วันนี้พี่หมอฝั่งธน...จะมาให้ความรู้ โรคอัมพาตใบหน้า Bell’s palsy
ภาวะที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเกิดอัมพาตชั่วขณะ โดยมีสาเหตุมาจากเส้นประสาทบนใบหน้า
หรือเส้นประสาทสมอง (Cranial Nerve) คู่ที่ 7 ที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้าเกิดความผิดปกติ
มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส เช่น เชื้อเริม (Herpes simplex virus) งูสวัด (Herpes zoster)
ที่แฝงอยู่ในปมประสาท หากร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำลงจะทำให้เกิดโรคนี้ได้
มักจะเกิดอาการขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน หรือ แบบทันทีทันใด และ ไม่ทันรู้เนื่อรู้ตัวมาก่อน
อาจมีอาการแสบตาข้างเดียว เพราะไม่สามารถปิดตาได้สนิท ในเวลาถูกลม
มีอาการรับประทานอาหารแล้วน้ำลายไหลออกทางมุมปากข้างใดข้างหนึ่ง
อาจจะเป็นมากขึ้นจนปากเบี้ยวและปิดตาไม่สนิท สามารถสังเกตมองเห็นได้ชัดเจนเวลาผู้ป่วยพูด ยิ้ม หรือ กะพริบตา
อาจมีอาการมากจนไม่สามารถขยับมุมปาก หลับตา หรือยักคิ้วหลิ่วตาได้
VVV
โรคนี้สามารถหายได้เองโดยใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน หากไม่ได้รับการรักษาจะมีโอกาสหายเป็นปกติประมาณ 65 %
แต่หากได้รับการรักษาจะมีโอกาสหายเป็นปกติสูงถึง 97 %
การรักษาใช้ยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของเส้นประสาท ควรเริ่มใช้หลังจากเกิดอาการภายใน 72 ชั่วโมง
โดยจะต้องรับประทานประมาณ 2 สัปดาห์อย่างต่อเนื่อง และจะมีการปรับยาตามที่แพทย์แนะนำ
ใช้ยาฆ่าเชื้อไวรัส จะใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม และงูสวัด
เมื่อมีอาการเบื้องต้น คนไข้ใช้ยาหยอดตา เพื่อป้องกันตาแห้ง และใช้ยาขี้ผึ้งป้ายตา ใช้ผ้าปิดตาให้สนิทก่อนนอน
ป้องกันการเกิดเยื่อบุตาอักเสบ สวมแว่นตา เมื่อต้องออกนอกบ้านเพื่อป้องกันลม และฝุ่นละอองเข้าตา
ทำกายภาพบำบัด ออกกำลังกายกล้ามเนื้อใบหน้าเป็นประจำ ประคบอุ่น โดยนำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นประคบใบหน้าเพื่อบรรเทาอาการปวด
โรคอัมพาตใบหน้า สามารถหายเองได้ หากปล่อยไว้นานจะทำให้กลับมาเป็นปกติได้น้อย
หากพบว่าตนเอง หรือคนในครอบครัวมีอาการ ควรรีบพาเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติอีกครั้งค่ะ
ความรู้เพิ่มเติม
https://shorturl.asia/gKPQ3
มารู้จักโรค..อัมพาตใบหน้า Bell’s palsy
ภาวะที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเกิดอัมพาตชั่วขณะ โดยมีสาเหตุมาจากเส้นประสาทบนใบหน้า
หรือเส้นประสาทสมอง (Cranial Nerve) คู่ที่ 7 ที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้าเกิดความผิดปกติ
มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส เช่น เชื้อเริม (Herpes simplex virus) งูสวัด (Herpes zoster)
ที่แฝงอยู่ในปมประสาท หากร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำลงจะทำให้เกิดโรคนี้ได้
มักจะเกิดอาการขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน หรือ แบบทันทีทันใด และ ไม่ทันรู้เนื่อรู้ตัวมาก่อน
อาจมีอาการแสบตาข้างเดียว เพราะไม่สามารถปิดตาได้สนิท ในเวลาถูกลม
มีอาการรับประทานอาหารแล้วน้ำลายไหลออกทางมุมปากข้างใดข้างหนึ่ง
อาจจะเป็นมากขึ้นจนปากเบี้ยวและปิดตาไม่สนิท สามารถสังเกตมองเห็นได้ชัดเจนเวลาผู้ป่วยพูด ยิ้ม หรือ กะพริบตา
อาจมีอาการมากจนไม่สามารถขยับมุมปาก หลับตา หรือยักคิ้วหลิ่วตาได้
VVV
โรคนี้สามารถหายได้เองโดยใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน หากไม่ได้รับการรักษาจะมีโอกาสหายเป็นปกติประมาณ 65 %
แต่หากได้รับการรักษาจะมีโอกาสหายเป็นปกติสูงถึง 97 %
การรักษาใช้ยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของเส้นประสาท ควรเริ่มใช้หลังจากเกิดอาการภายใน 72 ชั่วโมง
โดยจะต้องรับประทานประมาณ 2 สัปดาห์อย่างต่อเนื่อง และจะมีการปรับยาตามที่แพทย์แนะนำ
ใช้ยาฆ่าเชื้อไวรัส จะใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม และงูสวัด
เมื่อมีอาการเบื้องต้น คนไข้ใช้ยาหยอดตา เพื่อป้องกันตาแห้ง และใช้ยาขี้ผึ้งป้ายตา ใช้ผ้าปิดตาให้สนิทก่อนนอน
ป้องกันการเกิดเยื่อบุตาอักเสบ สวมแว่นตา เมื่อต้องออกนอกบ้านเพื่อป้องกันลม และฝุ่นละอองเข้าตา
ทำกายภาพบำบัด ออกกำลังกายกล้ามเนื้อใบหน้าเป็นประจำ ประคบอุ่น โดยนำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นประคบใบหน้าเพื่อบรรเทาอาการปวด
โรคอัมพาตใบหน้า สามารถหายเองได้ หากปล่อยไว้นานจะทำให้กลับมาเป็นปกติได้น้อย
หากพบว่าตนเอง หรือคนในครอบครัวมีอาการ ควรรีบพาเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติอีกครั้งค่ะ
ความรู้เพิ่มเติม
https://shorturl.asia/gKPQ3