สวัสดีค่ะกระทู้นี้เราขอระบายนะคะ เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว
เราเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่ตอนเราอยู่มัธยมต้น ตั้งแต่เราจำความได้คนที่ดูแลและเลี้ยงเรามาคือแม่ของเราเพียงคนเดียวเท่านั้น พ่อแทบจะไม่เคยมีบทบาทอะไรในชีวิตเราเลย เขายอมเซ็นหย่าให้แม่เราตอนเราอยู่มัธยมทั้งๆที่แม่ก็พูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนที่เรายังเด็กๆแล้ว
(เขายื้อมาหลายปี) เขาบอกว่าเขากลัวว่าคนจะมองว่าครอบครัวล้มเหลว -__- !
เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆภายในบ้านเขาโยนภาระหน้าที่ให้แม่เราหมดเลยรวมถึงค่าเล่าเรียนของเราตอนเราเรียนด้วย คือพ่อแม่เราทำงานทั้งคู่นะคะ แม่ทำงานเป็นครูสอนเด็กประถมเงินเดือนหลักหมื่นต้นๆ ส่วนพ่อทำงานธุรกิจ เงินเดือนเป็นแสนๆไม่ใช่หลักหมื่นต่อเดือน เขาเป็นคนขี้งกเรื่องเงินมากค่ะ เราจำได้ว่าตอนเราเด็กๆแม่เราหมุนเงินมาจ่ายค่าเทอมให้เราไม่ทัน แม่ถามพ่อ พ่อเงียบกริบไม่พูดอะไรสักคำ ไม่เคยพูดว่าจะให้ช่วยเรื่องเงินหรือช่วยจ่ายอะไรมั้ย เขาเป็นแบบนี้มาตลอดไม่เคยเปลี่ยน ปัจจุบันเขาอายุ64 แม่อายุ 59 งกกับแม่เราก็ว่าแย่แล้วนะ นี่โคตรแย่ที่กับลูกยัง งกมาก ค่าประกันสุขภาพเราต้องหาเงินมาจ่ายเองเพราะเคยขอเขาแล้วเขาไม่ช่วยรับฟังนะแต่เงียบกริบไม่ยอมจ่ายตามเคย เป็นคนที่งกสุดๆถ้าเป็นเรื่องเงินนะ
แม่เรายังเคยพูดเลยว่าสิ่งที่ทำผิดที่สุดในชีวิตคือการเลือกผู้ชายเฮงซวยคนนี้มาเป็นสามีคือก่อนแต่งงานเขาดูใจกัน7ปี ตอนนั้นเขาก็ดูแลเทคแคร์แม่เราดี
พอแต่งงานจนมามีเรา เขาก็เห็นว่าแม่เราทำงานเก่ง เป็นWorking Women หาเงินเก่ง สามารถดูแลลูกได้เองไม่ต้องพึ่งเงินเขา เขาก็เลยไม่เคยสนใจที่จะรับผิดชอบอะไรเราเลยค่ะ เราอยู่กับแม่เรามาตลอด ตอนเด็กแม่เราออกทั้งค่าเรียน ค่ากิน และค่าใช้จ่ายอื่นๆตลอดมา
มีครั้งนึงนานมากแล้วเราเคยถามพ่อไปตรงๆว่าทำไมถึงไม่เคยช่วยส่งเสียหรือSupportเราเรื่องเงินตอนเราเรียนเลย ไม่เคยส่งอะไรเลยจริงๆ เขาตอบว่า
"เขาต้องเก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่ ถ้าอยากได้เงินก็ไปขอแม่ดิและอีกอย่างใครจ่ายค่าเทอมก็เหมือนกันแหละ"
เรานี่หมดคำถามเลยค่ะ ทำอย่างกับว่าเราไม่ใช่ลูกเขาน่ะ เงินแม่เราที่ใช้ส่วนตัวแม่เราก็หามาเองเขาไม่เคยช่วยสักบาทจริงๆ
ขนาดตอนเขาหย่ากับแม่เรา เขายังไม่กล้าบอกย่า(แม่เขา)บอกญาติพี่น้องฝั่งเขาเลย ผู้ชายอะไรไม่รับผิดชอบครอบครัวแล้วยังกลัวว่าคนจะมองว่าตัวเองไม่เป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลครอบครัวไม่ได้
