ลูกนี้เมื่อคืน ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ยังไม่มีโกลไลน์ก็คงเถียงกันน่าดู เพราะมันเกิดขึ้นเร็วมาก
ถ้าภาพช้าเห็นว่าเข้าแต่นาฬิกาผู้ตัดสินไม่สั่น ไม่รู้ว่าคำตัดสินจะออกมายังไง
ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์จุดโทษที่ 2 ที่ลิเวอร์พูลไปเยือนนาโปลี การแย่งบอลของฟานไดค์ดูแล้วก็เหมือนปกติธรรมดา
เพราะวิ่งมาพร้อมๆ กัน
ไม่เหมือนกับเวลากองหลังยืนรอแล้วกองหน้าเลี้ยงบอลเข้ามา จึงจะมองว่าเป็นการสกัดให้เป็นการขัดขวางการเล่น
แต่แอคชั่นของกองหน้าทำให้กรรมการต้องไปตรวจสอบ VAR จึงได้เห็นว่าฟานไดค์ไปเหยียบโดนปลายเท้าของโอซิมเฮนนิดนึง
(กุมข้อเท้างยังกะโดนเตะ)
ซึ่งผมมองว่าการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป จนบางครั้งทำให้การตัดสินที่ต้องใช้ดุลยพินิจของกรรมการจึงขาดหายไป
การฟาวล์บางครั้งไม่ได้รุนแรง แต่พอดู VAR มันมีการสัมผัสกันจริง มันก็เลยต้องตัดสินกันไปตามกติกา
ปล.อันนี้ยกตัวอย่างบางกรณีนะครับ ไม่ได้มาเรียกร้องอะไร อยากพูดถึงเทคโนโลยีที่มันก็เหมือนดาบสองคม ที่มีทั้งดีและไม่ดีครับ
การใช้เทคโนโลยีช่วยการตัดสินฟุตบอลมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ถ้าภาพช้าเห็นว่าเข้าแต่นาฬิกาผู้ตัดสินไม่สั่น ไม่รู้ว่าคำตัดสินจะออกมายังไง
ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์จุดโทษที่ 2 ที่ลิเวอร์พูลไปเยือนนาโปลี การแย่งบอลของฟานไดค์ดูแล้วก็เหมือนปกติธรรมดา
เพราะวิ่งมาพร้อมๆ กัน
ไม่เหมือนกับเวลากองหลังยืนรอแล้วกองหน้าเลี้ยงบอลเข้ามา จึงจะมองว่าเป็นการสกัดให้เป็นการขัดขวางการเล่น
แต่แอคชั่นของกองหน้าทำให้กรรมการต้องไปตรวจสอบ VAR จึงได้เห็นว่าฟานไดค์ไปเหยียบโดนปลายเท้าของโอซิมเฮนนิดนึง
(กุมข้อเท้างยังกะโดนเตะ)
ซึ่งผมมองว่าการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป จนบางครั้งทำให้การตัดสินที่ต้องใช้ดุลยพินิจของกรรมการจึงขาดหายไป
การฟาวล์บางครั้งไม่ได้รุนแรง แต่พอดู VAR มันมีการสัมผัสกันจริง มันก็เลยต้องตัดสินกันไปตามกติกา
ปล.อันนี้ยกตัวอย่างบางกรณีนะครับ ไม่ได้มาเรียกร้องอะไร อยากพูดถึงเทคโนโลยีที่มันก็เหมือนดาบสองคม ที่มีทั้งดีและไม่ดีครับ