" สัตว์ "ตอนที่ 47 :ทิฏฐิ62..อันตานันติกทิฏฐิ ๔..แบบที่ 3...มีเจโตสมาธิ..รู้ว่าโลกนี้ทั้งมีที่สุด - ทั้งไม่มีที่สุด

กระทู้สนทนา


https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=9&item=26&items=25&preline=1

  [๓๗] ๑๑. (๓) อนึ่ง ในฐานะที่ ๓ สมณพราหมณ์ผู้เจริญ อาศัยอะไร ปรารภอะไรจึงมีทิฏฐิว่า 
โลกมีที่สุด...และ...หาที่สุดมิได้ บัญญัติว่า โลกมีที่สุดและหาที่สุดมิได้? 

ดูกรภิกษุทั้งหลายสมณะหรือพราหมณ์บางคนในโลกนี้ อาศัยความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส 
อาศัยความเพียรที่ตั้งมั่นอาศัยความประกอบเนืองๆ อาศัยความไม่ประมาท อาศัยมนสิการโดยชอบ 
แล้วบรรลุเจโตสมาธิอันเป็นเครื่องตั้งมั่นแห่งจิต 

" จึงมีความสำคัญในโลกว่า ด้านบนด้านล่างมีที่สุด
                                        ด้านขวางหาที่สุดมิได้ 
   เขากล่าวอย่างนี้ว่า โลกนี้ทั้งมีที่สุดทั้งไม่มีที่สุด
   สมณพราหมณ์พวกที่กล่าวว่า....โลกนี้มีที่สุด - กลมโดยรอบ นั้นเท็จ 
   ถึงสมณพราหมณ์พวกที่กล่าวว่า....โลกนี้ไม่มีที่สุด - หาที่สุดรอบมิได้ นั้นก็เท็จ 

    โลกนี้ทั้งมีที่สุด - ทั้งไม่มีที่สุด "
  
ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะเหตุว่า ข้าพเจ้าอาศัยความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส อาศัยความเพียรที่ตั้งมั่น 
อาศัยความประกอบเนืองๆ อาศัยความไม่ประมาท อาศัยมนสิการโดยชอบ 
แล้วบรรลุเจโตสมาธิ อันเป็นเครื่องตั้งมั่นแห่งจิต ย่อมมีความสำคัญในโลกว่า 
ด้านบนด้านล่างมีที่สุด ด้านขวางไม่มีที่สุด
ด้วยการบรรลุคุณวิเศษนี้ข้าพเจ้าจึงรู้อาการที่โลกนี้ทั้งมีที่สุดทั้งไม่มีที่สุด 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นฐานะที่ ๓ ซึ่งสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง อาศัยแล้ว ปรารภแล้ว
มีทิฏฐิว่า โลกมีที่สุดและหาที่สุดมิได้ ย่อมบัญญัติว่า  โลกมีที่สุด...และ...หาที่สุดมิได้.


สรุป (จะสรุปรวบยอด..ในตอนที่ - 49...สำหรับทิฏฐิ..ที่เห็นว่า..โลกมีที่สุดบ้าง - โลกไม่มีที่สุดบ้าง.. )
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ศาสนาพุทธ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่