เป็นหนี้ หลักล้าน เพราะงานแต่งที่ล้มเหลว

แจ้งลบครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 111
ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะครับ ผมจะเก็บความเห็นกลับไปคิดไตร่ตรอง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 46
เนื่องจาก จขกท มาตอบแค่ ความเห็น 12-1 ความเห็นเดียว
(ทั้งที่หลายความเห็นให้คำแนะนำที่ดีมาก)

เราจึงเดาว่า จากหลายปัญหาที่รุมเร้า ที่สำคัญที่สุดคือคุณคาใจตรงที่ว่า
“ภรรยา รู้เรื่องหนี้คุณทุกอย่าง ทำไมยังไม่ช่วยอะไร แล้วยังจะถามหาความรับผิดชอบ จนทำให้ทะเลาะกันตลอด”

ตรงจุดนี้ น่าจะทำให้คุณไม่มีความสุขที่สุด ถึงขั้นคิดว่า จะเลิกรา พร้อมแบกหนี้หลักล้านนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวดีไหม …

มองแบบคนนอกมองเข้าไปนะคะ
คุณตัดสินใจพลาดมาตลอด  เหมือนคนอายุมาก อยากตกถังข้าวสาร
ความคิดและการตัดสินใจ ไม่เหมือนคนอายุ 40+ ที่ “จะเป็นหัวหน้าครอบครัว” เลย

ขออภัย เราไม่มีเจตนาตอกย้ำ ในจุดนี้ แต่สำคัญมาก หากอยากแก้ปัญหา
คุณต้อง “เห็นข้อบกพร่อง” ของคุณตรงนี้ก่อน เพราะจุดนี้ ชี้ให้เห็นนิสัยคุณ
และ จะโยงไปให้คำตอบได้ว่า ทำไม ตอนนี้ ภรรยาคุณ ถามหา ความรับผิดชอบจากคุณ

(เดาว่า)
เธอเองตอนนี้ ก็คิดแบบคุณค่ะ คิดว่าตัวเอง ตัดสินใจพลาด มาแต่งกับคุณ
ผู้ชายที่เป็นหลักอะไรในชีวิตให้ไม่ได้เลย  ไม่มีความเป็นผู้นำเลย เธอจึงหงุดหงิดใส่ และไม่ให้เกียรติคุณ

ตอนนั้นคุณทั้งคู่ คงรักกัน จนมองข้ามความเป็นจริงหลายอย่างมาก
ฝันกันไปเอง ว่า เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น ไม่คิดคำนวณถึงความเสี่ยงภายหน้ากันเลย

คุณยอมเริ่มต้นชีวิตคู่จากการเป็นหนี้ขนาดนั้น เพราะคุณอยาก แต่งงานกับเธอ ดีใจที่ได้เมียรวย
__ แต่ก็ไม่ใช่อย่างที่ฝัน  ประโยชน์จากความรวยของเธอยังไม่ได้ให้ผลตอบแทนรวดเร็วทันใจคุณ

เธอเอง ยอมแต่งกับชายที่จนกว่ามาก เพราะรักบังตา คาดหวังในใจว่า ศักยภาพ คุณจะมีพอที่ทำให้เธอมีความสุขได้  
__ แต่ไม่มีเลย  คุณทำสวน ก็หวังแต่รายได้จากสวน ไม่มีความสามารถใดมากกว่านี้ ที่จะก่อเกิดรายได้ทางใดขึ้นมา

สามปีผ่านไป … ความรักที่บังตาอยู่ ก็เริ่ม จืดจาง ความจริงปรากฎชัด
เธอที่เคยอ่อนหวาน น่ารักในสายตาคุณ กลายเป็น คนที่ดูถูก กดข่ม ด่าทอ บั่นทอนกำลังใจกัน
คุณที่เคยเหมือนฮีโร่ หวังว่าจะฝากผีฝากไข้ได้ในสายตาเธอ เป็นแค่ คนขี้แพ้ ไร้ประโยชน์

ตอนนี้ คุณ และเธอเท่านั้น ที่ตอบใจตัวเองได้ ว่ารักมาถึงทางตันหรือยัง ?

