Devil in Ohio ดราม่าแนวลึกลับ(scary mystery-drama) ออริจินอลเน็ตฟลิกซ์ที่ไม่ได้ลึกลับสักเท่าไหร่นัก
หลังจากดู Midsommar จบ เน็ตฟลิกซ์ก็ได้แนะนำทีวีซีรี่ย์เรื่องนี้ต่อเป็นอันดับต้นๆจากตัวเลือกของเราทันที
ซึ่งพอเห็นมู้ดภาพ สี ลักษณะการเดินเรื่องจากตัวอย่าง รวมถึงเนื้อเรื่องย่อ จึงไม่ลังเลที่จะดูทันที
เนื้อเรื่องย่อ: ผู้สาวผมบลอนด์หรือน้องเม ที่หนีออกมาจากลัทธิหนึ่งที่อยู่เขตโอไฮโอ ซึ่งซูแซน(นางเอก) เป็นหมอที่รับเรื่องดูแล และด้วยความที่ไม่สามารถทอดทิ้งน้องเมได้เพราะรู้สึกด้วยความผูกพันหรือสงสารบางอย่างจึงรับมาดูแลในฐานะผู้ปกครองชั่วคราว หลังจากนั้นเรื่องราวแปลกประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นรอบตัวของครอบครัวซูแซน จบปิ๊ง
และนี่คือความเห็นส่วนตัวซึ่งรีวิวจากความรู้สึกหลังดูจบ
1.สิ่งที่จะพูดอย่างแรกคือโทนสีของทีวีซีรียส์เรื่องนี้ถูกจริตเรามาก ความทะมึนอึมๆครึมๆฟีลขรี้ไม่สุด แต่ไม่ได้ทำให้เราอึดอัดหรือหายใจไม่ทั่วท้องอะไร
2.อย่างที่สองคือเนื้อเรื่อง บอกตามตรงว่าอีพีแรกดำเนินเรื่องได้ดีมากจนเราวางช้อนข้าวไม่ลง แต่เมื่อพอดำเนินเรื่องไปได้ถึงตอนที่สาม ก็เริ่มรู้สึกง่วงหนาวหาวนอนขึ้นมา แต่ด้วยความอยากรู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร น้องเมจะมีชีวิตต่ออย่างแฮปปี้กับเจ๊ซูแซนหรือไหม จึงทำใจดูต่อ(เพราะน้องเมน่ารักหรอกนะ ถึงยอมดู)
3.อย่างที่สาม นักแสดง แอคติ้งของทุกคนสามารถตรึงให้เราดูซีรี่ยส์เรื่องนี้ต่อได้แม้ว่า story line ค่อนข้างที่จะเริ่มไม่ถูกจริตขึ้นเรื่อยๆ (คุณตำรวจหล่อเวอร์)
4.อย่างที่สี่ ที่มาที่ไปในตัวละครหลักแต่ละตัว ไม่ว่าจะเป็นซูแซน น้องเม หรือสามีของซูแซนก็ตาม รวมถึงดานิ ลูกสาวคนสุดท้องในบ้านแมธธิส ต่างถูก refer อดีตด้วยกันทั้งนั้น ทำให้เราเข้าใจและรับรู้ถึง Trauma ชีวิตแต่ละคน
5.อย่างที่ห้า การนำเสนอเรื่อง LGBTQ+ ค่อนข้างเสนอออกมาได้อย่างไม่ยัดเยียด มีฟีลฉากแบบจิ้นๆกรุบกริบ ซึ่งจากสายตาคนที่ไม่ได้สายยูริขอเตือนไว้ก่อนว่า...โมเม้นท์ค่อนข้างจะเยอะ แต่อย่างไรก็ดี ความงี่เง่าของการกระทำตัวละครบางตัวทำให้เราหงุดหงิดใจ
6.อย่างที่หก หากคุณกำลังมองหาทีวีซีรี่ย์ที่เขย่าขวัญ หรือ จบแบบหักมุม ขอเตือนไว้ก่อนว่า...ตอนจบอาจไม่เซอร์ไพรส์คุณสักเท่าไหร่นัก และฉากที่ว่าตุ้งแช่ ก็โคตรจะ Cliche ไม่ขนลุกเลย...ดังนั้นขอให้ดูอย่างชิวๆ
