นอกจาก 3 เกมดังกล่าว ยังมีประกาศยืนยันออกมาว่า เกมระหว่างอาร์เซน่อล-แมนฯ ซิตี้ ใน GW12 ก็จะถูกเลื่อนออกไปเช่นกัน เพราะต้องหาสล็อตให้โปรแกรมยูโรป้า ลีก อาร์เซน่อล-พีเอสวี ลงเล่น หลังเกมยุโรปเกมนี้ เลื่อนเตะจาก 15 ก.ย. เนื่องจากเหตุผลจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ เพราะต้องแบ่งไปดูแลความเรียบร้อยในงานพระราชพิธีศพของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 นั่นเอง

การที่โปรแกรมสุดสัปดาห์นี้ลงเล่นเพียง 7 คู่ โดยทีมที่ blank เป็นทีมยอดนิยมในหมู่กุนซือแฟนตาซีพอสมควรเลย การวางแผนจัดแจงทีมรับมือ รวมถึงการใช้ตัวช่วยสำคัญอย่าง Wildcard จึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา และตัดสินใจ ดังนั้นนอกจากการแจกแจงทีเด็ด GW8 และการแชร์ไอเดียทีม WC ของผม เราจะมาพูดถึงภาพรวมการตัดสินใจในเคสต่างๆ ของ GW8 ด้วย

ผลงานของนิวคาสเซิลโดยภาพรวมดีทีเดียว เกือบไปแบ่งแต้มที่แอนฟิลด์ได้ ก่อนโชคร้ายไม่ชนะพาเลซ แต่ในทางกลับกันในเกมนั้น โป๊บก็โชว์ฟอร์มเซฟช่วยทีมไว้ไม่น้อย โดยนายด่านก้านยาว เก็บไปแล้ว 3 คลีนชีต และเซฟรวม 28 ครั้ง ขยับขึ้นเป็นโกล์ที่ทำแต้มสูงสุดของ FPL ไปแล้ว

นอกจากฟอร์มเยี่ยมของโป๊บ และเกมรับของ “สาลิกาดง” แล้ว การเปิดบ้านเจอบอร์นมัธ ที่เกมรุกไม่น่ากลัวเท่าไหร่ จึงเป็นโอกาสดีที่โป๊บจะเพิ่มคะแนนขึ้นไปอีก เพราะนอกจากเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นของทีมแล้ว โป๊บก็ยังต้องการโชว์ฟอร์มเพื่อลุ้นไปเล่นฟุตบอลโลกปลายปีนี้อีกด้วย

กองหลังเนื้อหอมที่ขยับ % ครอบครองไปมากกว่า 38% แล้ว เพราะนอกจากฟอร์มของนิวคาสเซิลจะดีอย่างที่เกริ่นไปด้านบน ทริปเปียร์เองยังมีบทบาทกับเกมรุก ทั้งการเติมไปเปิดบอล หรือเล่นเซ็ตพีซที่เป็นทั้งคนเปิด และยิงเองได้เฉียบขาด มีลุ้น 2 ต่อตลอด

นอกจากโปรแกรม GW8 ที่ดี “สาลิกาดง” ยังมีโปรแกรมโดยรวมไปจนถึงช่วงก่อนเบรกบอลโลกที่ดี มีเกมเจอ Top 6 แค่เพียง 3 เกม และมีเกมในบ้านที่น่าสนใจหลายนัด ไม่แปลกที่ทริปเปียร์ จะเป็นตัวเลือกระดับ template ของคนที่ใช้ WC ช่วงนี้

ความจริงกองหลังที่น่าแนะนำของเวสต์แฮม ควรเป็นผู้เล่นตำแหน่งแบ็คมากกว่า แต่ไม่ค่อยชอบฟอร์มคูฟาลเท่าไหร่ บวกกับฝั่งซ้ายยังไม่แน่ใจว่าเครสเวลล์จะหายทันมั้ย ส่งผลกระทบต่อเอเมอร์สันไปด้วย เลยขอแนะนำตัวหลักอย่างซูม่าแทน

เกมวันอาทิตย์ “ขุนค้อน” ต้องออกไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ที่ต้องการชัยชนะนัดแรกอย่างมาก อย่างไรก็ดี เกมรับของทีมเยือนถือว่าใช้ได้ และเจ้าถิ่นเองก็ยังมีปัญหาเกมรุก ถึงลูกทีมของมอยส์ต้องลงเล่นยูโรป้า คอนเฟอร์เรนซ์ มา แต่เชื่อว่ามอยส์ยังต้องเน้นในลีกที่อันดับยังแย่ โอกาสไม่เสียประตู และเบียดชนะพอมี

