รัสเซีย ยูเครน : อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีคืออะไร
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า เขากำลังเคลื่อนย้าย "กองกำลังป้องปราม" ซึ่งหมายถึงอาวุธนิวเคลียร์ ให้อยู่ในสถานะ "พร้อมรบ"
เรื่องนี้ทำให้เกิดความกังวลว่า รัฐบาลรัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ "เชิงยุทธวิธี" ซึ่งไม่ใช่การทำสงครามนิวเคลียร์แบบเต็มรูปแบบ แต่ก็เป็นพัฒนาการที่น่ากังวล
อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี คืออาวุธนิวเคลียร์ที่อาจใช้โจมตีในระยะใกล้ ต่างจากอาวุธนิวเคลียร์ "ทางยุทธศาสตร์ (strategic)" ในสมัยสงครามเย็น
อาวุธเหล่านี้คือระเบิดที่ชาติมหาอำนาจ 2 ชาติคือ สหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต อาจใช้ยิงในระยะไกลเพื่อโจมตีดินแดนของอีกฝ่าย
แต่คำว่า "เชิงยุทธวิธี (tactical) " ใช้ได้กับอาวุธหลายชนิดรวมถึง ระเบิดและขีปนาวุธขนาดเล็กที่ใช้เป็นอาวุธใน "สนามรบ"
รัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีแบบไหนบ้าง
คาดว่ารัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีราว 2,000 ลูก ซึ่งอาจจะถูกติดตั้งไว้กับขีปนาวุธที่ปกติใช้ในการยิงวัตถุระเบิดแบบทั่วไปได้
อาจจะมีการยิงอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีในแบบเดียวกับการยิงกระสุนปืนใหญ่ในสนามรบได้
นอกจากนี้ก็อาจจะพัฒนาให้ใช้ได้กับเครื่องบินและเรือ เช่น ตอร์ปิโด และระเบิดน้ำลึก เพื่อโจมตีเรือดำน้ำได้
แต่ความกังวลอย่างหนึ่งคือรัสเซียอาจจะตั้งใจที่จะใช้อาวุธเชิงยุทธวิธีขนาดเล็ก มากกว่าจะใช้ขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่
"พวกเขาอาจจะไม่มองว่า มันข้ามเส้นแบ่งนิวเคลียร์ พวกเขาอาจเห็นว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังปกติ" ดร.แพทริเซีย ลูอิส หัวหน้าโครงการความมั่นคงระหว่างประเทศ ที่ชาทัม เฮาส์ (Chatham House) สถาบันว่าด้วยกิจการต่างประเทศ ในกรุงลอนดอน กล่าว
อาวุธเหล่านี้ทรงพลังมากแค่ไหน
อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีมีขนาดและอานุภาพที่แตกต่างกันอย่างมาก
หัวรบที่เล็กที่สุดอาจจะมีขนาด 1 กิโลตัน หรือน้อยกว่านั้น (เทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นที 1,000 ตัน) หัวรบที่ใหญ่ขึ้นมาอาจจะมีขนาด 100 กิโลตัน
ผลกระทบของมันขึ้นอยู่กับขนาดของหัวรบ ระยะระเบิดเหนือพื้นดินสูงแค่ไหน และสภาพแวดล้อมในพื้นที่นั้น ๆ
ส่วนระเบิดที่สังหารผู้คนราว 146,000 คน ในเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีขนาด 15 กิโลตัน
คาดว่าอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย มีขนาดอย่างน้อย 800 กิโลตัน
การที่ปูตินพูดถึงอาวุธนิวเคลียร์ทำให้เกิดความกังวลขึ้นหรือไม่
ประธานาธิบดีปูติน ได้พูดถึงอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียมากกว่า 1 ครั้ง และเห็นได้ชัดว่า เป็นการพยายามสร้างความรู้สึกหวาดกลัวขึ้น
สายลับของสหรัฐฯ มองว่า นี่คือสัญญาณที่ส่งไปถึงชาติตะวันตกไม่ให้เข้ามาแทรกแซงเหตุการณ์ในยูเครนมากไปกว่านี้ แต่ไม่ใช่สัญญาณว่า เขากำลังวางแผนจะทำสงครามนิวเคลียร์
แต่หลายคนกังวลว่า แม้ว่าโอกาสจะมีไม่มากแต่ก็เป็นไปได้ว่ารัสเซีย อาจจะถูกยั่วยุให้ใช้อาวุธเชิงยุทธศาสตร์ขนาดเล็กในยูเครนได้ในบางสถานการณ์
ดร.มารีอันนา บูด์เจรีน ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ที่ศูนย์เบลเฟอร์เพื่อกิจการระหว่างประเทศและวิทยาศาสตร์ ที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคนเนดี (Harvard Kennedy School) ทวีตข้อความว่า
"ปูตินพึงพอใจที่จะอยู่ในโลกที่แบ่งขั้วเป็น 'มีเสถียรภาพ-ไร้เสถียรภาพ'
ขณะที่ชาติตะวันตกรู้สึกห่อเหี่ยวจากคำขู่นิวเคลียร์ของเขา ราวกับว่าระบบยับยั้งหลายพันล้านดอลลาร์ของนาโตไม่มีค่าอะไร นอกจากเป็นเสือกระดาษ"
............
