บอกก่อนเลยค่ะว่า แก้วชอบทำสีผมอยู่ตลอด แต่สิ่งทีตามมาคือผมจะเสีย ไม่ว่าจะแห้งเสียเหมือนไฟช็อต ผมกรอบ รู้สึกได้ทันทีว่า…ถ้าทำสีผมมา  ถึงสีจะสวยแค่ไหน  แต่ถ้าสภาพผมแบบนี้ จากที่สีผมสวยปังๆ คงจะเปลี่ยนเป็นพังแน่ๆ!! เลยต้องหาทรีทเม้นท์บำรุงเส้นผม ให้ผมกลับมาสวยปังๆ จนเริ่มได้ลองใช้หลายยี่ห้อมาก และจากประสบการณ์ตัวของแก้วเอง คัดมาแล้วว่า …เออนี่แหละ !! ทรีทเม้นท์บำรุงเส้นผม!เหมาะสำหรับเส้นผมของเรา
ตัวที่เห็นผลลัพธ์ได้ไวสุดๆ สำหรับแก้วแล้วมีอยู่ 3 ตัว ใช้แล้วส่วนตัวประทับใจมากๆ ค่ะ วันนี้เลยอยากให้เพื่อนๆ ที่มีปัญหาผมเสีย…กำลังมองหาทรีทเม้นท์ดีๆ ที่คิดว่าใช้แล้วเส้นผมต้องกลับมาดี สวยปังเหมือนเดิมได้แน่นอน…มาแชร์กันเลยค่ะ 

แต่ละตัวจะเป็นอย่างไรบ้าง ? มาดูกันเลยค่ะ

ตัวแรกเลยนะคะ Joji Keratin Treatment Mask เด่นๆเลย ตัวนี้จะเป็นทรีทเม้นต์มาส์กเข้มข้น สูตร เคราติน+ชาโคล ช่วยขจัดสารเคมีตกค้าง ซ่อมแซมผมแห้งเสีย ชี้ฟู และพันกัน ให้ผมกลับมานุ่มสลวย เปล่งประกายเงางาม ดูมี น้ําหนัก ฟื้นบํารุงหนังศีรษะ ลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง พร้อมปกป้องผมจากความร้อน สารเคมี และมล ภาวะ ให้ผมดูสวยสุขภาพดี 

เนื้อสัมผัส : ตัวนี้เป็นเนื้อสีชาโคลตามสูตรของเค้า มีความเข้มข้นด้วยส่วนผสมเคราติน, Pro Vitamin B5, Oil จากธรรมชาติ, เมล็ดมะรุม และ Egg York
ความรู้สึกประทับใจหลังจากใช้ตัวนี้ : ผมนุ่มขึ้นทันทีหลังจากใช้ครั้งแรกเลยค่ะ ผมไม่พันกัน ตลอดเวลาที่ทำการหมักผมด้วยทรีทเม้นท์ตัวนี้ หลังจากหมักผมแล้วล้างน้ำออกให้สะอาด รู้สึกได้เลยว่า เส้นผมร่วงน้อยลงมากทั้งตอนล้างหัวกับตอนผมแห้งแล้วหวีผม เส้นผมมีกลิ่นหอมติดผม อันนี้คือชอบมาก พอได้ใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เส้นผมของแก้วที่ผ่านการทำสีมาหลายครั้ง ที่เคยแห้งกรอบ เริ่มกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เส้นผมนุ่มลื่น ไม่ขี้ฟูด้วยค่ะ กลายเป็นทรีทเม้นท์ล่าสุดที่แก้มรู้สึกว่าเป็นไอเท็มเด็ดประจำตัวแก้วไปแล้ว
ปกติแล้ว แก้วจะหมักผมทรีทเม้นท์ ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือถ้าช่วงไหนที่สระผมบ่อยๆ ก็จะหมักทรีทเม้นท์ผมหลังสระผมทุกๆ ครั้ง ประมาณ 3-5 นาที แล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