โปรแกรมเลื่อนหลายคู่ ทำให้ตัวที่น่าเลือกลดลงพอสมควร ในตำแหน่งกองกลางตัวพรีเมียมมีให้เลือกไม่มาก ความจริงซนก็เป็นตัวเลือกที่น่าวัดใจ แต่ด้วยฟอร์มยิงประตูที่ยังไม่ปลดล็อค บวกกับโอกาสที่ game time จะไม่เต็มที่ก็มี เลยแนะนำ KDB ดีกว่า

แมนฯ ซิตี้ ต้องออกไปเยือนวูล์ฟ ที่ช่วง 2-3 ซีซันก่อน เคยทำให้พวกเขาต้องลำบากใจ แต่โดยภาพรวม “เรือใบสีฟ้า” ก็ยิงวูล์ฟได้เยอะตลอด กลไกสำคัญในการลุ้นทั้งยิงและแอสซิสต์ ก็ต้อง KDB นี่แหละ และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ WC ด้วย เมื่อซาล่าห์จะเจอโปรแกรมหนักหลังเบรคทีมชาติ

กองหน้าตัวความหวังของฟูแล่ม ฟอร์มร้อนแรงเหลือเกิน ชนทีมเล็ก-ใหญ่ พี่แกยิงได้หมด 6 นัดยิงไปได้ถึง 5 นัด และนัดที่พลาด คือแกพลาดจุดโทษเองด้วย ฉกฉวยโอกาสได้เก่ง และใช้โอกาสไม่ค่อยเปลือง บวกกับหาจังหวะจบสกอร์ได้ตลอดทุกเกม

การออกไปเยือนน้องใหม่ด้วยกันอย่างฟอเรสต์ มิโตรวิชน่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะเกมรับของฟอเรสต์เองยังไม่ดี เกมที่ “เจ้าป่า” หวังคว้า 3 แต้มเช่นกัน น่าจะเปิดช่องให้ “เจ้าสัวน้อย” ได้สวนพอสมควร โอกาสลุ้นประตูของมิโตรวิชเกิดขึ้นแน่ๆ

เคนถือเป็นตัวพรีเมียมที่คนชั่งใจมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่คงถือฮาลันด์กัน อีกตัวซาล่าห์ก็ยังค้างๆ คาๆ โควต้าเลยมีจำกัด ส่วนนึงก็เพราะเคนเองมีโปรแกรมยากสลับง่ายให้น่าปวดหัว แต่กับ GW8 เป็นเกมเปิดบ้านเจอเลสเตอร์ ที่ยังมีปัญหารุมเร้า เคนจึงเป็นตัวแนะนำในวีคนี้ ในระดับที่เป็นกัปตันทีมที่ดีได้เลย

ว่ากันด้วยฟอร์มเลสเตอร์ตอนนี้ เกมรับหนักหนาสาหัสจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าการได้พักไปเต็มๆ จากโปรแกรมที่เลื่อน จะทำให้ “จิ้งจอกสยาม” เรียกฟอร์มกลับมาได้บ้างมั้ย อย่างไรก็ดี หากมองจากสถิติการเจอกัน เกมคู่นี้มีสกอร์เกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ เลสเตอร์ก็โดนสเปอร์ยิงสม่ำเสมอ และเคนนี่แหละ เป็นตัวที่ทำแสบได้บ่อยครั้ง

ความจริงผมยังชื่นชอบ ASM เหมือนเดิม แต่ขณะที่เขียนบทความในวันพุธ ไม่มีข้อมูลเลยว่ากองหน้าริมเส้นจอมพริ้ว จะกลับมาฟิตลงเล่นใน GW8 หรือยัง ก็เลยต้องหันไปแนะนำตัวอื่นที่เป็นตัว diff และอัลมิร่อนก็เป็นทางเลือกที่ดี ทั้งการมีส่วนร่วมกับเกมรุก และการเจอบอร์นมัธที่เกมรับไม่ได้เหนียวแน่นอะไร

ความจริงตำแหน่งของอัลมิร่อนเมื่อก่อนเปิดซีซัน ก็ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ในมุมมองของนักวิจารณ์ แต่ด้วยฟอร์มพรีซีซันต่อเนื่องมาถึงช่วงต้นซีซัน เขาทำหน้าที่ได้เยี่ยม ทั้งความขยันเล่นได้ทั้งรุก-รับ บวกกับมีจังหวะสอดเข้าเขตโทษได้ด้วย ตัวที่ชอบเปลี่ยนลงมาแทนอย่างเมอร์ฟียังฟอร์มต่างกันลิบลับ การถืออัลมิร่อนที่ราคาประหยัด และโปรแกรม “สาลิกาดง” ดียาวๆ อาจเป็นทางเลือกที่เอาไว้ punch เล็กๆ ได้เหมือนกัน

