ทนายกองทัพ "อนันต์ชัย ไชยเดช" พร้อมคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ จนท.ฝ่ายปกครอง สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ขึ้นโรงพักบ้านหมี่แจ้งความดำเนินคดี"ครูบา"ดังเมืองลพบุรี 3 ข้อหา "แต่งกายเรียนแบบพระสงฆ์ แจ้งความเท็จ
พร้อมทั้งปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม"
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 ก.ย.65 คณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านหมี่ ปลัดอำเภอ, อบต., กำนัน, ผุ้ใหญ่บ้าน, ประชาชนชาวบ้านหมี่ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี และนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม พร้อมคณะได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับครูบาบุญเลิศ ใน 3 ข้อหาประกอบด้วย แต่งกายเรียนแบบพระสงฆ์ แจ้งความเท็จ เกี่ยวกับความผิดทางอาญารู้ว่ามิได้กระทำความผิดปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม
หลังจากก่อนหน้านี้ทางคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ ได้รับการร้องเรียนจากหน่วยงานและชาวบ้านมานานแล้วว่าครูบาบุญเลิศ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งชอบให้ลูกศิษย์ออกเรี่ยไรตามพื้นที่ต่างๆ ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน ซึ่งทางคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ ได้เข้าพูดคุยตักเตือน สั่งห่ามมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล จนมีการตรวจสอบพฤติกรรมและใบสุทธิการบวชเป็นพระก็ไม่มี ทางทางคณะสงฆ์จึงให้ไปหามาภายใน 7 วัน หากหาไม่ได้ก็ให้ลาสิกขาไป
โดยทางครูบาบุญเลิศ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังทนายกองทัพธรรม พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับทางคณะสงฆ์บ้านหมี่ว่าถูกคณะสงฆ์บีบบังคับ ข่มขืนใจ ให้ลาสิกขาจากการเป็นพระ ซึ่งทางทนายกองทัพธรรมได้เข้ามาช่วยเหลือ แต่สุดท้ายจากการตรวจไปยังต้นสังกัดทั้งในจังหวัดลพบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย ก็ไม่พบว่าครูบาบุญเลิศบวชมาจากที่ใด
ใบสุทธิประจำตัวพระที่นำมายืนยันก็ไม่มีตราประทับ แถมใบสุทธิมีทั้งของฝ่ายธรรมยุตและของฝ่ายมหานิกาย จึงทำให้พิสูจน์ได้ว่าเป็นของปลอม รวมทั้งฐานานุกรมที่ใช้ก็เป็นฐานานุกรมที่ไม่มีจริง จึงได้มาแจ้งความเอาผิดกับทางพระบุญเลิศในวันนี้
ต่อมา นายอนันตชัย ทนายกองทัพธรรม พร้อมคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ ได้ไปยังสำนักสงฆ์ที่ครูบาบุญเลิศ เป็นเจ้าอาวาส ที่ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี แต่ทางครูบาบุญเลิศ ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในสำนักสงฆ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ยืนรออยู่ที่หน้าประตูทางเข้าและได้พูดคุยเพื่อเชิญตัวครูบบุญเลิศ มายัง สภ.บ้านหมี่ ซึ่งในครั้งแรกครูบาบุญเลิศ รับปากว่าจะมา แต่ขอรอทนายส่วนตัวก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่มาตามนัด ทางนายอนันตชัย พร้อมคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานว่า เดินทางไปยังสำนักสงฆ์ดังกล่าวแล่ว แต่ทางครูบาบุญเลิศ ไม่ให้เข้าไปภายในวัด ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกครูบาบุญเลิศ พร้อมกับขอหมายเพื่อเข้าตรวจค้นภายในสำนักสงฆ์เพื่อหาหลักฐานเพิ่มต่อไป
https://www.naewna.com/local/683313
'ทนายกองทัพธรรม-คณะสงฆ์บ้านหมี่'ขึ้นโรงพักแจ้ง 3 ข้อหาหนัก 'ครูบาบุญเลิศ'
พร้อมทั้งปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม"
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 ก.ย.65 คณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านหมี่ ปลัดอำเภอ, อบต., กำนัน, ผุ้ใหญ่บ้าน, ประชาชนชาวบ้านหมี่ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี และนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม พร้อมคณะได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับครูบาบุญเลิศ ใน 3 ข้อหาประกอบด้วย แต่งกายเรียนแบบพระสงฆ์ แจ้งความเท็จ เกี่ยวกับความผิดทางอาญารู้ว่ามิได้กระทำความผิดปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม
หลังจากก่อนหน้านี้ทางคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ ได้รับการร้องเรียนจากหน่วยงานและชาวบ้านมานานแล้วว่าครูบาบุญเลิศ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งชอบให้ลูกศิษย์ออกเรี่ยไรตามพื้นที่ต่างๆ ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน ซึ่งทางคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ ได้เข้าพูดคุยตักเตือน สั่งห่ามมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล จนมีการตรวจสอบพฤติกรรมและใบสุทธิการบวชเป็นพระก็ไม่มี ทางทางคณะสงฆ์จึงให้ไปหามาภายใน 7 วัน หากหาไม่ได้ก็ให้ลาสิกขาไป
โดยทางครูบาบุญเลิศ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังทนายกองทัพธรรม พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับทางคณะสงฆ์บ้านหมี่ว่าถูกคณะสงฆ์บีบบังคับ ข่มขืนใจ ให้ลาสิกขาจากการเป็นพระ ซึ่งทางทนายกองทัพธรรมได้เข้ามาช่วยเหลือ แต่สุดท้ายจากการตรวจไปยังต้นสังกัดทั้งในจังหวัดลพบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย ก็ไม่พบว่าครูบาบุญเลิศบวชมาจากที่ใด
ใบสุทธิประจำตัวพระที่นำมายืนยันก็ไม่มีตราประทับ แถมใบสุทธิมีทั้งของฝ่ายธรรมยุตและของฝ่ายมหานิกาย จึงทำให้พิสูจน์ได้ว่าเป็นของปลอม รวมทั้งฐานานุกรมที่ใช้ก็เป็นฐานานุกรมที่ไม่มีจริง จึงได้มาแจ้งความเอาผิดกับทางพระบุญเลิศในวันนี้
ต่อมา นายอนันตชัย ทนายกองทัพธรรม พร้อมคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ ได้ไปยังสำนักสงฆ์ที่ครูบาบุญเลิศ เป็นเจ้าอาวาส ที่ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี แต่ทางครูบาบุญเลิศ ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในสำนักสงฆ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ยืนรออยู่ที่หน้าประตูทางเข้าและได้พูดคุยเพื่อเชิญตัวครูบบุญเลิศ มายัง สภ.บ้านหมี่ ซึ่งในครั้งแรกครูบาบุญเลิศ รับปากว่าจะมา แต่ขอรอทนายส่วนตัวก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่มาตามนัด ทางนายอนันตชัย พร้อมคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานว่า เดินทางไปยังสำนักสงฆ์ดังกล่าวแล่ว แต่ทางครูบาบุญเลิศ ไม่ให้เข้าไปภายในวัด ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกครูบาบุญเลิศ พร้อมกับขอหมายเพื่อเข้าตรวจค้นภายในสำนักสงฆ์เพื่อหาหลักฐานเพิ่มต่อไป
https://www.naewna.com/local/683313