สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ผมมองว่าทุกอย่างเป็นเรื่องชั่วคราวครับ
จะกำไรหรือขาดทุน ก็ชั่วคราว
ชีวิตคนเราก็มีดี มีแย่ แต่ก็แค่ชั่วคราว
สุดท้ายมันก็จะผ่านไป
นักลงทุนควรมีมุมมองที่สอดคล้องกับความเป็นจริง และธรรมชาติของตลาดเพื่อจะได้ลงทุนอย่างมีความสุข
สิ่งที่ควรเข้าใจ คือ ควรเข้าใจและตระหนักว่าตลาดมีขาขึ้น มีขาลง และมีออกข้าง .... มีช่วงบูม และมีช่วงวิกฤติ สลับหมุนวนกันไปตามเหตุปัจจัย
ดังนั้น พอร์ตการลงทุนย่อมมีมูลค่าเพิ่มหรือลดตามวัฏจักรของตลาดเป็นเรื่องปกติธรรมดา
เมื่อมองเห็นความจริงก็จะเข้าใจ และจะไม่ทุกข์ ไม่ดิ้นรน ไม่เดือดร้อน เมื่อกำไรก็จะไม่หลงลำพอง เมื่อขาดทุนก็จะไม่โศกเศร้าเสียดาย จิตใจจะนิ่งขึ้น .... ทำให้สามารถลงทุนอย่างมีสติ และมีความสุขครับ
จะกำไรหรือขาดทุน ก็ชั่วคราว
ชีวิตคนเราก็มีดี มีแย่ แต่ก็แค่ชั่วคราว
สุดท้ายมันก็จะผ่านไป
นักลงทุนควรมีมุมมองที่สอดคล้องกับความเป็นจริง และธรรมชาติของตลาดเพื่อจะได้ลงทุนอย่างมีความสุข
สิ่งที่ควรเข้าใจ คือ ควรเข้าใจและตระหนักว่าตลาดมีขาขึ้น มีขาลง และมีออกข้าง .... มีช่วงบูม และมีช่วงวิกฤติ สลับหมุนวนกันไปตามเหตุปัจจัย
ดังนั้น พอร์ตการลงทุนย่อมมีมูลค่าเพิ่มหรือลดตามวัฏจักรของตลาดเป็นเรื่องปกติธรรมดา
เมื่อมองเห็นความจริงก็จะเข้าใจ และจะไม่ทุกข์ ไม่ดิ้นรน ไม่เดือดร้อน เมื่อกำไรก็จะไม่หลงลำพอง เมื่อขาดทุนก็จะไม่โศกเศร้าเสียดาย จิตใจจะนิ่งขึ้น .... ทำให้สามารถลงทุนอย่างมีสติ และมีความสุขครับ
แสดงความคิดเห็น
วิกฤติทุกครั้งเป็นแค่เรื่องชั่วคราว พอจบก็กลับมาเป็นปกติ (Everything is temporary)
คำเตือน : กระทู้นี้ ไม่ได้เขียนเพื่อ คนขี้ขลาด ขี้กลัว หรือตื่นตระหนก
...เป็นที่เห็นกันดีอยู่แล้วว่า
ตลาดหุ้นในต่างประเทศที่มีมาก่อนเรานานแล้ว
เจอวิกฤตินับครั้งไม่ถ้วน แต่สุดท้ายก็กลับมาฟื้นตัวได้ ทำราคานิวไฮ ด้วยธรรมชาติของตัวหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี
และปรากฏว่า ผู้ที่ซื้อในช่วงวิกฤติ ต่างก็ได้หุ้น หรือกองทุนรวมที่ราคาถูก พอเหตุการณ์กลับไปเป็นปกติก็กำไรเป็นกอบเป็นกำ
"จงทำใจให้หนักแน่นเหมือนแผ่นดิน" แม้ใครจะว่าอะไร จงมุ่งมั่นและตั้งใจ อย่าไปสนใจเสียงภายนอก
สุดท้ายนี้ ถ้าซื้อแล้วถือ ได้ปันผล ได้กำไร แนะนำให้บริจาคให้ รพ.สงฆ์ทุกเดือน น้อยๆ พอไม่ลำบากตนเอง
กวางจะยินดี และอนุโมทนาบุญด้วยนะคะ