัยวะจริงทำให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นภาพในการค้นหาโรคร้าย หรืออาการบาดเจ็บในตำแหน่งจริงได้ ทั้งยังทำให้ให้มีความเข้าใจในโรคของผู้ป่วยมากขึ้น ส่งผลถึงการหาวิธีการรักษาที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ป่วยในแต่ละราย” เช่น Axial3D ใช้ภาพสแกนของผู้ป่วยมะเร็งสร้างโมเดล 3 มิติรูปตับขึ้นมา เพื่อให้แพทย์ตัดสินใจว่าจะตัดเนื้องอกออกหรือให้การรักษาแบบคีโมแทน เห็นได้ชัดว่าโมเดล 3 มิติสร้างความแตกต่างได้มากทีเดียว
3. การวางแผนก่อนการผ่าตัดผู้ป่วย
ศัลยแพทย์ ใช้โมเดลทางกายวิภาคเพื่อเตรียมอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของความซับซ้อนในการผ่าตัดไปได้อย่างมาก
โมเดลทางการแพทย์เป็นตัวช่วยสำคัญของศัลยแพทย์ในการวางแผนล่วงหน้า และฝึกฝนการผ่าตัดต่าง ๆ การวางแผนก่อนการผ่าตัดนั้น ไม่เพียงแต่จะช่วยลดหย่อนเวลาในการผ่าตัดของผู้ป่วย แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของความยากง่ายในการผ่าตัด รวมถึงอัตราการติดเชื้อต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยลง
รวมไปถึงการประหยัดทรัพยากรของโรงพยาบาลลง Daniel กล่าวว่า “หากมีโมเดล 3 มิติ ศัลยแพทย์จะสามารถจำลองเทคนิคใหม่ ๆ และเตรียมอุปกรณ์ได้ล่วงหน้าก่อนที่จะเข้าไปยังห้องผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดในระยะเวลาสั้น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ป่วยลง ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น รวมถึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายลงด้วย” เพราะฉะนั้น การใช้โมเดล 3 มิตินั้นย่อมส่งผลดีต่อกระบวนการก่อนการผ่าตัดและทุกคนที่อยู่ในกระบวนการแน่นอน
หากมีโมเดล 3 มิติ ศัลยแพทย์จะสามารถจำลองเทคนิคใหม่ ๆ และเตรียมอุปกรณ์ได้ล่วงหน้าก่อนที่จะเข้าไปยังห้องผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดในระยะเวลาสั้น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ป่วยลง ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น รวมถึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายลงด้วย
Axial3D ใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติสร้างโมเดลทางการแพทย์ที่มีความละเอียดสูงได้อย่างรวดเร็ว
Axial3D ใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ แบบ SLA ในการสร้างโมเดลทางการแพทย์ โดยเครื่องพิมพ์ของ Danial เป็นหนึ่งในเครื่องพิมพ์ 3 มิติ จาก Formlabs ซึ่งสามารถพิมพ์ได้อย่างรวดเร็วและอยู่ในช่วงราคาที่ไม่แพง จึงช่วยทำให้เราสามารถรับมือกับเอกสารแบบฟอร์มออนไลน์ที่ส่งเข้ามาของผู้ป่วยได้
และยังพบอีกว่าเครื่องพิมพ์ 3 มิตินี้ ยังสามารถพิมพ์รายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งที่กายวิภาคศาสตร์ต้องการเป็นอย่างยิ่ง ด้วยวัสดุที่ใช้พิมพ์ นี่คือสิ่งที่เหมาะกับการแพทย์ในหลาย ๆ สาขา โดย Danial ยังกล่าวอีกว่า ในทางการแพทย์นั้น “คุณภาพคือทุก ๆ อย่าง”
อ้างอิงจาก :
https://www.septillion.co.th/%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b9%8c-3-%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%9c%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%9b%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a2/
