JJNY : ป่วยใหม่ต่ำกว่าพัน! ดับ15│พ่อค้ากุมขมับ หลังเห็นบิลค่าไฟ│ชัชชาติ ย้อนปัญหา รัฐบาลหวงอำนาจ│รัสเซียจับคนต้านระดมพล

ป่วยใหม่ต่ำกว่าพัน! โควิดวันนี้ เศร้า ดับเพิ่ม15ศพ ปอดอักเสบลดลงอีก
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_7278415
 
 
โควิดวันนี้ ศบค. รายงานสถานการณ์เบื้องต้นพบผู้ป่วยใหม่กลับมาต่ำกว่า 1,000 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบลดลงอีก เผย ติดเชื้อเสียชีวิตเพิ่ม 15 ราย
 
วันที่ 21 ก.ย.2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ว่า เบื้องต้นมีผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) 806 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 806 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ – ราย ผู้ป่วยสะสม 2,452,903 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 876 ราย หายป่วยสะสม 2,466,875 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 8,286 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 15 ราย เสียชีวิตสะสม 10,985 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 533 ราย ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) (สัปดาห์ที่ 37 : 11-17 ก.ย.65) จำนวน 95,966 คน สะสม 8,035,983 คน
 
เนื่องจากตั้งแต่ 1 มิ.ย. 65 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสม มีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม
 


พ่อค้ากุมขมับ มึนตึ๊บ หลังเห็นบิลค่าไฟ เผย ค่าเอฟทีที่เพิ่ม จ่ายค่าแรงได้อีก 3 คน
https://www.matichon.co.th/region/news_3575828
 
วันที่ 22 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่บิลค่าไฟฟ้า เดือนกันยายน เริ่มทยอยออกมา ซึ่งถือเป็นบิลค่าไฟงวดแรกที่มีการปรับขึ้นค่า Ft เป็น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย โดยมีผลตั้งแต่ เดือนกันยายน ไปจนถึง ธันวาคม 2565 ส่งผลให้ขณะนี้ ภาคครัวเรือนเริ่มเห็นค่าไฟฟ้าที่ตนเองต้องจ่ายเพิ่มแตกต่างกันออกไป
 
โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ร้านค้าที่ต้องใช้ไฟแต่ละวันค่อนข้างมาก ที่ตอนนี้บางรายต้องจ่ายค่า Ft เพิ่มมากกว่าเดิมเกินเท่าตัว จากหลักร้อยบาท กลายเป็นหลักพันบาท แม้หน่วยจะเพิ่มขึ้นมาจากเดือนที่แล้วเล็กน้อยก็ตาม อย่างที่ร้านขายหมู และสินค้าอุปโภค บริโภค ต่างๆ ในเขตเทศบาลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งในผู้ประกอบการร้านค้าที่มีตู้แช่อาหาร ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ต้องใช้ไฟที่ค่อนข้างมากในแต่ละวัน ที่เดือนกันยายนนี้ พบว่า ค่า ft ที่ตนต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้นไปมาก จนน่าตกใจ
 
โดย นางสาวเฉลิมรัตน์ เจ้าของร้านขายหมูและสินค้าอุปโภค บริโภค ต่างๆ ได้โชว์ความแตกต่างระหว่างบิลค่าไฟทั้ง 2 เดือนให้ดู พร้อมกับกล่าวว่า เดือนนี้ตกใจกับบิลค่าไฟมาก หลังจากที่เห็นค่า Ft ที่ตัวเองต้องจ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ติดตามข่าวอยู่บ้าน แต่ก็ไม่คิดว่าจะขึ้นมาถึง 200% จริงๆ โดยเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ใช้ไฟไปจำนวน 1,329 หน่วย ค่า Ft อยู่ที่ 0.2477 บาท/หน่วย จ่ายค่า Ft ไปที่ 329 บาท ค่าภาษี 7% อีก 421.25 บาท รวมจ่ายค่าไฟที่ 6,439.15 บาท แต่มาเดือนกันยายน นี้ บิลค่าไฟถูกปรับขึ้นไปเยอะมาก ทั้งๆ ที่ใช้ไฟเพิ่มขึ้นไปเล็กน้อย ที่ 1,338 หน่วย แต่ค่า Ft พุ่งอยู่ที่ 0.9343 บาท/หน่วย

ทำให้เดือนนี้ต้องจ่ายค่า Ft มากถึง 1,250.09 บาท ค่าภาษี 7% อีก 488.50 บาท รวมค่าไฟที่ต้องจ่ายเดือนนี้คือ 7,467.10 บาท จ่ายเพิ่มจากเดือนที่แล้ว 1,024.95 บาท จากการใช้ไฟเพิ่มขึ้นมาเพียง 9 หน่วย เท่านั้น ซึ่งเงินจำนวนนี้ตนสามารถจ่ายลูกน้องได้เพิ่มถึง 3 คน เลยอีกด้วย และถ้าหากเดือนหน้าที่ร้านใช้ไฟเพิ่มมากกว่านี้ ค่า Ft ก็คงจะปรับขึ้นไปอีกเป็นขั้นบันได ตามที่แจ้งอย่างแน่นอน เป็นไปได้ก็อยากให้ปรับลงมาสมเหตุสมผล ให้มันอยู่ระดับที่เรายังพอดำรงชีพกันอยู่ได้
 