7.อย่างที่เจ็ด การตัดฉากเพื่อเปลี่ยนไปอีกฉากหนึ่งค่อนข้างจะแปลกประหลาด...แค่นั้นเลย
**ต่อไปนี้คือความรู้สึกหลังดูซึ่งขอเตือนว่าจะเป็นการสปอยล์แหลกนะจ้ะ**
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนอื่นขอเอ่ยถึงความสัมพันธ์ระหว่างเม-จูลส์
เป็นอะไรที่นึกขึ้นมาอย่างแรกเลยทันที
บอกตรงๆว่าตอนที่น้องเมมาเยือนบ้านแมทธิส ก็สัมผัสได้ถึงความมาคุที่ก่อตัวขึ้น แต่จูลส์นั้นเป็นตัวลละครที่ซื่อตรง ในทางกลับกันก็พยายามเก็บอารมณ์ตัวเองไม่ให้บรรยากาศรอบข้างอึดอัด
พอทั้งคู่เริ่มสนิทกันเรื่อยๆ โมเม้นคู่นี้ก็เริ่มมา จนเราคนดูยัง 'เอ๊ะ' อะไรวะ คู่นี้แปลกๆ แต่เราก็โอเคนะเพราะซีรี่ยส์มันย้ำชัดเจนว่าแค่เพื่อนนะจ๊ะ แค่เพื่อน
อย่างไรก็ตามโมเม้นท์คู่นี้กลับมีมาให้รับชมในองค์2 อยู่เรื่อยๆพอเรายิ้มกรุ้มกริ่ม
เรื่องถัดมา ครอบครัวแมทธิส
ความสัมพันธ์ที่โคตรจะพิลึกระหว่างจูลส์กับพี่สาวคนโต เฮเลน
ด้วยความที่เจ๊เฮเลนไปคบกับเท็ดดี้ หนุ่มหล่อหน้าตาดีดีกรีโอไฮโอคิ้วท์บอย ทำให้เจ๊เฮเลนตีห่างจากน้องสาวสุดติ๋มของเธอ(หยอก...)
แต่เนื้อเรื่องกลับมาพลิกผันว่า เธอมีใจให้กับเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงเสียอย่างนั้น และบอกเลิกเท็ดดี้อย่างไร้เยื่อใย(แรงมากแม่)
ปีเตอร์ สามีและคุณพ่อซึ่งเป็นนายหน้าขายอสังหาฯ
จริงๆปีเตอร์เกือบจะถูกตราหน้าแล้วว่าเป็นพวกไม่เอาถ่าน หากวันนั้นที่บ้านคฤหาสน์สุดหรูไม่ถูกไฟไหม้เสียก่อน พี่แกอาจจะเสร็จให้กับคารมสาวสวยที่บาร์ แต่อย่างไรก็ตาม! สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นคนที่เก็บอารมณ์ได้ดีและมีความเป็นผู้ใหญ่สูงที่สุดในบ้านหลังนี้(ขอนับถือ) ไม่เคยใช้อารมณ์ลงกับพวกลูกๆ
ซูแซนด์ ภรรยาและคุณแม่ ที่มีความหลังวัยเด็กที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก
อย่างที่รู้กันว่าซูแซนด์เป็นหมอจิตแพทย์ที่มีทรอม่ากับความหลังช่วงตอนที่เจ้าตัวอยู่กับพ่อเลี้ยง
ซึ่งก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่นำความรู้สึกผิด ความรู้สึกเจ็บปวดมาปกป้องและหน้ามืดตามัวพิทักษ์น้องเม
อย่างไรก็ตามนั่นทำให้เธอทิ้งครอบครัวและจัด priority ของเมเป็นที่หนึ่งซะงั้น...
