สำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารของสหภาพยุโรป (EFSA) กล่าวว่า ยุโรปประสบกับวิกฤตไข้หวัดนกครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาในปีนี้ โดยมีสัตว์ปีกเกือบ 50 ล้านตัวที่ถูกคัดออก และความคงอยู่ของไวรัสในช่วงฤดูร้อนได้เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้ออย่างกว้างขวางในฤดูกาลหน้า

การแพร่กระจายของไข้หวัดนกชนิดก่อโรครุนแรง (Highly Pathogenic Avian Influenza, HPAI) หรือที่เรียกโดยปรกติว่า ไข้หวัดนก เป็นปัญหาสำหรับรัฐบาลและอุตสาหกรรมสัตว์ปีกเนื่องจากความหายนะที่อาจเกิดขึ้นกับฝูงสัตว์ รวมไปถึง ความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อจำกัดทางการค้า และความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในมนุษย์

ในช่วงฤดูร้อนนี้ มีรายงานการระบาดของนกป่าและนกเลี้ยง เป็นจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้มีการเสียชีวิตจำนวนมากบนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ จากภาพรวมของ EFSA และห้องปฏิบัติการอ้างอิงของสหภาพยุโรป

ไข้หวัดนกมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว โรคนี้ติดต่อโดยอุจจาระของนกป่าที่ติดเชื้อหรือสัมผัสโดยตรงกับอาหาร เสื้อผ้า และอุปกรณ์ที่ปนเปื้อน
Guilhem de Seze เจ้าหน้าที่อาวุโสของ EFSA กล่าวว่า "เมื่อการอพยพในฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นขึ้นและจำนวนนกป่าที่หลบหนาวในยุโรปเพิ่มขึ้น พวกมันก็มีแนวโน้มสูงที่จะติดเชื้อ HPAI มากกว่าปีก่อนๆ อันเนื่องมาจากการสังเกตพบของไวรัสในยุโรป"

 EFSA กล่าว การแพร่ระบาดของโรคในฤดูกาลนี้ส่งผลกระทบต่อประเทศในยุโรปทั้งหมด 37 ประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และไวรัสได้ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นครั้งแรกตามเส้นทางการอพยพ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในสัตว์ปีกในหลายจังหวัดของแคนาดาและสหรัฐอเมริกา

เรียบเรียงจาก
https://www.reuters.com/world/europe/worst-ever-bird-flu-crisis-europe-raises-risks-next-season-efsa-2022-10-03/