เครดิตภาพ :
https://www.septillion.co.th/
ข้อดีของการพิมพ์ 3 มิติทางการแพทย์ ต่อกระบวนการก่อนผ่าตัดผู้ป่วย
บริษัท Axial3D จากเมือง Belfast ในสหาราชอาณาจักรได้ใช้ผลสแกน CT และ MRI สำหรับสร้างแบบจำลอง 3 มิติของผู้ป่วยขึ้นมาช่วยในการรักษา โดยกลุ่มลูกค้าของ Axial3D มีสถานให้บริการทางการแพทย์ทั้งในแบบวงกว้างและแบบเอกชน เช่น ศัลยกรรมกระดูก มะเร็งวิทยา ใบหน้าและช่องปาก อาการบาดเจ็บและการผ่าตัดปลูกถ่าย
Daniel Crawford ผู้ก่อตั้งโครงการ มีเป้าหมายสำคัญคือการพิมพ์โมเดลในสถานพยาบาลเพื่อยกระดับให้แพทย์ และผู้ป่วยมีประสบการณ์ในการรักษาที่ดีขึ้น เขายังอธิบายอีกว่า “ชิ้นงานที่พิมพ์ออกมาจากผลการสแกนจะยกระดับการดูแลผู้ป่วยออกเป็นวงกว้าง ทั้งยังจะแตกแขนงออกไปในสาขาการรักษาต่าง ๆ อีกด้วย”
เห็นได้ชัดว่าโมเดล 3 มิตินั้นได้เปลี่ยนแปลงปฏิสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และผู้ป่วยออกไปจากเดิมในทุก ๆ ขั้นตอนที่เคยมีอย่างสิ้นเชิง
1. การเข้าถึงการวินิจฉัยผู้ป่วยที่ถูกต้อง
Daniel Crawford ผู้ก่อตั้ง Axial3D (ฝั่งซ้าย) และ Mark Stewart ผู้ร่วมก่อตั้ง (ฝั่งขวา) กำลังสร้างโมเดลทางการแพทย์ ที่จะช่วยให้แพทย์วินิจัยโรคได้แม่นยำขึ้น
โมเดล 3D ที่ถูกพิมพ์ออกมาจากผล CT และผลสแกน MRI ของผู้ป่วยนั้น พบว่ามีความแม่นยำที่สูง และสามารถบ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะเจาะจงของผู้ป่วยในแต่ละคนได้ โดยที่โมเดล 3D นั้นช่วยให้แพทย์มีข้อมูลของผู้ป่วยมากขึ้น
แตกต่างจากการวินิจฉัยผ่านกายวิภาคของผู้ป่วยแบบ 2D Daniel อธิบายกับเราว่า “การเข้าถึงกายวิภาคของผู้ป่วยได้ในทุกๆส่วนไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือกระดูกเชิงกราน ส่งผลทำให้วินิจฉัยรักษาผู้ป่วยเป็นไปได้อย่างถูกต้องและมีความแม่นยำขึ้น และในการรักษาผู้ป่วยบางรายก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเลยทั้งหมด
เมื่อได้เห็นข้อมูลจากชิ้นงาน 3D” ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบกายวิภาคขนาดจริงของผู้ป่วยได้ในรูปแบบสามมิติ ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกในการรักษาผู้ป่วย เนื่องจากโมเดลเหล่านี้ต้องมีความแม่นยำที่สูงมาก ดังนั้น Axial3D จึงสร้างโมเดลจากการพิมพ์โมเดล 3 มิติเพื่อให้สามารถจับรายละเอียดที่ซับซ้อนของผลสแกนได้ทั้งหมด
การเข้าถึงกายวิภาคของผู้ป่วยได้ในทุก ๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือกระดูกเชิงกราน ส่งผลทำให้วินิจฉัยรักษาผู้ป่วย เป็นไปได้อย่างถูกต้องและมีความแม่นยำขึ้น
2. พิจารณาวิธีการรักษาผู้ป่วยที่ดีที่สุด
โมเดลทางการแพทย์ ช่วยให้แพทย์ตัดสินใจถึงวิธีการรักษาที่ดีที่สุดให้กับผู้ป่วยโดยอ้างอิงจากกายวิภาคของผู้ป่วยรายนั้น ๆ
หลังจากการวินิจฉัย ผู้เชี่ยวชาญจะใช้โมเดลนี้เพื่อพิจารณาวิธีการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งโมเดล 3 มิติที่มีความละเอียดสูงนี้ จะช่วยให้แพทย์มองเห็นภาพรวมได้มากกว่าผลสแกนรังสีแบบ 2 มิติ
