พฤติการณ์ของปูติน ในเรื่องสงคราม

จากจุดสูงสุด เป็นวีรบุรุษของประเทศ พาชาติเจริญก้าวหน้า
พอมาถึงสงคราม
1. เป็นผู้รุกรานประเทศอื่น ด้วยข้ออ้างไร้สาระ พอยึดได้รีบประชามติ อ้างว่าเป็นดินแดนตัวเอง
นี่คือพฤติการณ์ของโจร ลักขโมยของ ลักเสร็จรีบแปรรูปเป็นเงินสด

2. เมื่อใกล้แพ้ ลนลาน ไม่ได้เห็นว่าแพ้เพราะตัวเองวางแผนผิดพลาด หรือพฤติการณ์ตัวเองมันขัดต่อศีลธรรม แต่ไปโทษชาวบ้านที่มาช่วย ต่อมาอ้างว่า่เป็นดินแดนของตัวเอง ขู่ว่าถ้าคนอื่นมายุ่งหรือช่วยจะถือว่าเป็นศัตรูกันจะยิงให้ตาย
นี่ก็ตรงกับพฤติการณ์บางอย่างอีก ซึ่งทุกคนจะเคยได้ยินได้เห็นบ่อย ๆ
เมื่อมีคนต้องการวิ่งราวทรัพย์ สมมติว่า ผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อผู้หญิงคนนั้นขัดขืน ทุกคนคงคิดได้ว่าโจรจะทำอย่างไร
ใช่แล้ว โจรจะรีบบอกคนทั่วไปว่า นี่คือ ภริยา"ของ"ตนเอง ใครอย่ามายุ่งเรื่องสามีภริยา ใครมายุ่ง จะยิงให้ตาย

พฤติการณ์ของปูติน ไม่ใช่ความประพฤติของ ลูกผู้ชายคนหนึ่งหรือนักรบคนหนึ่ง แต่เป็นพฤติกรรมของหัวขโมยธรรมดา
และน่าเสียใจกับติ่งที่จะบอกว่า "ไม่ว่ายุโรป หรือเมกา (ชาวบ้าน) จะเดือดร้อนแค่ไหน ก็คงไม่ยอมเลิกความช่วยเหลือ"
เพราะอะไร คิดได้ง่ายว่า ไม่มีใครเชื่อหัวขโมยคนหนึ่ง แต่เขาจะเชื่อว่าถ้าไม่ลงโทษให้หนัก หัวขโมยคนนี้จะไม่หลาบจำ
มีเวลาก็จะทำอีก

และติ่งรู้ตัวได้แล้วว่า คนเราไม่จนตรอก คงไม่ขู่ชาวบ้าน ด้วยอาวุธอย่างเดียวของตนที่ขู่คนอื่นได้
และถ้าไม่จนตรอกก็คงไม่เกณฑ์ทหาร โดยการเสี่ยงกับความแตกแยกให้ประเทศแน่นอน
หรือติ่งจะเชื่อว่า ปชช. รัสเซีย ดีใจที่ได้จากครอบครัว จากเงินเดือนหลายหมื่น ออกมาเสี่ยงตายในดินแดนศัตรู ที่แม้แต่ศพ ก็คงไม่ได้กลับบ้าน
อ่ะนะ (แต่ติ่งรัสก็คงเชื่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่