ทำให้ตอนนี้ ตนต้องปรับตัวใหม่จากแต่ก่อนที่ร้านจะเปิดตู้แช่ใหญ่ทั้งหมด 3 ตู้ ซึ่งเดือนก่อนก็ปรับตัวลดมาเปิดแค่ 2 ตู้ มาเดือนนี้ปรับลดให้เหลือตู้ใหญ่แค่ 1 ตู้ และตู้เล็ก อีก 1 ตู้ เท่านั้น เพื่อหวังช่วยประหยัดค่าไฟลง ประกอบกับช่วงนี้เข้าช่วงเทศกาลกินเจ คนซื้อหมูกันน้อยลงอย่างวันนี้ที่ร้านก็เงียบมาก ตั้งแต่ยังไม่ถึงวันกินเจจริงด้วยซ้ำ ทำให้ช่วงนี้ต้องลดปริมาณการรับหมูมาขายลงจากปกติไปก่อน ส่วนราคาตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว ว่าจะปรับลดลงแต่อย่างใด ราคาส่งก็ยังคงที่ ทำให้ยังคงต้องขายราคาปลีกเท่าเดิม


 
ชัชชาติ ย้อนปัญหา รัฐบาลหวงอำนาจ ไม่ให้ชาวบ้านตัดสินใจ ย้ำสภา กทม.อย่าแค่บริหาร ต้องสร้างความเชื่อมั่น ปชต.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3575590

เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 21 กันยายน ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ จัดงานสัมมนา “ESG Forum จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย” โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “สร้างศักยภาพใหม่ให้เป็นจริง” (อ่านข่าว ชัชชาติ ปาฐกถา สร้างศักยภาพใหม่ ตั้งเป้า 2570 กรุงเทพฯ น่าอยู่ 1 ใน 50 ของโลก)

ในตอนหนึ่ง นายชัชชาติกล่าวว่า กรุงเทพฯเปรียบเหมือนเพชรที่ยังไม่เจียระไน ศักยภาพที่แท้จริงคือคน ถ้าสร้างคนให้มีแรงบันดาลใจ จะสร้างพลังได้อย่างมหาศาล ปัญหาที่ผ่านมา คือรัฐบาลหวงอำนาจไม่ให้ประชาชนตัดสินใจ ไม่มีความไว้วางใจระหว่างรัฐและเอกชน ทำให้การดำเนินงานติดขัด ต่อมาการทุจริตคอร์รัปชั่น คนที่เก่งไม่มีโอกาสทำงาน อีกทั้งไม่มีความยุติธรรม ประชาชนไม่รู้สึกการมีส่วนร่วม

“หัวใจคือการดึงศักยภาพมา เอาคนมาร่วมงานทุกภาคส่วน เห็นว่าเราร่วมมือกับทุกคน เป็นจตุรภาคี 4 ส่วน คือ รัฐบาล วิชาการ ภาคเอกชน และประชาชน ต้องร่วมเป็นเกลียวเดียวกัน ที่ผ่านมาเราร่วมมือกันทุกคนใน กทม. ร่วมมือประสานงานกัน ไปหารัฐบาลทุกคน เรายกมือไหว้ไปหมดแหละ ขอใครได้ก็ขอทุกกระทรวง ผมว่าเป็นความร่วมมือร่วมใจที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนะ นั้นคือการดึงศักยภาพคนมาร่วมกันทำกรุงเทพฯให้ดีขึ้น
 
ผมได้พูดกับสภา กทม.หลายครั้งว่า หน้าที่ของเราไม่ใช่แค่บริหาร กทม.นะ ที่ผ่านมาคนหมดหวัง หมดศรัทธากับระบบประชาธิปไตยเหมือนกันนะ 10 ปีที่ผ่านมา ผมว่าหน้าที่ของเรา สภา กทม.ต้องสร้างความไว้ใจ ความมั่นใจกลับคืนมาให้กับระบอบประชาธิปไตยด้วย ผมว่าประชาธิปไตยจริงๆ แล้วมีตัวเลือก สามารถเลือกคำตอบที่ดีกับคุณได้ หน้าที่เราคือต้องสร้างความหวังให้กับประชาชนว่า ระบบนี้ยังเป็นระบบที่ดีที่สุดอยู่ ที่สามารถเลือกผู้แทน เลือกคนที่ดี พร้อมที่จะให้ทำเมืองให้ดีขึ้นได้” นายชัชชาติกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่