กองทัพรัสเซียอาจยิงหัวรบนิวเคลียสร์ขนาดเล็กโดยการใช้ปืนใหญ่ทั่วไปได้ อย่างปืนใหญ่อัตตาจร "Malka"
เจมส์ แอ็กตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ที่องค์กรคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ (Carnegie Endowment for International Pace)
ในกรุงวอชิงตัน ดีซี กล่าวว่า "ผมค่อนข้างกังวลจริง ๆ ว่า ในสถานการณ์เช่นนั้นปูตินอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ น่าจะเป็นในยูเครน เพื่อทำให้ทุกคนหวาดกลัวและยอมทำตามที่เขาต้องการ เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น"
ดร.เฮเธอร์ วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ที่คิงส์ คอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า ปัญหาอย่างหนึ่งคือยังไม่แน่ชัดว่า "ชัยชนะ" ในยูเครนสำหรับปูตินนั้นเป็นอย่างไร และนั่นอาจจะเป็นตัวผลักดันให้รัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์
ที่ผ่านมาอาวุธนิวเคลียร์เคยถูกใช้เพียงแค่ครั้งเดียวโดยสหรัฐฯ ในการโจมตีญี่ปุ่นช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2
ปูตินอยากจะเป็นผู้นำคนที่ 2 ที่นำอาวุธนิวเคลียร์กลับมาใช้อีกครั้งหรือไม่
กองทัพยูเครน จะโดนระเบิดอะไรก่อน ระหว่าง FAB-9000 กับ นิวเคลียร์ เชิงยุทธวิธี
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า เขากำลังเคลื่อนย้าย "กองกำลังป้องปราม" ซึ่งหมายถึงอาวุธนิวเคลียร์ ให้อยู่ในสถานะ "พร้อมรบ"
เรื่องนี้ทำให้เกิดความกังวลว่า รัฐบาลรัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ "เชิงยุทธวิธี" ซึ่งไม่ใช่การทำสงครามนิวเคลียร์แบบเต็มรูปแบบ แต่ก็เป็นพัฒนาการที่น่ากังวล
อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี คืออาวุธนิวเคลียร์ที่อาจใช้โจมตีในระยะใกล้ ต่างจากอาวุธนิวเคลียร์ "ทางยุทธศาสตร์ (strategic)" ในสมัยสงครามเย็น
อาวุธเหล่านี้คือระเบิดที่ชาติมหาอำนาจ 2 ชาติคือ สหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต อาจใช้ยิงในระยะไกลเพื่อโจมตีดินแดนของอีกฝ่าย
แต่คำว่า "เชิงยุทธวิธี (tactical) " ใช้ได้กับอาวุธหลายชนิดรวมถึง ระเบิดและขีปนาวุธขนาดเล็กที่ใช้เป็นอาวุธใน "สนามรบ"
รัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีแบบไหนบ้าง
คาดว่ารัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีราว 2,000 ลูก ซึ่งอาจจะถูกติดตั้งไว้กับขีปนาวุธที่ปกติใช้ในการยิงวัตถุระเบิดแบบทั่วไปได้
อาจจะมีการยิงอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีในแบบเดียวกับการยิงกระสุนปืนใหญ่ในสนามรบได้
นอกจากนี้ก็อาจจะพัฒนาให้ใช้ได้กับเครื่องบินและเรือ เช่น ตอร์ปิโด และระเบิดน้ำลึก เพื่อโจมตีเรือดำน้ำได้
แต่ความกังวลอย่างหนึ่งคือรัสเซียอาจจะตั้งใจที่จะใช้อาวุธเชิงยุทธวิธีขนาดเล็ก มากกว่าจะใช้ขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่
"พวกเขาอาจจะไม่มองว่า มันข้ามเส้นแบ่งนิวเคลียร์ พวกเขาอาจเห็นว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังปกติ" ดร.แพทริเซีย ลูอิส หัวหน้าโครงการความมั่นคงระหว่างประเทศ ที่ชาทัม เฮาส์ (Chatham House) สถาบันว่าด้วยกิจการต่างประเทศ ในกรุงลอนดอน กล่าว
