จากข่าวคราว เจ๊นุช ที่มาเป็นคนมีสีได้ยังไงก็ยังกังขา พอมาเป็นแล้วก็ไม่ทำงาน ถูกตั้งเป็นกรรมการโน้นนี่นั่น(ได้ยังไงก็ยังกังขา) ก็แทบไม่ไปทำงาน ทั้งยังได้ไป(เที่ยว)ต่างประเทศ โดยอ้างว่าไปดูงาน แล้วยังมีชื่อไปช่วยภาคใต้โดยไม่ทำงาน แต่ก็ถึงคราวถึงจุดสะดุด เมื่อไปทำร้ายทุบตีเหยื่อทหารหญิงเพศเดียวกัน จนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา กลายเป็นข่าวผู้หญิงถูกทำร้ายจากคนมีสีในสังคมไทย ตอนนี้ ก็ยังสอบสวนกันไปมาอยู่ ประเด็นเหล่านี้ มีผู้ให้ความเห็นบอกผมว่า มันเป็นพฤติกรรมความชั่วส่วนบุคคล ไม่ได้เกี่ยวกับระบบไม่ดี ผมอ่านความเห็นนี้แล้วถึงกับทึ่งในแนวคิดของพวกเขา
แต่เรื่องแรกยังไม่ทันจบ เรื่องใหม่ก็มีต่อมา คือ ทหารพกปืน(ไม่ใช่ปากกาเลียนแบบปืน) เป็นประจำ วันหนึ่งได้ยิงเพื่อนทหารเสียชีวิต 2 บาดเจ็บ 1 ในค่ายทหารกลางเมือง ที่เสมือนหนึ่งเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด แต่มันกลับกลายเป็นที่ที่อันตรายที่สุดไปแทนในยามนี้ อันนี้ ข่าวบอกว่า เป็นความเครียดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับระบบ จริงหรือ แล้วให้บุคคลที่เครียดพกอาวุธร้ายแรงเดินไปมาได้นี่นะ ก็ว่ากันไป อันนี้ก็เป็นข่าวผู้ชายถูกทำร้ายในค่ายทหาร (กรณีผู้ชาย ถ้าไม่ตายสงสัยไม่เป็นข่าว)
แต่เรื่องต่อมานี่สิ ข่าวผู้หญิงถูกทำร้ายทางเพศมาอีกหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงขั้นทำร้ายขั้นสุด คือ แค่ลวนลามคิดจะข่มขืน แต่เธอยังรอดมาได้ ซึ่งก็มีทั้งภาพและคลิปของเหยื่ออีกคนหลุดไปในโลกโซเชียล ที่คนมีสี ทำการเหิมเกริมทำร้ายเพศหญิงอีกคนทั้งที่ตัวเองยังแต่งเครื่องแบบที่ทรงเกียรติ และสถานที่นั้น ก็ยังเป็นค่ายทหาร ที่ที่ปลอดภัยที่สุด กลับกลายเป็นที่ที่อันตรายที่สุด เธอทนไม่ไหว ไปร้องเรียนเจ้านาย สิ่งที่เจ้านายตอบเธอ เพื่อทับทวีความเหิมเกริมในความชั่วให้ลูกน้องผู้ชาย คือ การบอกว่า จะเอาเงินค่าเสียหายเท่าไหร่ ซึ่งไอ้เจ้าลูกน้องตัวแสบคนนี้ ก็ไม่มาทำงานเป็นปี แบบเดียวกับเจ๊นุช นี่แสดงว่า กองกำลังคนมีสีหลายหมื่นคน เป็นแบบนี้ด้วยหรือเปล่า เพราะมันอึมครึมไม่เปิดเผยต่อผู้คน มันต้องให้เหยื่อตาย หรือทนไม่ไหวสุดๆ หรือเปล่า ถึงจะเปิดเผยขึ้นมา
ย้อนมาต่อ อีกทั้งฝ่ายเจ้านายคนมีสี ยังตั้งกรรมการมาสอบสวนเธอว่า คลิปหลุดไปจากเธอหรือเปล่า ทำไมไม่สอบเจ้าคนชั่วคนนั้น จนเธอทนไม่ไหว เลยไปร้องเรียนต่อโซเชียลข้างนอก และแจ้งความตำรวจ ถึงเป็นเรื่องขึ้นมา