หลายคนน่าจะเจอปัญหาให้ครุ่นคิดพอสมควร หลัง GW7 เลื่อนไป และ GW8 กลับมาเตะกันแบบไม่ครบโปรแกรม ทีมอย่างไบรท์ตัน, เชลซี, ลิเวอร์พูล ที่เหล่ากุนซือถือนักเตะไว้ในมือกันเยอะ (อาจจะรวมถึงซาฮาของพาเลซ และแรชฟอร์ดของแมนฯ ยู หรือตัวลีดส์ด้วย) ทำให้เกิดปัญหามีตัวลงเล่นไม่ครบกัน

ปัญหาที่ว่ามา ทำให้หลายคนตัดสินใจแก้ปัญหาหลากหลาย แต่วิธีไหนจะเหมาะสมที่สุด ผมลองเอามาเขียนเป็นทางเลือกให้ได้ดูกัน เผื่อจะช่วยตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อย

อย่างที่เคยได้แชร์ไปใน EP ก่อนๆ ว่าทำไมกุนซือหลายคนถึงเลือกใช้ WC ช่วงนี้ ยิ่งการเกิดโปรแกรม GW8 ที่มีลงเล่นแค่เพียง 7 คู่ ยิ่งทำให้การใช้ WC ใน GW8 เหมาะสมขึ้นไปอีก เพราะนอกจากจะจัดการให้มีตัวลงเล่นมากที่สุดได้แล้ว ยังวางแผนเผื่อในระยะยาวจนกว่าเบรกฟุตบอลโลก ที่มี Unlimited Transfer ให้ (หลังจบ GW16) ได้ด้วย

อย่างไรก็ดี ไม่ได้หมายความว่าการใช้ WC GW8 หรือ GW9 จะถูกต้องกับทุกคนเสมอไป เพราะหากคุณวางแผนไว้ว่าจะใช้ WC หลังจากช่วงนี้ เพราะสามารถบริหาร Free Transfer ให้จัดแจงกับ GW8-10 ได้น่าพึงพอใจ การใช้ WC ในช่วง GW12-13 ก็น่าสนใจเช่นกัน ด้วยโปรแกรมเทิร์น (เช่น ลิเวอร์พูลจะกลับมาเจอโปรแกรมง่าย) และทำให้คุณได้เปรียบหลายคนที่ใช้ไปแล้ว

ดังนั้นการจะเลือกใช้ WC เลยหรือไม่ อย่ามองแค่เพียงการแก้ปัญหา BGW8 อยากให้ลองวางแผนยาวๆ ว่าทีมนี้จะบริหารได้จนถึง GW16 หรือไม่ กลับกันหากคิดจะใช้ทีหลัง ก็ต้องวางแผนว่าเรารับความเสี่ยงกับการที่คนส่วนใหญ่ใช้ WC ช่วงนี้อย่างไรบ้าง

อันนี้สอดคล้องกับที่อธิบายด้านบนเลย ว่าคุณต้องคิดยาวๆ เผื่อ GW อื่นนอกจาก GW8 ด้วย ทำให้การใช้ FH ดูไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ ยิ่งถ้าคุณมีทีมที่ไม่ได้พร้อมสำหรับ GW9-10 เท่าไหร่ เพราะมันเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นจนเกินไป

นอกจากความคุ้มค่าที่จะใช้ ต้องไม่ลืมว่าช่วงที่เอฟเอ คัพ เข้ารอบลึก โอกาสจะเกิด BGW จำนวนมาก ย่อมมีเหมือนซีซันก่อนๆ การไม่เก็บ FH ไว้รองรับ อาจเจอความเสี่ยงที่มากกว่า GW8 ยังไม่รวมถึง GW8 ไม่ได้มีโปรแกรมง่ายที่น่า bet กับตัวพรีเมียมเท่าไหร่นัก ยกเว้นจะลองเสี่ยงกับตัวอย่างซน, ริชาร์ลิสัน, หรือกองหน้าทีมรองอย่างวัตกินส์, อันโตนิโอ หรือกลางอย่างกอร์ดอน, โบเว่น แล้วเข้าเป้า