โดย Dainal กล่าวว่า “การมีโมเดลที่สามารถจับต้องได้เท่าขนาดอวัยวะจริงทำให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นภาพในการค้นหาโรคร้าย หรืออาการบาดเจ็บในตำแหน่งจริงได้ ทั้งยังทำให้ให้มีความเข้าใจในโรคของผู้ป่วยมากขึ้น ส่งผลถึงการหาวิธีการรักษาที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ป่วยในแต่ละราย” เช่น Axial3D ใช้ภาพสแกนของผู้ป่วยมะเร็งสร้างโมเดล 3 มิติรูปตับขึ้นมา เพื่อให้แพทย์ตัดสินใจว่าจะตัดเนื้องอกออกหรือให้การรักษาแบบคีโมแทน เห็นได้ชัดว่าโมเดล 3 มิติสร้างความแตกต่างได้มากทีเดียว
3. การวางแผนก่อนการผ่าตัดผู้ป่วย
ศัลยแพทย์ ใช้โมเดลทางกายวิภาคเพื่อเตรียมอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของความซับซ้อนในการผ่าตัดไปได้อย่างมาก
โมเดลทางการแพทย์เป็นตัวช่วยสำคัญของศัลยแพทย์ในการวางแผนล่วงหน้า และฝึกฝนการผ่าตัดต่าง ๆ การวางแผนก่อนการผ่าตัดนั้น ไม่เพียงแต่จะช่วยลดหย่อนเวลาในการผ่าตัดของผู้ป่วย แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของความยากง่ายในการผ่าตัด รวมถึงอัตราการติดเชื้อต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยลง
รวมไปถึงการประหยัดทรัพยากรของโรงพยาบาลลง Daniel กล่าวว่า “หากมีโมเดล 3 มิติ ศัลยแพทย์จะสามารถจำลองเทคนิคใหม่ ๆ และเตรียมอุปกรณ์ได้ล่วงหน้าก่อนที่จะเข้าไปยังห้องผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดในระยะเวลาสั้น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ป่วยลง ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น รวมถึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายลงด้วย” เพราะฉะนั้น การใช้โมเดล 3 มิตินั้นย่อมส่งผลดีต่อกระบวนการก่อนการผ่าตัดและทุกคนที่อยู่ในกระบวนการแน่นอน
หากมีโมเดล 3 มิติ ศัลยแพทย์จะสามารถจำลองเทคนิคใหม่ ๆ และเตรียมอุปกรณ์ได้ล่วงหน้าก่อนที่จะเข้าไปยังห้องผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดในระยะเวลาสั้น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ป่วยลง ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น รวมถึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายลงด้วย
Axial3D ใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติสร้างโมเดลทางการแพทย์ที่มีความละเอียดสูงได้อย่างรวดเร็ว
Axial3D ใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ แบบ SLA ในการสร้างโมเดลทางการแพทย์ โดยเครื่องพิมพ์ของ Danial เป็นหนึ่งในเครื่องพิมพ์ 3 มิติ จาก Formlabs ซึ่งสามารถพิมพ์ได้อย่างรวดเร็วและอยู่ในช่วงราคาที่ไม่แพง จึงช่วยทำให้เราสามารถรับมือกับเอกสารแบบฟอร์มออนไลน์ที่ส่งเข้ามาของผู้ป่วยได้
และยังพบอีกว่าเครื่องพิมพ์ 3 มิตินี้ ยังสามารถพิมพ์รายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งที่กายวิภาคศาสตร์ต้องการเป็นอย่างยิ่ง ด้วยวัสดุที่ใช้พิมพ์ นี่คือสิ่งที่เหมาะกับการแพทย์ในหลาย ๆ สาขา โดย Danial ยังกล่าวอีกว่า ในทางการแพทย์นั้น “คุณภาพคือทุก ๆ อย่าง”
อ้างอิงจาก : https://www.septillion.co.th/%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b9%8c-3-%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%9c%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%9b%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a2/
เครดิตภาพ : https://www.septillion.co.th/