อย่างย้อนไปตอนที่เราเรียนจบมหาลัยเราติดงานเราจึงไม่สามารถไปร่วมพิธีรับปริญญาได้ เขาก็โทรมาด่าเรายกใหญ่ว่าทำไมถึงไม่เข้าร่วมพิธีมันคือครั้งนึงในชีวิตนะคิดโง่ๆที่ไม่เข้าร่วมพิธี งานน่ะทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พอดีช่วงที่เราทำงานตอนนั้นเป็นช่วงทดลองงานพอดี เราเลยไม่อยากลางานค่ะ บวกกับไม่อยากเปลืองเงินค่าเดินทางค่าชุดครุยด้วย แม่เราน่ะไม่เคยว่าหรอกค่ะ แม่เราเข้าใจว่าทำไมเราถึงไม่เข้ารับ เพราะใช้เวลาซ้อมหลายวันด้วย
(มหาลัยเอกชนอยู่ต่างจังหวัด) เรานี่ตอนนั้นอยากพูดกลับไปมากๆว่า ไม่เคยส่งเสียอะไร ไม่มีสิทธ์มาบังคับเรา
เราน่ะรู้สึกว่าตัวเองมีพ่อแต่ก็เหมือนไม่มี เพราะชีวิตเรามีแค่แม่คนเดียวที่เรารักและเทิดทูน ตอนเราทำงานได้เงินเดือนมาก้อนแรกเราให้แม่เก็บไว้หมดเลยค่ะ เรานี่อยากจะตัดพ่อเฮงซวยออกจากชีวิตมาก แต่แม่เรายังห้ามไว้อยู่ ผู้ชายแบบพ่อเราเป็นคนประเภทที่เราไม่ชอบที่สุดเพราะ ไม่แมน ไม่ใจสปอร์ต ไม่ ไม่เทคแคร์คนในครอบครัว สนใจแต่งานกับเงินเดือนของตัวเอง เปย์ตัวเอง ทุกวันนี้เขามักจะไลน์มาอวดว่าตอนนี้ชีวิตเขารวยแค่ไหน ชอบไลน์มาอวดถึงความประสบความสำเร็จ(ของตัวเอง) ว่าเขาทำกิจการโน่นนี่ Succcess แค่ไหน บลาๆ
ยังมาถากถางเราว่าเราน่ะทำไมทำงานเงินเดือนถึงได่แค่นี้(รายได้เราหมื่นต้นๆ) จะทำงานนี้ไปตลอดชีวิตเลยรึไง? เราอ่านแต่ไม่ตอบ เพราะเราไม่รู้จะตอบอะไร เรารู้สึกแย่ที่เกิดมาเป็นลูกเขา ต่อจากนี้ไปเรากับแม่จะใช้ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ ถ้ามีพ่อแบบนี้ เราขอไม่มีซะยังดีกว่าค่ะ
เราอยู่กับแม่เราแค่2คนถึงจะแค่พอมีพอกินแต่ก็อยู่กันได้ แม่เราเจ็บใจมากที่เขาไม่เคยดูแลและสนใจเราที่เป็นลูกเขาเลยกับลูกขี้งกแบบนี้ แม่เรารับไม่ได้ค่ะ
แม่บอกในอนาคตถ้าหากมีแฟนขอให้ลูกเจอคนดีๆอย่าเลือกผิดแบบแม่ T T เลือกผิดคิดจนตัวตายจริงๆ
เราจะตั้งใจทำงานเก็บเงินไว้ดูแลตัวเองและแม่ เพราะเรารู้ว่าเขาคงไม่มาดูแลพวกเราหรอก เขาเป็นพ่อที่Toxicอย่างแรง พูดอะไรไม่เคยนึกถึงใจคนฟัง เอาแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการและพอใจเท่านั้น ขนาดเราพูดอะไรเขาก็จะแย้งตลอด ไม่เคยรับฟังเลยจริงๆ เฮ้อ
ขอบคุณที่อ่านกระทู้เรานะคะ เราเคยอิจฉาเพื่อนๆเราลึกๆที่พวกเขามีพ่อที่แสนดี เอาใจใส่ลูกและภรรยามากๆ
สำหรับใครที่มีพ่อแบบเรา เราเป็นกำลังใจให้นะ เราผ่านความทุกข์ใจมาเยอะเหมือนกัน
เรารู้สึกเกลียดพ่อมากขึ้นเรื่อยๆจนทนไม่ไหวแล้ว เวรกรรมอะไรที่ทำให้เรามีพ่อนิสัยแบบนี้ :(
เราเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่ตอนเราอยู่มัธยมต้น ตั้งแต่เราจำความได้คนที่ดูแลและเลี้ยงเรามาคือแม่ของเราเพียงคนเดียวเท่านั้น พ่อแทบจะไม่เคยมีบทบาทอะไรในชีวิตเราเลย เขายอมเซ็นหย่าให้แม่เราตอนเราอยู่มัธยมทั้งๆที่แม่ก็พูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนที่เรายังเด็กๆแล้ว
(เขายื้อมาหลายปี) เขาบอกว่าเขากลัวว่าคนจะมองว่าครอบครัวล้มเหลว -__- !
เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆภายในบ้านเขาโยนภาระหน้าที่ให้แม่เราหมดเลยรวมถึงค่าเล่าเรียนของเราตอนเราเรียนด้วย คือพ่อแม่เราทำงานทั้งคู่นะคะ แม่ทำงานเป็นครูสอนเด็กประถมเงินเดือนหลักหมื่นต้นๆ ส่วนพ่อทำงานธุรกิจ เงินเดือนเป็นแสนๆไม่ใช่หลักหมื่นต่อเดือน เขาเป็นคนขี้งกเรื่องเงินมากค่ะ เราจำได้ว่าตอนเราเด็กๆแม่เราหมุนเงินมาจ่ายค่าเทอมให้เราไม่ทัน แม่ถามพ่อ พ่อเงียบกริบไม่พูดอะไรสักคำ ไม่เคยพูดว่าจะให้ช่วยเรื่องเงินหรือช่วยจ่ายอะไรมั้ย เขาเป็นแบบนี้มาตลอดไม่เคยเปลี่ยน ปัจจุบันเขาอายุ64 แม่อายุ 59 งกกับแม่เราก็ว่าแย่แล้วนะ นี่โคตรแย่ที่กับลูกยัง งกมาก ค่าประกันสุขภาพเราต้องหาเงินมาจ่ายเองเพราะเคยขอเขาแล้วเขาไม่ช่วยรับฟังนะแต่เงียบกริบไม่ยอมจ่ายตามเคย เป็นคนที่งกสุดๆถ้าเป็นเรื่องเงินนะ
แม่เรายังเคยพูดเลยว่าสิ่งที่ทำผิดที่สุดในชีวิตคือการเลือกผู้ชายเฮงซวยคนนี้มาเป็นสามีคือก่อนแต่งงานเขาดูใจกัน7ปี ตอนนั้นเขาก็ดูแลเทคแคร์แม่เราดี
พอแต่งงานจนมามีเรา เขาก็เห็นว่าแม่เราทำงานเก่ง เป็นWorking Women หาเงินเก่ง สามารถดูแลลูกได้เองไม่ต้องพึ่งเงินเขา เขาก็เลยไม่เคยสนใจที่จะรับผิดชอบอะไรเราเลยค่ะ เราอยู่กับแม่เรามาตลอด ตอนเด็กแม่เราออกทั้งค่าเรียน ค่ากิน และค่าใช้จ่ายอื่นๆตลอดมา
มีครั้งนึงนานมากแล้วเราเคยถามพ่อไปตรงๆว่าทำไมถึงไม่เคยช่วยส่งเสียหรือSupportเราเรื่องเงินตอนเราเรียนเลย ไม่เคยส่งอะไรเลยจริงๆ เขาตอบว่า
"เขาต้องเก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่ ถ้าอยากได้เงินก็ไปขอแม่ดิและอีกอย่างใครจ่ายค่าเทอมก็เหมือนกันแหละ"
เรานี่หมดคำถามเลยค่ะ ทำอย่างกับว่าเราไม่ใช่ลูกเขาน่ะ เงินแม่เราที่ใช้ส่วนตัวแม่เราก็หามาเองเขาไม่เคยช่วยสักบาทจริงๆ
ขนาดตอนเขาหย่ากับแม่เรา เขายังไม่กล้าบอกย่า(แม่เขา)บอกญาติพี่น้องฝั่งเขาเลย ผู้ชายอะไรไม่รับผิดชอบครอบครัวแล้วยังกลัวว่าคนจะมองว่าตัวเองไม่เป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลครอบครัวไม่ได้