ถึงตรงนี้ สำหรับสังคมไทยในยุคนี้ การที่ลูกน้องคนมีสี คอยทำเรื่องแหกกฏแบบโจ๋งครึ่ม นี่มันเป็นเพียงพฤติกรรมความชั่วส่วนบุคคล หรือมันเป็นที่ระบบทำให้คนชั่วเหิมเกริมครับ หรือมันเป็นเพราะเจ้านายใหญ่คอยคิดหาวิธีแหกกฏให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแจกกล้วยซื้อเสียง หรือคิดอยู่เกินกฏที่เขาให้อยู่ได้แค่ 8 ปีกันครับ
เพราะเจ้านายใหญ่คิดแหกกฏใช่ไหมครับ ลูกน้องเลยเหิมเกริมต่อกฏระเบียบ
แต่เรื่องแรกยังไม่ทันจบ เรื่องใหม่ก็มีต่อมา คือ ทหารพกปืน(ไม่ใช่ปากกาเลียนแบบปืน) เป็นประจำ วันหนึ่งได้ยิงเพื่อนทหารเสียชีวิต 2 บาดเจ็บ 1 ในค่ายทหารกลางเมือง ที่เสมือนหนึ่งเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด แต่มันกลับกลายเป็นที่ที่อันตรายที่สุดไปแทนในยามนี้ อันนี้ ข่าวบอกว่า เป็นความเครียดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับระบบ จริงหรือ แล้วให้บุคคลที่เครียดพกอาวุธร้ายแรงเดินไปมาได้นี่นะ ก็ว่ากันไป อันนี้ก็เป็นข่าวผู้ชายถูกทำร้ายในค่ายทหาร (กรณีผู้ชาย ถ้าไม่ตายสงสัยไม่เป็นข่าว)
แต่เรื่องต่อมานี่สิ ข่าวผู้หญิงถูกทำร้ายทางเพศมาอีกหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงขั้นทำร้ายขั้นสุด คือ แค่ลวนลามคิดจะข่มขืน แต่เธอยังรอดมาได้ ซึ่งก็มีทั้งภาพและคลิปของเหยื่ออีกคนหลุดไปในโลกโซเชียล ที่คนมีสี ทำการเหิมเกริมทำร้ายเพศหญิงอีกคนทั้งที่ตัวเองยังแต่งเครื่องแบบที่ทรงเกียรติ และสถานที่นั้น ก็ยังเป็นค่ายทหาร ที่ที่ปลอดภัยที่สุด กลับกลายเป็นที่ที่อันตรายที่สุด เธอทนไม่ไหว ไปร้องเรียนเจ้านาย สิ่งที่เจ้านายตอบเธอ เพื่อทับทวีความเหิมเกริมในความชั่วให้ลูกน้องผู้ชาย คือ การบอกว่า จะเอาเงินค่าเสียหายเท่าไหร่ ซึ่งไอ้เจ้าลูกน้องตัวแสบคนนี้ ก็ไม่มาทำงานเป็นปี แบบเดียวกับเจ๊นุช นี่แสดงว่า กองกำลังคนมีสีหลายหมื่นคน เป็นแบบนี้ด้วยหรือเปล่า เพราะมันอึมครึมไม่เปิดเผยต่อผู้คน มันต้องให้เหยื่อตาย หรือทนไม่ไหวสุดๆ หรือเปล่า ถึงจะเปิดเผยขึ้นมา
ย้อนมาต่อ อีกทั้งฝ่ายเจ้านายคนมีสี ยังตั้งกรรมการมาสอบสวนเธอว่า คลิปหลุดไปจากเธอหรือเปล่า ทำไมไม่สอบเจ้าคนชั่วคนนั้น จนเธอทนไม่ไหว เลยไปร้องเรียนต่อโซเชียลข้างนอก และแจ้งความตำรวจ ถึงเป็นเรื่องขึ้นมา
ถึงตรงนี้ สำหรับสังคมไทยในยุคนี้ การที่ลูกน้องคนมีสี คอยทำเรื่องแหกกฏแบบโจ๋งครึ่ม นี่มันเป็นเพียงพฤติกรรมความชั่วส่วนบุคคล หรือมันเป็นที่ระบบทำให้คนชั่วเหิมเกริมครับ หรือมันเป็นเพราะเจ้านายใหญ่คอยคิดหาวิธีแหกกฏให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแจกกล้วยซื้อเสียง หรือคิดอยู่เกินกฏที่เขาให้อยู่ได้แค่ 8 ปีกันครับ