อ่อ แล้วลืมบอก !!! ทรีทเม้นท์โจจิตัวนี้ เค้ามีแบบซองให้เพื่อนๆ ทดลองใช้กันก่อนด้วยนะ เผื่อใครอยากลองแบบเล็กๆ ก่อน แก้วเองก็เริ่มจากแบบซองนี่แหละ แต่ใช้แล้วรู้สึกดี ก็เลย ซื้อมาเป็นแบบกระปุกไปเลยจ้า จะได้ใช้แบบจุใจ ราคาแบบกระปุกถ้าเทียบกับปริมาณแล้ว ถูกกว่าแบซองด้วยนะจ๊ะ ราคาน่ารักมาก แถมยังพกพกสะดวก
ข้อดี :: แก้ปัญหาผมเสีย แห้ง ชี้ฟูได้จริง ผมร่วงน้อยลงเวลาล้างหัวกับตอนแห้งๆแล้วใช้หวีหวีผม

ข้อด้อย :: มีกลิ่นหอมแต่กลิ่นไม่ได้ติดตลอดทั้งวัน อาจจะเพราะเราต้องเจอมลพิษเยอะ แอบใจเสียใจนิดนึงค่ะ น่าจะหอมติดทนนานกว่านี้

ตัวที่ 2 คือ TRESemme ตัวนี้คุณสมบัติเด่นๆ เลยคือ แก้ปัญหาสภาพผมเสียจากการทำสีและกัดสีเช่นกัน เพื่อให้ผมเปล่งประกาย เงางาม ช่วยให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดีจากผมแห้งเสียที่ผ่านความร้อน โดนกัด และทำสีสารพัด

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมสีขาวเข้มข้นจากส่วนผสมของ สารสกัดจากรกพืช (Plant Placenta)
ความรู้สึกประทับใจหลังจากใช้ตัวนี้ : แก้วรู้สึกว่า สภาพผมของแก้ว ค่อยๆ กลับมามีสุขภาพดี เส้นผมผมดูชุ่มชื่น มีน้ำหนัก ไม่แห้งเสีย ใช้ไปสักพักรู้สึกว่าผมเราได้ถูกฟื้นฟู ซ่อมแซมจริงๆ สาวๆ คนไหนที่มีงบประมาณในการหมักผม ทำทรีทเม้นท์ผมด้วยตัวเอง ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี 

ข้อดี :: ผมชุ่มชื่น มีน้ำหนักมากขึ้น  ผมลื่นมากกกก แก้ปัญหาผมแห้งเสียได้ค่ะ

ข้อด้อย :: ล้างออกยากไปนิดนึงค่ะ 

และตัวที่ 3 ตัวสุดท้าย LOLANE Natural Hair Treatment For Dry&Damaged ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่ถูกใจเลยค่ะ คุณสมบัติเด่นๆ คือ เพื่อผมเรียบลื่น จัดทรงง่าย มีน้ำหนัก 

เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อครีมสีขาวข้น ตัวนี้ข้นกว่าตัวที่ 2 ด้วยส่วนผสมของโจโจ้บา และโปรตีนจากไยไหม
ความรู้สึกประทับใจหลังจากใช้ตัวนี้ : ใช้แล้วผมเรียบลื่นตั้งแต่ครั้งแรกเลยค่ะ โดนลมผมยังกลับมาสลวยได้ค่ะ และผมเสียจากการดัด หรือทำสี อาจจะต้องใช้เวลาสักพัก แล้วก็จะค่อยๆดีขึ้นค่ะ

ข้อดี :: ผมเรียบลื่น สลวยสวย จัดทรงง่าย มีน้ำหนัก

ข้อด้อย :: อาจจะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูสภาพผมด้วยทรีเม้นท์ตัวนี้นานกว่าปกติ หากเทียบกับหลายๆ ทรีเม้นท์ที่เคยใช้มา สำหรับคนที่มีปัญหาผมเสียนิดนึงค่ะ

สำหรับผลลัพธ์และความประทับใจ ถ้าถามว่า ทรีทเม้นท์บำรุงผม 3 ตัวนี้ อันไหนใช้ดีและคุ้มค่ามากที่สุด แก้วยกให้ Joji Keratin Treatment Mask มาเป็นอันดับ 1 เพราะหอมมากกก ชอบความหอม ติดใจตรงที่ปกติเวลาเราล้างทรีทเมนต์บางยี่ห้อผมจะร่วงออกมานะ แต่อันนี้คือไม่ค่อยร่วงเยอะเท่าเมื่อก่อนแล้ว ก็เลยติดใจ ถามว่าจะซื้อต่อมั้ย ก็ถ้ามีโปรก็ว่าจะซื้อแหละ มีกลิ่นหอมติดผมตลอดทั้งวัน และที่สำคัญหาซื้อง่าย ราคาไม่แพงด้วย