_ถ้าไม่รักกันแล้ว  คุณ ต้องรีบออกมา  หางานทำ ก้มหน้าก้มตาใช้หนี้ไป
ยิ่งฝืนอยู่ ยิ่งไร้ค่า เมื่อคุณต้องทนฟังถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม   บ่อยๆ  … นานๆไป
คุณจะเริ่มเกลียดตัวเองมากขึ้น มากขึ้น  ที่ ไร้ทางออก  ที่ ไร้อนาคต  ที่ แก่ตัวลงทุกวัน
และคุณจะโทษเธอ จะเกลียดเธอเข้าไส้ … วันหนึ่ง อาจจะระเบิดโทสะออกมา ในแบบที่คุณก็ไม่เชื่อ ว่าตัวเองจะทำลงไปได้

_ ถ้ายังรักกันอยู่ คุณต้องแสดงให้เธอ เห็นว่า คุณพร้อมจะสร้างรายได้เพิ่ม
ปรึกษากันว่า จะหาช่องทางทำกินจากที่ใดได้บ้าง  คว้าทุกโอกาสที่มี  ไม่เอาแต่รอทุเรียนโต มันไม่แน่นอน  และ ไม่ทันการณ์
ลองฟังดีๆ ว่าที่เธอบ่นน่ะ บ่นว่า ระหว่างวัน คุณเอาแต่เล่นเกม หรือเล่นเน็ต หรือดูสื่อบันเทิง
แบบหายใจทิ้งไปวันๆ  หรือเปล่า  ถ้าใช่ คุณต้องกระตือรือร้นมากกว่านี้ ที่จะเพิ่มพูนศักยภาพตัวเอง

เคล็ดลับสำคัญ _ ทำให้เธอเห็นว่าคุณพร้อมลุย พร้อมสู้ทุกอย่าง หากคุณยังรักเธอ
และหากเธอยังรักคุณ  ขอเพียงคุณมีผลงานให้เห็นแม้นิดหน่อย เธอก็ยังจะพร้อมอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจคุณค่ะ

เรื่องนี้ มันแก้ยากจริงๆ เพราะมันมีเรื่องอีโก้เข้ามาเกี่ยวข้อง  มันมีการโยนความผิดไปให้กันและกันอยู่

เราหวังว่า คำตอบของเราจะเป็นแนวทาง ให้คุณทั้งคู่ หันมาปรับความเข้าใจกันได้นะคะ

เทียน
ความคิดเห็นที่ 17
ก็ไม่แปลก ปัญหาทั้งหมดมันก็มาจากการตัดสินใจผิดๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของคุณเองนั่นแหละ

ผ่อนรถมาขนผลไม้? ได้คำนวนจริงๆจังๆ ทำแผนธุรกิจดูหรือป่าว ว่ากำไรขาดทุนเท่าไหร่ กระแสเงินสดเป็นยังไง ผมมั่นใจว่าไม่

เอาบ้านเข้าแบงค์ เพื่อเป็นสินสอด และปิดเป็นความลับ อันนี้ก็สิ้นคิดเกิน ทำไปได้ยังไง

สุดท้าย ออกจากงาน ก็เหมือนเดิม ได้คำนวนรายรับรายจ่ายก่อนหรือป่าว ถ้าคิดสักหน่อยก็จะรู้อยู่แล้วว่ามีปัญหาแน่นอน

เหมือนแกล้งทำเป็นรวยให้ครอบครัวผู้หญิงยอมรับ สุดท้ายก็ไม่รอด มันผิดตั้งแต่แรกแล้ว
ความคิดเห็นที่ 42
เอาละไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เป็นผมทำแบบนี้ คุณต้องประเมินความเสี่ยงก่อน

1. ถ้าแฟนเป็นลูกสาวคนเดียว ถ้าพ่อตาไม่อยู่แล้ว ทุกอย่างคุณมีโอกาสและคุ้มพอที่จะหวัง อย่างน้อยๆมันก็ดีกว่าทำงานเดือนละ 30,000 แหละครับ เพราะคุณจะเป็นผช.คนเดียวในบ้าน ถ้าแฟนเป็นลูกคนเดียว แนะนำให้สู้ต่อ เดี๋ยวค่อยคุยว่าทำยังไง

