สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ในสังคม ทั้งไทยและเทศ มีแบบนี้เยอะ
ก็อย่าไปให้ราคา ใช้พรหมวิหาร 4 คือ
เมตตา เธอ ให้เธอได้ระบาย ในสิ่งที่อยากจะอวดว่า ตูนี่ดีกว่าใครๆ ลูกตูนี่ดีกว่าลูกคนอื่นๆ ก็ให้เวทีเธอพร่ามไป เวลาฟังก็ทำสมาธิ
มุทิตา ก็ยินดีกับเธอ ดีแล้วๆๆๆ อยู่เมืองใหญ่ ต่อไปจะได้เป็นผู้ว่าการรัฐ เยี่ยมเลย จำเริญๆๆ
กรุณา ก็คือ ความสงสารคิดช่วยให้พ้นทุกข์ ได้พูดๆๆๆ ไม่งั้นเธอจะเครียด ให้เธอได้ปลดเปลื้องบำบัดความทุกข์ยาก เพราะเมื่อโอ้อวดแล้ว
จิตเธอจะผ่อนคลายลง
อุเบกขา คือ ตัวเรา ก็วางเฉยกับเรื่องนิทาน เรื่องดราม่า แล้วเตือนตนว่า โลกคือละคร
น้ำหลากมาแรง เลี่ยงได้ก็เลี่ยง แม้จะไฟเขียว แต่เจอสิบล้อขับมาแรงดูท่าจะแหกไฟแดง หยุดได้ก็คือหยุด อย่ายืนยันว่าเราถูกต้อง
ขี้เหม็น อย่าเอานิ้วไปจิ้มมัน หาประโยชน์ไม่ได้
เลี่ยงได้ก็อย่าสนทนา เลี่ยงไม่ได้ก็ใช้พรหมวิหาร 4 ในการรับฟัง จบการสนทนา ก็วางไว้ตรงนั้น
ดีซะอีก ได้มีคนแบบนี้ มาให้ฝึกสมาธิ ฝึกพลังจิต เอาเขามาเป็นเครื่องมือฝึกใจตน
เพราะสุดท้าย เราก็จะมองเขาด้วยเวทนา
คนพวกนี้สอนไม่ได้ เพราะบุคลิกภาพทางจิตไม่ปกติ มีปมด้อย ต้องการ ความยอมรับ มีทิฐิมาก ดื้อ สอนยาก
ดีสุด คือ เอาเขามาเป็นเครื่องมือ ในการฝึกสมาธิจิตของเรา และมองเขาเป็นเครื่องมือหนึ่ง เราก็ต้องไม่ไปยึดติดเครื่องมือนั้น ว่าสำคัญ
สุดท้ายก็สลายไป
ในทุกสังคม ไม่ว่า เอเซีย หรือฝาหรั่ง ชาติไหนๆ ก็คือ มนุษย์ ย่อมอยู่ใน โลกธรรม 8 คือ
มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสุข มีทุกข์ มีสรรเสริญ มีนินทา ==> ก็ถือ เป็น นิทานสนุกๆ ที่เราต้องปล่อยวาง แม้จะอินกับเนื้อเรื่องบางช่วง บางตอนไปบ้างนะครับ Take Care. ครับ
** แก้คำสะกดครับ
ก็อย่าไปให้ราคา ใช้พรหมวิหาร 4 คือ
เมตตา เธอ ให้เธอได้ระบาย ในสิ่งที่อยากจะอวดว่า ตูนี่ดีกว่าใครๆ ลูกตูนี่ดีกว่าลูกคนอื่นๆ ก็ให้เวทีเธอพร่ามไป เวลาฟังก็ทำสมาธิ
มุทิตา ก็ยินดีกับเธอ ดีแล้วๆๆๆ อยู่เมืองใหญ่ ต่อไปจะได้เป็นผู้ว่าการรัฐ เยี่ยมเลย จำเริญๆๆ
กรุณา ก็คือ ความสงสารคิดช่วยให้พ้นทุกข์ ได้พูดๆๆๆ ไม่งั้นเธอจะเครียด ให้เธอได้ปลดเปลื้องบำบัดความทุกข์ยาก เพราะเมื่อโอ้อวดแล้ว
จิตเธอจะผ่อนคลายลง
อุเบกขา คือ ตัวเรา ก็วางเฉยกับเรื่องนิทาน เรื่องดราม่า แล้วเตือนตนว่า โลกคือละคร