อย่างย้อนไปตอนที่เราเรียนจบมหาลัยเราติดงานเราจึงไม่สามารถไปร่วมพิธีรับปริญญาได้ เขาก็โทรมาด่าเรายกใหญ่ว่าทำไมถึงไม่เข้าร่วมพิธีมันคือครั้งนึงในชีวิตนะคิดโง่ๆที่ไม่เข้าร่วมพิธี งานน่ะทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พอดีช่วงที่เราทำงานตอนนั้นเป็นช่วงทดลองงานพอดี เราเลยไม่อยากลางานค่ะ บวกกับไม่อยากเปลืองเงินค่าเดินทางค่าชุดครุยด้วย แม่เราน่ะไม่เคยว่าหรอกค่ะ แม่เราเข้าใจว่าทำไมเราถึงไม่เข้ารับ เพราะใช้เวลาซ้อมหลายวันด้วย
(มหาลัยเอกชนอยู่ต่างจังหวัด) เรานี่ตอนนั้นอยากพูดกลับไปมากๆว่า ไม่เคยส่งเสียอะไร ไม่มีสิทธ์มาบังคับเรา
เราน่ะรู้สึกว่าตัวเองมีพ่อแต่ก็เหมือนไม่มี เพราะชีวิตเรามีแค่แม่คนเดียวที่เรารักและเทิดทูน ตอนเราทำงานได้เงินเดือนมาก้อนแรกเราให้แม่เก็บไว้หมดเลยค่ะ เรานี่อยากจะตัดพ่อเฮงซวยออกจากชีวิตมาก แต่แม่เรายังห้ามไว้อยู่ ผู้ชายแบบพ่อเราเป็นคนประเภทที่เราไม่ชอบที่สุดเพราะ ไม่แมน ไม่ใจสปอร์ต ไม่ ไม่เทคแคร์คนในครอบครัว สนใจแต่งานกับเงินเดือนของตัวเอง เปย์ตัวเอง ทุกวันนี้เขามักจะไลน์มาอวดว่าตอนนี้ชีวิตเขารวยแค่ไหน ชอบไลน์มาอวดถึงความประสบความสำเร็จ(ของตัวเอง) ว่าเขาทำกิจการโน่นนี่ Succcess แค่ไหน บลาๆ
ยังมาถากถางเราว่าเราน่ะทำไมทำงานเงินเดือนถึงได่แค่นี้(รายได้เราหมื่นต้นๆ) จะทำงานนี้ไปตลอดชีวิตเลยรึไง? เราอ่านแต่ไม่ตอบ เพราะเราไม่รู้จะตอบอะไร เรารู้สึกแย่ที่เกิดมาเป็นลูกเขา ต่อจากนี้ไปเรากับแม่จะใช้ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ ถ้ามีพ่อแบบนี้ เราขอไม่มีซะยังดีกว่าค่ะ
เราอยู่กับแม่เราแค่2คนถึงจะแค่พอมีพอกินแต่ก็อยู่กันได้ แม่เราเจ็บใจมากที่เขาไม่เคยดูแลและสนใจเราที่เป็นลูกเขาเลยกับลูกขี้งกแบบนี้ แม่เรารับไม่ได้ค่ะ
แม่บอกในอนาคตถ้าหากมีแฟนขอให้ลูกเจอคนดีๆอย่าเลือกผิดแบบแม่ T T เลือกผิดคิดจนตัวตายจริงๆ
เราจะตั้งใจทำงานเก็บเงินไว้ดูแลตัวเองและแม่ เพราะเรารู้ว่าเขาคงไม่มาดูแลพวกเราหรอก เขาเป็นพ่อที่Toxicอย่างแรง พูดอะไรไม่เคยนึกถึงใจคนฟัง เอาแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการและพอใจเท่านั้น ขนาดเราพูดอะไรเขาก็จะแย้งตลอด ไม่เคยรับฟังเลยจริงๆ เฮ้อ
ขอบคุณที่อ่านกระทู้เรานะคะ เราเคยอิจฉาเพื่อนๆเราลึกๆที่พวกเขามีพ่อที่แสนดี เอาใจใส่ลูกและภรรยามากๆ
สำหรับใครที่มีพ่อแบบเรา เราเป็นกำลังใจให้นะ เราผ่านความทุกข์ใจมาเยอะเหมือนกัน