2. ถ้าแฟนไม่ใช่ลูกคนเดียว มีพี่สาว พี่เขยที่ช่วยดูสวนมาก่อนหน้าคุณแต่งเข้ามา หรือแฟนมีพี่ชาย น้องชาย ถ้าเป็นแบบนี้ ท้ายสุดก็ไม่ได้อะไรครับ ที่ดิน สวน จะไม่ใช่ของคุณแน่นอน ทำใจ หวังรวยได้ยากเลย จะได้ก็แค่ 3 ไร่นี่แหละ ถ้าเขามีพี่เขยจ้องจะเอาที่พ่อตาแบบคุณ อาจได้กินลูกปืนแทนด้วย อันตรายครับเรื่องมรดก ตายกันง่ายๆ

ตอนนี้ทำไงดี ผมไม่รู้นะว่าสถานการณ์จริงเป็นไง แต่ทำตัวให้ดีที่สุดในชีวิตเรียกคะแนนครับ

- พ่อตา แม่ยาย นี่ตัวหลัก อายุคงเกิน 60 แล้ว ใครจะไปไหน เข้าเมือง ไปวัด ไปทำบุญ คุณบริการแกเต็มที่ มันอาจจะฝืนๆ แต่สถานการณ์ แบบนี้ ตอฯ หน่อยต้องทำ ทำตัวให้น่ารักก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากแก เข้าไปคุยปัญหาก่อนที่แกรักคุณ รู้ใช่ไหมผลจะเป็นไง

- เมีย เงินทองมีน้อยหน่อยช่วงนี้ก็ดูแลแบบอื่น พูดคุยให้ดีๆ ใจเย็น เอาใจใส่ เป็นธุระให้ กิจกรรมทั้งกลางวัน กลางคืน อย่าให้บกพร่อง สร้างภาพจำใหม่ๆให้เมียบ้าง แบบว่าเป็นผัวที่ใจดี น่ารัก เอาใจใส่ อึด และมีท่ายาก อะไรว่าไป ตอนนี้เมียมีแต่ภาพจำผัวในเวอร์ชั่นไม่ค่อยมีเงินอย่างเดียว มันไม่ดี

- ตัวคุณ แต่งกับเมียมา 3-4 ปี ผมว่าก็คงเข้ากับพ่อตา แม่ยายได้บ้าง เรียนรู้งานจากแก ไอ้เราไม่ใช่คนไร่คนสวน เค้าก็ไม้ไว้ใจ ดูถูกหน่อยๆแหละ แต่อายุ 40 กว่าแล้วมันก็ต้องลุยซักตั้ง ก่อนหน้านี้ยังเรื่อยเปื่อยทำงานเงินเดือนสามหมื่นกว่ามาได้ตั้งนาน คุณก็รู้ว่ามันน้อย จริงไหมกับอายุงานขนาดคุณ

สิ่งที่ต้องทำจากนี้คือ

ทำตัวให้ดี ให้น่ารัก ใช้ง่าย อันนี้ทำไว้ก่อนเลย ช่วยแกทุกอย่าง

ไหนๆมีรถแล้ว เข้าใจงานสวนแล้ว บอกพ่อแม่แฟนว่าช่วงงานน้อยๆ ผมอยากหารายได้เพิ่ม เอาผลไม้ไปขายในกทม พ่อแม่แนะนำหน่อยครับ คือไม่ต้องรอผลไม้แต่สวนเรา เราเพิ่มอาชีพค้าขายไปด้วยเลยครับ ถ้าไม่มีทุน คุยกับเมียครับ บอกเมียว่าเราเอาผลไม้ เอาของไปขายกทมเป็นเที่ยวๆไหม เธอจะได้ไม่ต้องอยู่แต่บ้านสวน ได้แต่งตัวสวยๆออกจากบ้านบ้าง เราได้ไปเที่ยวกันบ้าง กินอะไรอร่อยๆบ้าง ทุนก็ขอพ่อแม่เธอก่อนได้ไหม … งานนี้เมียได้ประโยชน์ด้วย น่าจะคุยกับพ่อตาแม่ยายได้ บางทีค้าขายอาจเข้าทางคุณก็ได้นะครับ จังหวะชีวิตคน ไม่แน่ไม่นอน ดิ้นรนไป อย่าเพิ่งตายเป็นใช้ได้ครับ