ส่วนน้องดานิ ก็ถือเป็นฟีลเด็กน้อยน่ารัก ซื่อๆตามประสาเลยแหละนะ
น้องเมและลัทธิมหัศจรรย์ของเธอ
ต่อไปนี้จะเป็นการตีความเนื้อหาทุกอย่าง และสิ่งที่เราเข้าใจหลังจากที่ดูจบ
ความน่าสงสารของน้องเมทำให้เราเห็นใจว่าตัวละครถูกทารุนมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินถึงจุดหนึ่ง
ในใจก็คิดว่า 'เริ่มจะแปลกๆละ' ซึ่งมันก็แปลกอย่างที่ได้คาดเดาไว้
ตอนแรกก็แค่อยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแมทธิส รู้สึกโชคดีที่หนีลัทธิแปลกประหลาดออกมาได้
แต่เมื่อนานวันเข้าการกระทำของเธอเริ่มทำให้ผู้อื่นไม่เข้าใจ ซึ่งตัวละครที่ไม่ได้มีระบบความคิดที่ซับซ้อนเหมือนเด็กไฮสคูลทั่วไปอย่างจูลส์ ดานิ หรือเฮเลน ทำให้เมแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนเกลียดเธอทั้งๆที่เธอหวังดี
น้องเมผู้หนีออกจากลัทธิ ซึ่งในช่วงตอนที่ 5-8 สัญลักษณ์โดยนัย รวมถึงการพูดบอกใบ้แบบอ้อมๆของบางตัวละคร ทำให้อะไรๆเริ่มกระจ่างขึ้นมา
มีฉากหนึ่งหลังจากที่ปีเตอร์และซูแซนด์ได้คุยว่าจะส่งให้เมไปอยู่ที่อื่นอย่างจริงจัง เพราะปีเตอร์รับไม่ไหวแล้ว
ตัวน้องเมที่แอบฟังและขึ้นห้องไป หล่อนหยิบรูปภาพคู่ของสามีภรรยา โดยเอามือหนึ่งปิดหน้าของปีเตอร์ไว้ เหลือแค่ซูแซนด์
ซึ่งเธอกำลังจะสื่อว่า เธอไม่ต้องการใครนอกจากหมอหญิงที่แสนดีคนนี้
สุดท้ายเธอจึงไม่อยากส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตซูแซนด์
แผนการในการที่จะกำจัดทุกคนให้พ้นทางจึงเริ่มขึ้น
-ตอบรับคำชวนจากคนที่จูลส์ชอบ จะควงไปที่งานเก็บเกี่ยวด้วยกัน
-พอเทผู้ชายคนก่อนหน้าเพราะว่าจูลส์นั้นไม่โอเค จึงตอบรับคำชวนจากเท็ดดี้ หลังจากที่เท็ดดี้เลิกกับเฮเลน แต่ส่วนตัว คิดว่าเมต่างหากที่เป็นคนไปชวนเท็ดดี้ สังเกตุได้หลังจากที่เฮเลนบอกเลิกเท็ดดี้ หล่อนนั้นเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และพูดกับเฮเลนว่า "ทุกข์ใจอะไรก็อย่าเก็บไว้" คาดว่าหลังจากนั้นเธอคงไปชวนเท็ดดี้ทันที
-ทำไมถึงชวนเท็ดดี้? เพราะเป็นการปูทางที่เธอจะได้ขโมยรถเท็ดดี้+แพลนที่ซื้อดอกกุหลาบสีขาว แกล้งว่าตัวเอง traumatize จากการเห็นดอกกุหลาบ และใช้รถของเท็ดดี้กลับไปที่ลัทธิ เพราะหล่อนรู้ว่า ซูแซนด์ไม่มีวันทิ้งหล่อน
-"คุณกลับมาหาฉันจริงๆด้วย" ประโยคที่หล่อนพูดตอนตัวเองกำลังจะถูกไหม้อยู่ละ แต่ก็นั่นแหละ ทุกอย่างถูกคำนวนไว้อยู่แล้ว อีกทั้งพี่ชายของเธอก็พูดว่า "เพราะเธอนั้นแหกกฎ และทำลายโซ่ตรวน ทำให้ทุกอย่างพัง" จึงสันนิษฐานได้ว่า เธอฉลาดพอที่จะไม่กลับไป หากนั่นไม่ใช่ฟางเส้นสุดท้ายที่จะทไให้ซูแซนด์เลือกเธอ และทอดทิ้งสามีและลูกๆ
และสุดท้ายเธอก็ครอบครองซูแซนด์ได้ ด้วยการกุมจุดอ่อนของเธอ เพราะรู้ว่าซูแซนด์ใจอ่อน และไม่มีวันทอดทิ้งเธอ
สรุป: ยังไม่ถึงกับถูกจริต เมื่อเทียบกับหนังในหมวดเดียวกันเอง แต่ก็พอดูอย่างถูไถได้
หากว่างและคิดไม่ออกจะดูอะไร ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่ไม่เลวนัก
ส่วนตัวให้ 6/10
[Review]Devil in Ohio ดราม่าแนวลึกลับ ออริจินอลเน็ตฟลิกซ์ที่ไม่ได้ลึกลับสักเท่าไหร่นัก