อาวุธเหล่านี้ทรงพลังมากแค่ไหน
อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีมีขนาดและอานุภาพที่แตกต่างกันอย่างมาก
หัวรบที่เล็กที่สุดอาจจะมีขนาด 1 กิโลตัน หรือน้อยกว่านั้น (เทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นที 1,000 ตัน) หัวรบที่ใหญ่ขึ้นมาอาจจะมีขนาด 100 กิโลตัน
ผลกระทบของมันขึ้นอยู่กับขนาดของหัวรบ ระยะระเบิดเหนือพื้นดินสูงแค่ไหน และสภาพแวดล้อมในพื้นที่นั้น ๆ
ส่วนระเบิดที่สังหารผู้คนราว 146,000 คน ในเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีขนาด 15 กิโลตัน
คาดว่าอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย มีขนาดอย่างน้อย 800 กิโลตัน
การที่ปูตินพูดถึงอาวุธนิวเคลียร์ทำให้เกิดความกังวลขึ้นหรือไม่
ประธานาธิบดีปูติน ได้พูดถึงอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียมากกว่า 1 ครั้ง และเห็นได้ชัดว่า เป็นการพยายามสร้างความรู้สึกหวาดกลัวขึ้น
สายลับของสหรัฐฯ มองว่า นี่คือสัญญาณที่ส่งไปถึงชาติตะวันตกไม่ให้เข้ามาแทรกแซงเหตุการณ์ในยูเครนมากไปกว่านี้ แต่ไม่ใช่สัญญาณว่า เขากำลังวางแผนจะทำสงครามนิวเคลียร์
แต่หลายคนกังวลว่า แม้ว่าโอกาสจะมีไม่มากแต่ก็เป็นไปได้ว่ารัสเซีย อาจจะถูกยั่วยุให้ใช้อาวุธเชิงยุทธศาสตร์ขนาดเล็กในยูเครนได้ในบางสถานการณ์
ดร.มารีอันนา บูด์เจรีน ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ที่ศูนย์เบลเฟอร์เพื่อกิจการระหว่างประเทศและวิทยาศาสตร์ ที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคนเนดี (Harvard Kennedy School) ทวีตข้อความว่า
"ปูตินพึงพอใจที่จะอยู่ในโลกที่แบ่งขั้วเป็น 'มีเสถียรภาพ-ไร้เสถียรภาพ'
ขณะที่ชาติตะวันตกรู้สึกห่อเหี่ยวจากคำขู่นิวเคลียร์ของเขา ราวกับว่าระบบยับยั้งหลายพันล้านดอลลาร์ของนาโตไม่มีค่าอะไร นอกจากเป็นเสือกระดาษ"
............
กองทัพรัสเซียอาจยิงหัวรบนิวเคลียสร์ขนาดเล็กโดยการใช้ปืนใหญ่ทั่วไปได้ อย่างปืนใหญ่อัตตาจร "Malka"
เจมส์ แอ็กตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ที่องค์กรคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ (Carnegie Endowment for International Pace)
ในกรุงวอชิงตัน ดีซี กล่าวว่า "ผมค่อนข้างกังวลจริง ๆ ว่า ในสถานการณ์เช่นนั้นปูตินอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ น่าจะเป็นในยูเครน เพื่อทำให้ทุกคนหวาดกลัวและยอมทำตามที่เขาต้องการ เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น"
ดร.เฮเธอร์ วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ที่คิงส์ คอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า ปัญหาอย่างหนึ่งคือยังไม่แน่ชัดว่า "ชัยชนะ" ในยูเครนสำหรับปูตินนั้นเป็นอย่างไร และนั่นอาจจะเป็นตัวผลักดันให้รัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์
ที่ผ่านมาอาวุธนิวเคลียร์เคยถูกใช้เพียงแค่ครั้งเดียวโดยสหรัฐฯ ในการโจมตีญี่ปุ่นช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2
ปูตินอยากจะเป็นผู้นำคนที่ 2 ที่นำอาวุธนิวเคลียร์กลับมาใช้อีกครั้งหรือไม่