น้ำหลากมาแรง เลี่ยงได้ก็เลี่ยง แม้จะไฟเขียว แต่เจอสิบล้อขับมาแรงดูท่าจะแหกไฟแดง หยุดได้ก็คือหยุด อย่ายืนยันว่าเราถูกต้อง
ขี้เหม็น อย่าเอานิ้วไปจิ้มมัน หาประโยชน์ไม่ได้
เลี่ยงได้ก็อย่าสนทนา เลี่ยงไม่ได้ก็ใช้พรหมวิหาร 4 ในการรับฟัง จบการสนทนา ก็วางไว้ตรงนั้น
ดีซะอีก ได้มีคนแบบนี้ มาให้ฝึกสมาธิ ฝึกพลังจิต เอาเขามาเป็นเครื่องมือฝึกใจตน
เพราะสุดท้าย เราก็จะมองเขาด้วยเวทนา
คนพวกนี้สอนไม่ได้ เพราะบุคลิกภาพทางจิตไม่ปกติ มีปมด้อย ต้องการ ความยอมรับ มีทิฐิมาก ดื้อ สอนยาก
ดีสุด คือ เอาเขามาเป็นเครื่องมือ ในการฝึกสมาธิจิตของเรา และมองเขาเป็นเครื่องมือหนึ่ง เราก็ต้องไม่ไปยึดติดเครื่องมือนั้น ว่าสำคัญ
สุดท้ายก็สลายไป
ในทุกสังคม ไม่ว่า เอเซีย หรือฝาหรั่ง ชาติไหนๆ ก็คือ มนุษย์ ย่อมอยู่ใน โลกธรรม 8 คือ
มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสุข มีทุกข์ มีสรรเสริญ มีนินทา ==> ก็ถือ เป็น นิทานสนุกๆ ที่เราต้องปล่อยวาง แม้จะอินกับเนื้อเรื่องบางช่วง บางตอนไปบ้างนะครับ Take Care. ครับ
** แก้คำสะกดครับ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ชีวิตในต่างแดน
การเลี้ยงลูก
เมื่อก่อนต้องอวดว่าอยู่กรุงเทพ เดี๋ยวนี้ต้องอวดมาอยู่นิวยอร์ก ชิคาโก้ แล้วรึ?
เหมือนเขาไม่เข้าใจว่า work from home คืออะไร อิสระภาพในการทำงานคืออะไร อะไรคือการไม่ต้องเข้าไปแย่งชิงในเมืองใหญ่ ไม่เข้าใจว่าคุณภาพชีวิตที่ดี ที่ไม่ต้องกระจุกตัวในนิวยอร์ก ชิคาโก้ ซานฟราน คืออะไร เราผ่านช่วงวัย 20 ไปแล้ว เราไม่มีความต้องการจะไป hangout กับเพื่อนทุกๆเย็น แต่เราคือมีครอบครัว มีบ้านมีสนามหญ้า มีสระว่ายน้ำ มีหมา มันไม่ใช่ชีวิตในคอนโดหรือในทาวเฮ้า ตกเย็นไปเล่นกับเพื่อน แบบ young adult อีกต่อไปแล้ว เงิน 20 ล้านซื้ออย่างดีได้ทาวเฮ้าในชิคาโก้ซับเอิบ ถ้าอยากได้ในดาวทาวน์ 30 ล้าน คอนโดเท่านั้น รัฐอื่น 20 ได้บ้านมีพื้นที่มีสระ มีสวน จัดปาร์ตี้หลังบ้าน เอา inflable มาลง สไลน์ลงสระ backyard bbq สารพัดกิจกรรมที่จะทำที่ “บ้าน” ที่ทำไม่ได้ที่ทาวโฮม คอนโด
บางทีก็คิดว่าต้องสอนให้แม่ขิงกลับรึเปล่านะ? แต่มานึกๆดูมันก็ไร้สาระนะ เอาครอบครัวอาจารย์วิศวะ ไปเปรียบเทียบกับครอบครัวตำรวจ รายได้-ความเป็นอยู่มันเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว คิดว่าเอาคนจบมัธยมเทียบกับคนจบด๊อกเตอร์ได้มั้ยละ?