ตัวคุณเอง ออกกำลังกาย ร่างกายแข็งแรง สมองปลอดโปร่ง คิดอะไรก็ออกครับ หน้าเด็กลง ความฟิตดี เมียหึงเองครับ ผัวดีๆเมียก็ไม่อยากเสียไปหรอก

ขอให้โชคดีครับ
ความคิดเห็นที่ 11
ไม่ใช่ปัญหาการแต่งงาน แต่เป็นปัญหาชีวิตคู่รวมถึงการบริหารการเงิน

คุณหวังมากไป คิดไปเองว่า จะขายทุเรียนได้แบบโน้นแบบนี้ จึงสร้างหนี้เกินตัว รวมถึงไปทุ่มให้กับครอบครัวฝ่ายหญิงจนหมดทั้งที่ยังไม่ควร

ตอนนี้คุณกลายเป็นคนที่หาเงินลำบาก ต้องพึ่งครอบครัวฝ่ายหญิงทุกอย่าง ถ้าวันไหน ฝ่ายหญิงไม่ให้อะไรคือหมดเลยนะ

แนะนำอย่างแรก จะไปต่อกับผู้หญิงคนนี้ไหม ถ้าไม่ เตรียมเจ็บแต่จบไว้เลย ออกไปหางานใหม่ พึ่งตัวเองให้ได้จะดีกว่า ตอนนี้คุณกำลังใช้ชีวิตโดยหวังให้ครอบครัวอีกฝ่ายช่วย ดูเป็นการหวังน้ำบ่อหน้ามากๆ

สอง ถ้าจะอยู่กับผู้หญิงต่อ ต้องเด็ดขาด อันไหนให้ อันไหนเก็บ เงินตรงไหนของใคร ได้อะไรบ้าง เคลียร์ให้เรียบร้อย ย้ายทรัพย์สิน ตกลงกันให้ดี ดูเหมือนคนเตรียมชิ่ง แต่จริงๆแบบที่คือทำแฟร์ๆ ไม่งั้น วันไหนผู้หญิงมีคนใหม่หรือครอบครัวเขาไม่เอาคุณ คุณจะได้มีอะไรติดตัวไว้บ้าง

ขอเตือนว่า คุณเป็นคนนอกนะครับ แค่แต่งงาน หย่าร้างเมื่อไรคือคนอื่น อันนี้ต้องจำให้ดี อยากให้คุณใช้ชีวิตพึ่งพาตัวเองก่อน อย่าไปหวังกับคนอื่น
ความคิดเห็นที่ 2
ปัญหาที่เกิดขึ้น มันเกิดจากทำอะไรไม่รู้จักวางแผน ไม่ศึกษา  ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับเมียเลย  และที่ชัดเจนที่สุด  คุณไม่โทษตัวเองเลย

รายได้ 30,000 สร้างหนี้ 23,000  

จะเอารถมาหารายได้เสริม  เคยคิดมั้ยว่า ปีนึงมันจะได้กำำไรซักกี่บาท  มันหารายได้ ได้กี่เดือน  

ออกจากงานมา  เคยคุยกันเรื่องรายได้มั้ย  เคยศึกษามั่ยว่าทำเกษตร มันทำยังไง  รู้มั่ยว่าทุเรียนมันออกผลกี่เดือน  ปีนึงได้ผลิตกี่ตัน  และที่สำคัญ เค้ายกที่ให้ดูแลแค่ไหน  ผลผลิตจะได้ซักเท่าไร

สิ่งที่ควรทำ
1.อย่างแรกเลย คุยกับเมียให้ชัดเจน เรื่องหนี้สินที่มี ค่าใช้จ่ายที่มีต่อเดือน  และรายรับที่มี
2.ตัดภาระหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ทั้งหมด ขายบ้าน ขายรถ   ขาดทุนแน่นอน  แต่ดีกว่ากอดมันไว้ รอวันตาย
3.กลับไปหางานทำซะ  ยิ่งอยู่เฉยๆรอผลผลิต 4 ปี  ยิ่งรอวันตาย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่