สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน ผมอายุ 35 ปี แล้ว เพิ่งจะมีประสบการกับโรคงูสวัดเป็นครั้งแรก จะเรียกว่าโชคร้ายดีมั้ยไม่รู้ คือแผลงูสวัดของผมเริ่มขึ้นบริเวณเหงือก ใกล้กลับฟันกราม มีอาการแสบๆร้อนๆที่หนังศีรษะ ผิวหน้า ปวดๆตึงๆที่หู และอาการเหล่านี้ เกิดขึ้นที่ใบหน้าซีกขวาทั้งหมดครับ กลังจากนั้น เริ่มมีตุ่มน้ำใสๆที่ริมฝีปาก 3 เม็ด มีแผล คล้ายๆร้อนในหลายแผลเกิดขึ้นพร้อมกัน จึงรีบไปพบแพทย์
ในวันที่ผมไปพบแพทย์นั้นเกิดผิวหนังพุพองบริเวณหูและมีอาการหูอื้อด้วย ผมจึงอธิบายอาการทั้งหมด แพทย์จึงบอกว่ามันคืออาการของโรคงูสวัด ส่วนที่เกิดบนใบหน้านั้นจะพบได้น้อยกว่าคนที่เป็นที่ลำตัว เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นงูสวัดชนิดที่ไม่มีโรคแทรกซ้อน
ในส่วนของอาการเบื้องต้น มีอาการเจ็บแผลที่เหงือก เจ็บปวดในรูหู มีอาการหูอื้อ การได้ยินที่หูขวาลดน้อยลง 50% อาการปวดที่ส่งไปยังเส้นประสาทนี้นอกจากหูแล้ว ยังกระทบถึงเส้นประสาทฟัน ทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารตามปกตอได้ ต้องทานอาหารอ่อนๆ - เหลว ช่วงนี้จึงต้องหาอาหารทดแทนมาทานไปก่อน
ในส่วนของการรักษา ผมได้พบแพทย์ที่โรงพยาบาลราชวิถี ได้รับยาฆ่าเชื้อ Vilerm 800 mg. รับประทานวันละ 5 เวลา ห่างกัน ทุก 4 ชั่วโมง ติดต่อกัน 7 วัน พบว่าอาการปวดแผลลดลง แผลพุพองเริ่มตกสะเก็ด อาการปวดแผลที่เหงือกยังมีอยู่แต่แผลก็สมานตัวดีขึ้น แผลพุพองที่ใบหูเริ่มตกสะเก็ด
ส่วนที่น่าเป็นห่วงคืออาการหูอื้อจากการที่เชื้อเข้าไปทำลายเส้นประสาท ทำให้การได้ยินลดลง ในส่วนนี้ ผมต้องไปหาหมอเพื่อรักษาต่อเนื่องจากอาการงูสวัด หรือ ต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางดีครับ และการรักษาฟื้นฟู จะต้องต่อเนื่องยาวนานหรือไม่
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากโรคร้าย โดยเฉพาะงูสวัด ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำจากสมาชิกทุกท่านนะครับ แล้วผมจะมาอัพเดทอาการ และการรักษาในครั้งต่อๆไป สำหรับกระทูนี้ ขอบคุณและสวัสดีครับ
เป็นงูสวัดที่ใบหน้าและหู มีอาการหูอื้อ รักษาแล้วแต่อาการหูอื้อยังไม่หาย จะต้องรักษายังไงดีครับ
ในวันที่ผมไปพบแพทย์นั้นเกิดผิวหนังพุพองบริเวณหูและมีอาการหูอื้อด้วย ผมจึงอธิบายอาการทั้งหมด แพทย์จึงบอกว่ามันคืออาการของโรคงูสวัด ส่วนที่เกิดบนใบหน้านั้นจะพบได้น้อยกว่าคนที่เป็นที่ลำตัว เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นงูสวัดชนิดที่ไม่มีโรคแทรกซ้อน
ในส่วนของอาการเบื้องต้น มีอาการเจ็บแผลที่เหงือก เจ็บปวดในรูหู มีอาการหูอื้อ การได้ยินที่หูขวาลดน้อยลง 50% อาการปวดที่ส่งไปยังเส้นประสาทนี้นอกจากหูแล้ว ยังกระทบถึงเส้นประสาทฟัน ทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารตามปกตอได้ ต้องทานอาหารอ่อนๆ - เหลว ช่วงนี้จึงต้องหาอาหารทดแทนมาทานไปก่อน
ในส่วนของการรักษา ผมได้พบแพทย์ที่โรงพยาบาลราชวิถี ได้รับยาฆ่าเชื้อ Vilerm 800 mg. รับประทานวันละ 5 เวลา ห่างกัน ทุก 4 ชั่วโมง ติดต่อกัน 7 วัน พบว่าอาการปวดแผลลดลง แผลพุพองเริ่มตกสะเก็ด อาการปวดแผลที่เหงือกยังมีอยู่แต่แผลก็สมานตัวดีขึ้น แผลพุพองที่ใบหูเริ่มตกสะเก็ด
ส่วนที่น่าเป็นห่วงคืออาการหูอื้อจากการที่เชื้อเข้าไปทำลายเส้นประสาท ทำให้การได้ยินลดลง ในส่วนนี้ ผมต้องไปหาหมอเพื่อรักษาต่อเนื่องจากอาการงูสวัด หรือ ต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางดีครับ และการรักษาฟื้นฟู จะต้องต่อเนื่องยาวนานหรือไม่
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากโรคร้าย โดยเฉพาะงูสวัด ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำจากสมาชิกทุกท่านนะครับ แล้วผมจะมาอัพเดทอาการ และการรักษาในครั้งต่อๆไป สำหรับกระทูนี้ ขอบคุณและสวัสดีครับ