จริงๆ อาจไม่เกี่ยวกับป้าข้างบ้านเลย เราคิดว่าต่อให้ชีวิตเราดีขนาดไหน แม่ก็มีช่องให้ติ ให้บ่นได้ ไม่ดีพอได้ตลอดๆ เช่น เราเล่าว่าชีวิตที่อเมริกาเราดี เราไม่เคยเจอน้ำท่วม หรือรถติดแบบกทม เลยตลอด 10 ปีที่เราอยู่ แม่เราก็บอกว่าตอนเราอยู่ กทม เรามันเยาะแยะ ไม่อดทนเอง ใครๆ ก็เจอรถติด น้ำท่วม เรานี่แบบ what?!?!!! ใช่ไงเราไม่ชอบลำบาก ไม่อดทน แต่ชีวิตเราเลือกได้ ทำไมเราต้องเลือกที่จะทนน้ำท่วม รถติด? จากอโศกกลับไปนนทบุรี วันศุกร์ รถติด ยาวๆไป 2-3 ชม เป็นชีวิตที่เราจะไม่เอาอีกแล้ว พอกันทีชีวิตในเมือง อีกเรื่องที่เพิ่งโดนวิจารณ์มา คือเราทำสระว่ายน้ำอยู่ แล้วราคามันแพงกว่าปกติเพราะทำช่วงโควิท แม่ก็หาว่าครอบครัวเราทำอะไรเกินตัว เราก็อธิบายไปว่าไม่เกินตัว เพราะรายได้ครอบครัวเราตอนนี้เกือบล้านต่อเดือนแล้ว ถ้ารายรับขนาดนี้ยังทำสระว่ายน้ำไม่ได้ ก็ไม่มีใครทำได้อีกแล้ว แม่ก็วิจารณ์ต่อว่าแล้วมาทำตอนโควิทที่มันแพงทำไม ทำไมไม่ทำตั้งแต่ตอนเซ็นบ้าน ที่ราคายังไม่แพง พวกแกทำอะไรไม่เคยงวางแผน ก็ต้องอธิบายเพิ่มไปว่าตอนนั้นยังไม่เปลี่ยนงาน แค่ค่าบ้านยังกังวล จะมาทำสระได้ไง ใครจะไปรู้ว่าอีก 3 เดือนข้างหน้า เงินเดือนมันจะเพิ่มมาอีก $100K ต่อปี ซึ่งส่วนที่เพิ่มมาก็ทำสระได้พอดี คือเราสงสัยว่าพวกเราจบ PhD กันทั้งคู่ เป็นต่างชาติทั้งคู่ แต่มีงานรายได้ดีทำ ได้กรีนการ์ด มีบ้าน work from home workation ในรัฐต่างๆ ในยุโรป ทุกอย่างเราอยู่ดีหมด แต่แม่เรา ด้วยเหตุผลบางอย่าง รู้สึกว่าเราด้อยกว่าคนอื่น รู้สึกน้อยใจเวลาคนอื่นมาอวดใส่ คือเราต้องปรับ mindset แม่เรายังไงดี คำถามที่ห้วกระทู้กับคำถามที่ท้ายกระทู้เป็นคนละคำถามกัน เพราะเรารู้สึกว่าปัญหาจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่ป้าข้างบ้านมาอวด แต่อยู่ที่แม่เราเขาไม่มีความสุข ที่เราเป็นเราที่มีความสุข เราก็คุยกับสามีนะ ว่าเราต้องเป็นทุกข์ ล้มเหลว ผัวถีบ กลับไทยไปพึ่งแม่ แล้วแม่เราได้แสดงแบบว่า กลับบ้านเราเถอะลูก ที่ไทยดีที่สุด แม่บอกแล้ว มาๆ แม่ดูแลเอง แบบนี้คือฟินสุดรึเปล่า?