Hunt
ล่าคนสองคม
⭐️⭐️⭐️⭐️

เกมล่าตัวหนอนบ่อนไส้เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการสงสัยว่ามีสายลับเกาหลีเหนือฉายา ดงลิม ปลอมตัวเข้ามาปะปนไปกับเจ้าหน้าที่ในหน่วยสืบราชการลับระหว่างประเทศที่มี พัคพยองโฮ (อีจองแจ) เป็นหัวหน้า หรือไม่ก็แทรกซึมอยู่ในหน่วยข่าวกรองแห่งชาติที่มี คิมจองโด (จองอูซอง) เป็นหัวหน้า ยิ่งหาตัวได้ช้าเท่าไร หัวหน้าทั้งสองหน่วยนี้ก็ยิ่งถูกบีบให้ต้องกินหัวกันเอง และมีโอกาสบานปลายใหญ่โตมากขึ้นไปอีกเพราะข้อมูลที่รั่วไหลเหล่านั้นอาจส่งผลร้ายต่อชีวิตของประธานาธิบดีเกาหลีใต้

หนังเล่าเรื่องการล่าสายลับเกาหลีเหนือที่มาแทรกซึมในหน่วยงานความมั่นคงของเกาหลีใต้อย่างเข้มข้น จริงจัง และได้ลุ้นหนักมากตั้งแต่ต้นเรื่องจนท้ายเรื่อง การเดาว่าใครเป็นสายลับก็ว่ายากในระดับหนึ่งแล้ว แต่การคาดเดาถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อ ๆ ไปในเรื่องนี่สิยากกว่า นั่นเพราะเล่าเรื่องแบบลวงหลอก หลอกล่อคนดูเก่งมาก หักมุมอยู่ได้เรื่อย ๆ แล้วอารมณ์ในหนังนี่เดือดดาลตลอดเวลา ต้องชมเลยว่านอกจากบทหนังจะทำได้ดีแล้ว การกำกับให้หนังออกมาสนุกจัดเดือดสุดขนาดนี้ได้เนี่ยก็ต้องเรียกว่ามีฝีมือ แต่ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน อีจองแจ ที่ทั้งเล่นเองกำกับเองนี่แหละ แล้วนี่เป็นหนังที่กำกับเรื่องแรกด้วย พวกฉากแอคชันในการไล่ล่ากันนี่ก็ทำได้สมจริงดีมาก ถึงใจถึงอารมณ์ขั้นสุด ขอยกนิ้วให้เลย อย่างไรก็ดีในตอนท้ายมีฉากใหญ่ที่มีการใช้ซีจีเข้ามาช่วยซึ่งยังทำได้ไม่ค่อยเนียนดีนักทำให้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เรียกว่าเกือบจะเพอร์เฟกต์แล้วเชียว อีกนิดเดียวเอง

นอกจากเรื่องราวการไล่ล่าสายลับอย่างดุเดือดแล้ว ลึกลงไปกว่านั้นด้วยความที่เหตุการณ์ในหนังเกิดขึ้นในช่วงยุค 80 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกาหลีใต้มีประธานาธิบดีที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำเผด็จการ ถึงขั้นสั่งสลายการชุมนุมที่เมืองกวางจูในเดือนพฤษภาคมปี 1980 และกล้าสั่งฆ่าผู้ประท้วงมากมายจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นพันคน นั่นคือหนังตั้งใจแตะประเด็นต่อต้านผู้นำเผด็จการที่นำมาซึ่งความเลวร้ายวายป่วงต่อประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียชีวิตของประชาชน ทั้งที่ในปัจจุบันเกาหลีใต้ได้หลุดพ้นจากเรื่องการทำรัฐประหารหรือการมีผู้นำเผด็จการมานานมากแล้ว ก็คิดเสียว่านี่คือบทเรียนในอดีตที่ต้องเรียนรู้เพื่อจะได้ไม่กลับไปทำซ้ำ

แต่เรื่องแบบนี้คงไม่มีความหมายใด ๆ กับบางประเทศที่ยังคงผลิตซ้ำ การรัฐประหาร อยู่เรื่อย ๆ และดูจะไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

แปลกใจอย่างหนึ่งตรงที่แม้หนังเรื่องนี้จะพูดถึงการห้ำหั่นกันระหว่างสองประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ แต่กลายเป็นว่าประเด็นสำคัญจริง ๆ ของหนังไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เป็นการชำแหละความเลวร้ายของระบบเผด็จการต่างหาก เพราะถ้าเริ่มต้นด้วยเผด็จการแล้ว การคอรัปชันก็จะตามมาเป็นสูตรตายตัวโดยที่จะหาทางเอาผิดกับคนทำนั้นเป็นเรื่องยากมาก ๆ

ไม่พูดถึงนักแสดงสองตัวพ่อของวงการเกาหลี อีจองแจ กับ จองอูซอง ที่มาฟาดกันในเรื่องนี้คงไม่ได้เพราะเล่นกันดีมาก เอาอยู่ทั้งคู่ แทบจะกินกันไม่ลง ทำให้นึกถึงหนังฮ่องกง สองคนสองคม (Infernal Affairs) ที่มีนักแสดงตัวพ่อของฮ่องกงอย่าง เหลียง เฉาเหว่ย กับ หลิว เต๋อหัว มาเล่นปะฉะดะฟาดฟันกันเน้น ๆ คล้ายกันเลย โดยส่วนตัวแล้วแม้ว่าจะคุ้นเคยกับผลงานของ อีจองแจ มากกว่า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบทนำในซีรีส์ Squid Game สุดฮิตเมื่อไม่นานมานี้ แต่กับเรื่องนี้บอกเลยว่าขอเทใจให้ จองอูซอง มากกว่าหน่อยก็แล้วกันเพราะลุคที่ออกมาในหนังมันเท่มาก ไม่ต้องพูดถึงว่าเล่นดีหรือไม่เพราะก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเล่นกันได้ดีมากทั้งคู่ อาจจะด้วยบทบาทของตัวละครในเรื่องด้วยที่ดูมิติมากกว่า มีบาดแผลในใจที่หนักหน่วงกว่า มันก็เลยออกมาโดนใจได้หนักขนาดนี้

ขบเคี้ยวหนัง

#ล่าคนปลอมคน #HuntMovie